ประวัติคุณพ่อสมใจ คงบุญ
ประวัติคุณพ่อสมใจ คงบุญ โดยสังเขป
เกิด 8 ต.ค. 2493 ปีขาล
ที่บ้านวังพา หมู่ที่ 9 อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา
บิดาชื่อ นายสูลิ่ม แซ่เลี่ยม
มารดาชื่อ นางเคลื่อน คงบุญ
พี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน
1 นายฟอง เยี่ยมพาณิช
2 พระสว่าง ตาย
3 นางจิน เยี่ยมพาณิช ตาย
4 นางลัดดา เยี่ยมพาณิช ตาย
5 นายสมใจ คงบุญ
6 นายอังกื้อ เยี่ยมพาณิช
7 น.ส. แย้ด เยี่ยมพาณิช ตาย
8 นางชือม่อย เยี่ยมพาณิช
9 นายบุญชัย เยี่ยมพาณิช
พี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน
1 นางสมบูรณ์ สุรัตกูลวัฒนา
2 นายสมนึก นวลวิลัย
3 นางผล นวลวิลัย
4 นายณัฐ นวลวิลัย ตาย
5 นายธีรพงศ์ นวลวิลัย
ภรรยา นางพธู คงบุญ
บุตร ธิดา
1 น.ส.ปวีนัฐ คงบุญ น้ำ
2 นายโอฬาร คงบุญ ลม สมรสกับนางสุรัสวดี
หลานสาว
1 ด.ญ ปารมี คงบุญ อลิส
2 ด.ญ ปุณิกา คงบุญ ข้าวฟ่าง
สุนัข
1 เพชรน้อย พันธ์พุดเดิ้ล
ประวัติการศึกษา
- ประถมศึกษา รร. บ้านวังพา
- มัธยมศึกษาตอนต้น รร. หาดใหญ่วิทยาลัย
- มัธยมศึกษาตอนปลาย รร. วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน
- ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยรามคำแหง นิติศาสตร์บัณฑิต
- 2545 ปริญญาโท สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ รัฐศาสนศาสตร์
- 2558 สอบใบอนุญาต ทนายความ
- 2557 อาจริยศาสตร์ สถาบันพลังจิตตานุภาพ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
วัยเด็ก บิดามารดาแยกทางกัน มารดาได้สมรสใหม่กับนายผอม นวลวิลัย ซึ่งก็เลี้ยงดูข้าพเจ้าเหมือนบุตรเสมอมา ข้าพเจ้ามียาย ชื่อ นางคล้อย คงบุญ รักและเอ็นดูข้าพเจ้ามาก นอกนั้นยังมีน้าชายอีก 2 คน คือนายถัด คงบุญ และนายลอย คงบุญ
บ้านวังพาในสมัยนั้นเป็นบ้านกันดารไม่เจริญ อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอ หาดใหญ่ 30 ก.ม.
เมื่อปี 2500 บ้านวังพา รร. วังพาได้เปิดทำการสอน ชั้นประถมปีที่ 1-4 มีนายเคียง พุทธแก้ว เป็นครูใหญ่และครูประจำชั้นเพียงท่านเดียว
ครอบครัวของข้าพเจ้ามีอาชีพ ทำสวนยางพารา ค้าขาย ปลูกข้าวไร่
- 2503 บิดาของข้าพเจ้าคือนายสู่ลิ่ม ได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคน้ำท่วมปอด
- 2504 จบชั้นประถม 4 ข้าพเจ้าได้ไปศึกษาต่อที่บ้านคลองหวะ ต. คลองหวะ อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา
จนจบ ป. 7
ข้าพเจ้าได้ศึกษาชั้น ม.ศ. 1-3 รร.หาดใหญ่วิทยาลัย อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา
- ม.ศ. 4-5 ที่ รร. วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน
เหตุที่มาเรียนที่กรุงเทพฯ เพราะสอบเข้าเรียนที่ รร. มหาวชิราวุธสงขลาไม่ได้ วัดพระศรีมหาธาตุ เป็น รร. รัฐบาลประเภท 2 รับ นร. เพิ่มทีหลัง ข้าพเจ้าจบ ม.ศ. 5 เมื่อปี 2512 รุ่นปีข้อสอบรั่ว และสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ จึงไปสอบเข้า รร. ป่าไม้แพร่ ของกรมป่าไม้ โดยมีเพื่อนแนะนำ ชื่อนายวิโรจน์
ข้าพเจ้าได้เรียน รร. ป่าไม้แพร่ จนจบ พ.ศ. 2514 ได้รับประกาศนียบัตร วิชาชีพป่าไม้ และได้รับบรรจุเข้ารับราชการในตำแหน่งพนักงานป่าไม้จัตวา อันดับ 3 ชั้น 900 บาท
ได้รับคำสั่งจากกรมป่าไม้ให้ไปดำรงตำแหน่ง พนักงานป่าไม้จัตวา ประจำสำนักงานป่าไม้ จ. นราธิวาส อ. เมือง เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2514 ต่อมาเมื่อ 10 ส.ค. 2516 ขณะที่ข้าพเจ้ายังรับราชการอยู่ที่ จ. นราธิวาส ข้าพเจ้าได้สมรสกับนางพธู เหมพานนท์ ซึ่งขณะนั้นได้รับการบรรจุเป็นครูเทศบาล รร.เทศบาล 5 วัดประชาภิรมณ์ ในตำแหน่ง ครูจัตวา อัตราเงินเดือน 870 บาท เมื่อทำการสมรสกันได้ไปเช่าห้องแถวที่ ตลาดบางนาค อ. เมือง จ. นราธิวาส
- 26 มี.ค. 2517 ข้าพเจ้าได้ลูกสาว 1 คนคือ ด.ญ.ปวีนัฐ คงบุญ ตอนแรกคลอดได้นำไปฝากไว้ที่บ้านป้าเชี้ยน เลี้ยงดูเวลากลางวัน ซึ่งป้าเชี้ยนเป็นพี่สาวของแม่ยาย นางเพ็ญศรี เหมพานนท์ ด.ญ. ปวีนัฐ เกิดที่ ร.พ. นราธิวาส โดย น.พ. ซาเล
ต่อมาปี 2518 ข้าพเจ้าได้รับคำสั่งให้ย้ายไปรับราชการป่าไม้ อ. สุไหงโกลก จ. นราธิวาส ทำให้ต้องย้ายครอบครัวไปอยู่ที่นั่น สำหรับ ด.ญ ปวีนัฐ นั้นได้รับการเลี้ยงดูจาก น.ส.ขิดซึ่งเป็นคนเลี้ยงน้องของพี่จารึก ละอองผล พนักงานที่ดิน
ปี 2519 นายไพบูลย์ ตัณทวิสุท ป้าไม้จังหวัดนราธิวาส และนายพิชัย แก้วมโน เจ้าพนักงานป่าไม้ตรี ได้ถูก ขจก. จับเรียกค่าไถ่บนเส้นทางสุไหงโกลก ตากใบ เมื่อโจรปล่อยตัวออกมานายไพบูลย์ ตัณทวิสุท ได้ย้ายไปเป็นป่าไม้จังหวัดจันทบุรี และชวนให้ข้าพเจ้าได้ย้ายติดตามไปด้วย โดยกรมป่าไม้ได้มีคำสั่งให้ข้าพเจ้าไปดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานป่าไม้ 3 จ. จันทบุรี ส่วนนางพธู คงบุญ ภรรยา ได้ย้ายติดตามมาด้วยโดยบรรจุเป็นครู รร. เทศบาล 1 จ. จันทบุรี ข้าพเจ้าและครอบครัวได้ย้ายมาอยุ่ที่ จ. จันทบุรีเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 19 ได้ไปเช่าบ้านอยุ่แถวบ้านลุ่ม เป็นที่อยุ่อาศัยและในปลายปี 2519 ได้บุตรชายอีก 1 คน ชื่อ ด.ช. โอฬาร คงบุญ เกิด 4 พ.ย. 19 ที่คลีนิกหมอสลวย ศรีบุญเรือง เมื่อถึงวัยเข้าเรียนอนุบาล ด.ญ.ปวีนัฐและ ด.ช. โอฬาร คงบุญ ได้เข้าเรียนที่ รร. อนุบาลปรัชญาอนุสรณ์ และเข้าเรียนชั้นประถมที่ รร. สตรีมารดาพิทักษ์ทั้ง 2 คน จนจบชั้น ป. 6 ด.ญ. ปวีนัฐได้ไปเรียนต่อชั้น ม.1-6 ที่ รร.วัฒนาวิทยาลัย ส่วน ด.ช.โอฬาร ม.1-6 ที่ รร. เบญจมราชูทิศ จ. จันทบุรี
2536-2540 น.ส. ปวีนัฐ คงบุญ สอบเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน คณะวิทยาศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์
2540-ปัจจุบันทำงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
2538 นายโอฬาร คงบุญ สอบเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน คณะวิศกรรมศาสตร์ ไฟฟ้า เมื่อจบการศึกษาแล้วได้ทำงานที่ บริษัท SCI จ.ปทุมธานี
ปัจจุบัน ทำงานที่ บ. ฟาบริเนท อ. รังสิต จ.ปทุมธานี
ส่วนข้าพเจ้าในปี 2520 ปลายปีได้รับตำแหน่งป่าไม้บางปะกง ระดับ 4 ในระหว่างที่รับราชการอยู่นั้นได้ อาศัยบ้านเพื่อนอยุ่ที่ด่านป่าไม้บางทราย ต. หนองไม้แดง จ. ชลบุรี และในช่วงนี้ได้ไปสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะนิติศาสตร์ รุ่น 12 จนจบปี 2529 ใช้เวลาเรียน 8 ปี
ปี 2525 ย้ายกลับมาประจำ สนง. ป่าไม้ จ. จันทบุรี
ปี 2532 ได้รับคำสั่งให้ไปเป็นป่าไม้ อ. สอยดาว ระดับ 5
ปี 2536 ย้ายไป อ. แหลมสิงห์ จ. จันทบุรี
ปี 2537 ย้ายไปดำรงตำแหน่ง เจ้าพนักงานป่าไม้ 6 สนง. จ. ร้อยเอ็ด
ปี 2538 ได้เลื่อนระดับเป็นหัวหน้า ฝ่ายส่งเสริมและพัฒนา ระดับ 7
ปี 2541 ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งระดับเป็นหัวหน้า ฝ่ายส่งเสริมและพัฒนา ระดับ 7 จ. ตาก
ปี 2544 ได้สมัครเรียนนิด้าที่ จ. พิษณุโลก
ปี 2545 สำเร็จการศึกษาด้านรัฐศาปณศาสตร์ ป. โท เรียน 2 ปี
ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายป้องกัน ที่ จ. อ่างทอง ซึ่งเป็นปีที่น้ำท่วมใหญ่ ของ จ.อ่างทอง และในปีนั้นกรมป่าไม้ได้รับการปฎิรูปโครงสร้างราชการใหม่ แบ่งกรมป่าไม้เป็น 3 กรม คือ
1 กรมป่าไม้
2 กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธ์พืช
3 กรมทรัยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ข้าพเจ้าได้รับการเกลี่ยอัตรากำลังไปอยู่กรมอุทยาน ฯ
ปี 2548 ข้าพเจ้าได้รักษาการในตำแหน่ง จนท.บริหารงานป่าไม้ 7สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สาขาสระบุรี เช่าบ้านที่สระบุรี
ปี 2549 ได้ไปช่วยราชการที่หน้าห้องรองอธิบดี กรมอุทยาน ฯ นายอุภัย วายุภักดิ์ และย้ายตามท่านไปเรื่อย เป็นรองอธิบดีกรมป่าไม้ แล้วก็กลับมาเป็นอธิบดีกรมอุทยาน ฯ ในปี 2551 และในปีนั้นได้เลื่อนระดับเป็น เจ้าหน้าที่พนักงานป่าไม้ 8 ต่อมาปี 2552 นายอุภัยได้ย้ายเป็นปลัดกระทรวงทรัพย์ ฯ เมื่อนายอุภัยเกษียณ ข้าพเจ้ากลับมากรมอุทยานฯประจำอยู่สำนักบริหารกลางและได้เลื่อนระดับเป็นผู้ตรวจราชการ ระดับ 9 ปลายปี 2552
ปี 2553 ได้เป็น ผอ.สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานฯ
ปี 2554 ได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสำนักบริหารกลาง จนเกษียณ
30 ก.ย. 54 ได้กลับมาอยู่บ้านที่ จ. จันทบุรี อยุ่ 2 ปี ดำรงชีวิตแบบสมถะ อ่านหนังสือและศึกษาธรรมะ
ปี 2557 ได้สมัครเรียนครูสมาธิ ของสถาบันพลังจิตตานุภาพ พระยาวิสูตรโกษา รุ่น 31 และได้อบรมอาจริยสา รุ่น 10 บุญบันดาล 2558
ปลายปี 2557 ได้ไปอบรมทนายความ และสามารถสอบใบอนุญาติทนายความได้ในปี 2558 ดำรงชีพเป็นทนายความตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน
ในอาชีพทนายความนั้น ได้สมัครเป็นทนายความขอแรงที่ศาล จ. จันทบุรี
และที่ปรึกษากฎหมายของศาลคดีเด็กและเยาวชน จ. จันทบุรี
การท่องเที่ยวต่างประเทศ
ปี 2545 ข้าพเจ้าและภรรยาได้ไปศึกษาดูงานที่ ประเทศจีน ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ กวางโจว ซูโจว กับนิด้า
- เกาหลีใต้กับลูกสาว
- รัสเซียกับลูกสาว มอสโคว เซ็นท์ปีเตอร์เบิกซ์
- กลุ่มทะเลบอลติก ฟินแลนด์ ลัตเวีย ลิทูเนีย เอสโตเนีย
- เบเนลักส์ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม ลักเซมเบิก เยอรมัน เนเธอร์แลนด์
- ไปลาวใต้ กับกรมป่าไม้ จำป่าสัก สุวรรณเขต และกับครอบครัว 1 ครั้ง
- สิงค์โปร์กับภรรยาและลูกน้ำ
- ฮ่องกง มาเก๋า กับครอบครัว
สำหรับการไปท่องเที่ยวในประเทศนั้น ข้าพเจ้าได้ไปรับราชการอยุ่ทั่วประเทศ เช่น เมื่อไปรับราชการอยุ่ จ. ร้อยเอ็ด เมื่อเวลาปิดเทอม ก็จะขับรถพาลูกๆ ไปเที่ยวพื้นที่ภาคอีสาน
เมื่อย้ายไปอยู่ จ. ตาก ก็ขับรถพาครอบครัวไปเที่ยวพื้นที่ภาคเหนือทุกจังหวัด
เมื่อย้ายมาอยุ่ จ. อ่างทอง ภาคกลางก็ได้ขับรถไปเที่ยวทุกจังหวัด
ส่วนภาคใต้ เมื่อถึงเดือน เม.ย. ของทุกปี มีภารกิจต้องไปเยี่ยมบรรพบุรุษก็ถือโอกาสขับรถพาไปเที่ยว เช่น จังหวัด ระนอง ภูเก็ต สมุย พังงา ตรัง นราธิวาส กระบี่ พัทลุง ชุมพร สุราษธานี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช
อาหารที่ชอบ
- แกงส้มไก่
- แกงเนื้อใส่ข่าอ่อน
- ผัดสะตอ
ผลไม้ที่ชอบ ทุเรียน เงาะ มังคุด มะละกอ
ขนม ขนมชั้น
อาหารที่ชอบ ของคุณแม่
- แกงสมรม ใส่ผักทุกชนิด
- นาสิดาแง อาหารใต้
- ผัดสะตอ
ผลไม้ที่ชอบ ทุเรียน เงาะ มังคุด มะละกอ
ขนม กล้วยบวชชี ข้าวเหนียวถั่วดำ มันบวช
ประวัติบ้าน 26/34 ท่าช้าง อ. เมือง จ. จันทบุรี
ที่ดิน 100 ตารางวา ราคา ตรว ละ 2300 บาท ณ พ.ศ. 2532
เดิมครอบครัวคงบุญ อาศัยอยู่ที่บ้านพักป่าไม้จังหวัด จันทบุรีมาก่อน
ต่อมาเมื่อลูกๆ โตขึ้นก็อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง พ่อกับแม่ก็มาซื้อที่สร้างบ้านหน้า รร. บ้านแก้ว
ต่อมาก็ได้ขอความกรุณาให้นายกภาส พุทธเกสร นายกเทศมนตรี อ. ขลุง มาช่วยถมที่ให้ในราคา 20000 บาท แล้วก็พร้อมขอแบบสร้างบ้านเป็นลักษณะทรงไทยประยุกต์ 2 ชั้น ชั้นบนเป็นเรือนไม้ ส่วนชั้นล่างก่ออิฐ ฉาบปูน เนื่องจากจังหวัดจันทบุรีฝนตกชุก ถ้าจะสร้างบ้านไม้ทั้งหลังไม่น่าจะดี นับตั้งแต่ซื้อที่ดินเป็นต้นมา คุณพ่อคุณแม่ก็ได้เตรียมการก่อสร้างจนพร้อมสร้างเมื่อปี 2536 ได้ตกลงว่าจ้างช่างวุฒิ ซึ่งเป็นเพื่อนของอาตือ คุณเมธี จึงสงวนสิทธิ คุณพ่อน้องมิ้ง เป็นผู้รับเหมาโครงสร้างพื้นฐาน รวมกำแพงด้วยเป็นเงิน 770000 บาท เฉพาะกำแพง ส่วนวัสดุ ผู้ว่าจ้างคือเราเป็นผู้จัดหาให้และได้นิมนต์ อ.บุญรอดเจ้าอาวาสวัดทุ่งรี มาวางเสาเอกให้ แล้วก็เริ่มดำเนินการก่อสร้างเรื่อยมา เมื่อโครงสร้างเสร็จ การตกแต่งภายในโดยพื้นไม้ชั้นล่างปูด้วยไม้มะค่าแผ่นใหญ่ พ่อซื้อไม้ของกลางจาก ออป. มาในราคาแผ่นละ 500 บาท จำนวน 100 แผ่น เพื่อทำบันไดด้วย ได้จ้างช่างยูน ซึ่งอยู่ที่ ต.ทุ่งขนาน อ. สอยดาว มาทำงานเกี่ยวกับงานไม้ ตั้งแต่อัดพื้น ฝา ประตู หน้าต่าง ฝาด้านนอก ด้านใน รวมค่าก่อสร้างเป็นเงิน 9 แสนบาท ค่าวัสดุเป็นของเราทั้งหมด สำหรับไม้ที่ใช้ในการก่อสร้าง 90% ซื้อไม้เขมรนำเข้าโดยบริษัททำไม้ถูกต้อง เสียภาษีมีใบเบิกทางครบถ้วนถูกต้อง นำเข้าไม้ท่อนมีไม้ตะเคียนทอง ไม้ยมหินและไม้มะค่าโมง พ่อได้นำไปจ้างให้โรงเลื่อยที่ปราจีนบุรีและสระแก้วเลื่อยให้ส่วนหนึ่ง จะเป็นไม้มะค่า แผ่นของกลางดังกล่าวประมาณ 10% ใช้ทำพื้นบ้าน บ้านด้านล่างปูด้วยไม้มะค่าแผ่นใหญ่ทั้งหมด เว้นห้องครัวและห้องน้ำ พื้นชั้นบนซึ่งมี 3 ห้องนอนปูด้วยไม้มะค่าขนาด 6x1 ยาว 4 เมตร เซาะร่องรางลิ้นทุกห้อง ส่วนบันไดได้ช่างล่ำมาทำให้ สำหรับ Counter บาร์ ซิ้งค์ห้องครัวได้จ้างช่างโสภณมาทำให้ ปัจจุบันช่างโสภณได้เสียชีวิตแล้ว
ลักษณะบ้านด้านนอกพื้นซีเมนต์ทาสีขาว พื้นไม้ด้านนอกทาน้ำมันทาไม้สัน้ำตาล ส่วนด้านในประดับตกแต่งแบบหลุยส์โดยใช้ไม้เป็นเอ็น พื้นที่ใช้สอยของบ้านด้านล่างมีห้องรับแขกขนาดใหญ่ 1 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องเก็บของ ห้องนั่งเล่น ห้องกินข้าว และโรงรถขนาด 5 x 20 เมตร จอดรถได้ 4 คัน แต่ใช้งานจริงจอดเพียง 3 ครั้ง เพราะใช้เป็นที่วางโต๊ะ ตู้รองเท้าเสียส่วนหนึ่ง ส่วนชั้นบนมี 1 ห้องนอนขนาดใหญ่ 2 ห้องนอนขนาดกลาง 2 ห้องน้ำ และมีดาดฟ้า ปูด้วยพื้นกระเบื้องโมเสก ชั้นล่าง ด้านหลังบ้าน เว้น พื้นที่ห่างจากตัวบ้าน 3.5 เมตร มีที่เก็บน้ำใต้ดิน ปัจจุบันไม่ได้ใช้งาน ทำคูระบายน้ำรอบบ้าน รั้วนอกบ้านใช้เหล็กดัด โดยช่างแก้ว นายประเสริฐ วัฒนศรีจันทร์ คนหาดใหญ่ ค่าใช้จ่าย 50000 บาท
ประตูใหญ่เป็นประตูอัลลอยด์ อย่างดี ค่าจ้าง 50000 บาทเช่นกัน ส่วนภายในตัวบ้าน ส่วนของฝ้าทำเป็นฝ้าหลุม ปูด้วย Wall Paper มีลายในตัว ว่าจ้างร้านสมจิตรผ้าม่าน อ. ขลุง
ผ้าม่านติดให้ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง 50000 บาท สำหรับไฟได้ช่างลั่มมาเดิน 50000 บาท ประปาได้ช่างหินมาทำให้ ทั้งช่างล่ำและช่างหินเป็นช่างโบราณ ไม้ได้เขียนแปลนไว้ให้ สิ้นค่าก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 4 ล้านบาท สร้างบ้านหลังนี้เสร็จ ส.ค. 2536 และได้ย้ายเข้ามาอยุ่ ก.ย. 2536
สำหรับต้นไม้ที่มาตกแต่งหน้าบ้านได้รับความอนุเคราะห์จากอาแนว หาต้นไม้มาปลูกให้ ต้นลำดวน เอามาจาก จ.ร้อยเอ็ด เมื่อสร้างบ้านเสร็จ เข้ามาอยู่บ้านใหม่พ่อรู้สึกภูมิใจมาก เมื่อเห็นแววตาของลูกและภรรยา มีความสุขทำให้หายเหนื่อย ต่อมาพ่อย้ายไปอยุ่ จ. ตาก 2541
ปี 2543-2544 พ่อไปเรียน ป. โทที่นิด้า เป็นการเรียนเสาร์อาทิตย์ ทำให้ไม่มีเวลากลับบ้าน ปกติพ่อกลับบ้านเสาร์อาทิตย์ จึงขอร้องให้แม่ลาออกจากครู เพื่อไปอยู่ด้วยกันที่ จ. ตาก ทำให้ปล่อยบ้านทิ้งไว้เดือนละ 1 ครั้ง สำหรับสุนัขได้ว่าจ้างให้นางหวาดดูแลให้ข้าวหมา เดือนละ 1700 บาท ทำให้บ้านทรุดโทรมไปตามสมควรเลยมีปลวกขึ้นเป็นบางจุด เสียค่ากำจัดปลวก 13000 บาท ต่อมาเมื่อพ่อใกล้เกษียณอายุราชการในปี 2554 ประมาณ ส.ค. 2553 ได้ว่าจ้างให้ช่างโสภณมาซ่อมแซมบ้านให้ โดยคิดค่าจ้าง ค่าแรง ทาสีหลังคา ตรม.ละ 400 บาท ทาสีฝาบ้าน ตรม. ละ 400 บาท แต่ทำพวกขัดเงา ตรม.ละ 800 บาท เช่น พวกประตูหน้าต่าง ช่องลม ทาสีรั้ว เสร็จพร้อมอยู่ หมดค่าปรับปรุงไปประมาณ 800000 บาท ต่อมาเมื่อพ่อเกษียณและกลับมาอยู่ในปี 2554 นั้น แม่ได้ว่าจ้างทำคอกหมา เพิ่มเติมด้านข้างบ้านปรับเปลี่ยนกระเบื้องปูพื้นรอบบ้าน พร้อมทั้งรางน้ำเพิ่มเติมหน้าบ้าน ปัจจุบันบ้านยังมีสภาพใช้ได้อยุ่ 2562 ภายในยังดีอยู่ ป้ายหน้าบ้านนั้นเป็นฝีมือคุณยายได้ปะไว้ ชื่อบ้านปวีนัฐ-โอฬาร ซื้อมาจากรุงเทพฯ
หลอดไฟ กระเบื้อง ซื้์อมาจากรุงเทพฯ
เสียค่ากำจัดปลวกปีละ 2000 บาท
เฟอร์นิเจอร์ในบ้านส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นไม้ พ่อซื้อมาจากสอยดาว ชุดรับแขกค่อยๆ หามา มีเตียงตั่ง เก้าอี้ไม้มะค่า 20 ตัว ตัวละ 500 บาท โต๊ะกินข้าว 1 ชุดจาก จ. ตาก ตู้โชว์ 3 ตู้ ชุดรับแขก 16000 บาท โต๊ะทรงอินโด 8000 บาทจากอุบลฯ
เครื่องใช้ในห้องนอนส่ั่งจากโรงงานสมุทรปราการ ประมาณ 50000 บาท
ห้องนอนน้ำ 18000 บาท
บ้านมี สองชั้น
ชั้น 1 ตัวบ้านเป็นปูน ข้างในบุไม้ ปูพื้นไม้แผ่นใหญ่
ชั้น 2 ตัวบ้านเป็นไม้ ฝาไม้หมดเลย
45556
ความคิดเห็น