Italy Swiss Trip 22 May – 3 Jun 2024
Date
2024 |
Time |
Activities |
City
Sleep In |
Tue
21/5 |
21:05 |
พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ TG |
|
Wed
22/5 |
01:05 |
BKK
to Zurich By TG970 |
|
|
07:50 |
Zurich
Airport -ฝากกระเป่าใหญ่ที่ รร Mövenpick Zürich Airport Hotel ตรง Arrival 2 Hotel shuttle
Service -เอากระเป๋าเล็กเดินทางค้าง 2 คืน ฝากไว้ที่ตู้หยอดเหรียญสนามบิน
แล้วเย็นมาเอา |
Swiss
Pass |
|
09:00 |
Go
to Appenzell การเดินทางโดยรถไฟ ที่หมาย คือสถานีรถไฟ Wasserauen ถ้าเริ่มเดินทางจากสถานีรถไฟเมือง Zurich อาจตรงไปที่
Wasserauen เลย หรือผ่านสถานีรถไฟเมือง Appenzell ก่อนก็ได้ โดยใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟ ดังนี้ |
|
|
10:00 |
สถานี cable car ของ Wasserauen เดินลงผ่านถ้ำ โบสถ์ ภัตตราคาร และเดินวนขึ้นเป็นรอบวงกลมกลับมาที่สถานี
cable car (ใช้เวลา 1-1:15 ชม.
ระยะทาง 2 กม.) |
|
|
14:00 |
Sightseeing in St Gallen รีวิว Stiftskirche
St.Gallen Cathedral ด้านในสวยงามน่าชมมาก ห้ามพลาด รีวิว Abbey Library ห้องสมุดเก็บหนังสือโบราณที่ว่ากันว่าเป็นห้องสมุดที่สวยติดอันดับโลก |
|
|
20:00 |
Hotel
Weisses Kreuz |
Interlaken W |
Thur
23/5 |
08:00 |
Interlaken
to Grindelwald สำหรับการเดินทางมา Grindelwald ง่ายมากๆ
เรานั่งรถไฟจากสถานี INTERLAKEN WEST การเดินทาง จากสถานี grindelwald ไปที่สถานี firstbahn เพื่อซื้อตั๋ว มี 2 วิธี
➊ เดิน 750 เมตร -
กรินเดลวัลด์ เฟียส (Grindelwald
First) ยอดเขาสูง 2,168 เมตร -
ทางเดินริมผา First
Cliff Walk ฐานนี้ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที จนสุดทางจะเจอจุดชมวิวยื่นออกไป มองเห็นยอด wetterhorn
schreckhorm และ Eiger คนรอต่อคิวถ่ายรูปพอสมควร
รีบโพสท่า รีบออก -
Trottibike
เครื่องเล่นนี้ เราจะเริ่มเล่นจากสถานี “BORT” ขี่ไปตามทางลาดลงเขาเรื่อยๆ แล้วนำกลับไปคืนที่สถานีขึ้นกระเช้า Grindelwald-First
Bahn |
ค่าบัตร CABLE CAR ไป-กลับ ราคา 32 CHF
(ไม่รวมเล่นกิจกรรม)
กดซื้อได้ที่ตู้ขายบัตรหน้าสถานีเลยสะดวกมากๆ ค่ะ
ราคานี้เป็นราคาที่ลดแล้วสำหรับผู้ถือบัตร Swiss travel
pass |
|
13:00 |
Lauterbrunnen
– Murren นั่ง Cable Car ขึ้นมาแป๊ปปปเดียวก็ถึงแล้วครับ Grütschalp ถัดจาก Grütschalp จะเจอรถไฟเพื่อพาเราไปสถานี Mürren
BLM ครับ ใกล้ถึงจุดหมายแล้ววว ขึ้นรถไฟกันเลยคร้าบ พอถึง Mürren แล้ว ผมก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ จาก Mürren
ไป Gimmelwald ครับ
ซึ่งทางเดินไปนั้นเป็นทางเดินลงเขาตลอดทาง เดินง่ายมากครับ ไม่เหนื่อยเลย
แอบมีนั่งเล่น นั่งดูวิว ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ใช้เวลาเดินก็ประมาณชั่วโมงนึงครับ จาก Gimmelwald กลับไป Mürren นั่งกระเช้าดีกว่า 🇨🇭
ขาไป |
Swiss
Pass |
|
18:00 |
-
Iseltwald bus 103 - Harder Kulm |
|
|
20:00 |
Hotel
Weisses Kreuz |
Interlaken |
Fri
24/5 |
8:00 |
Go
to Luzern ฝากกระเป๋าที่ตู้แล้วไปเที่ยวต่อ เส้นทางวันนี้ Luzern - Schwyz - stoos - Arth Goldau - Rigi - Zurich |
Swiss
Pass |
|
10:00 |
Stoosbahn
:: the steepest funicular railway in the world :: Stoosbahn
ครั้งแรกกับ Funicularชันที่สุดในโลก
หมู่บ้าน Stoos Schwyz Switzerland schwyz bahnhof - schwyz Stoosbahn Schwyz Stoosbahn Stoosbahn เป็นรถฟันเฟืองทรงวงกลม เคลื่อนตามรางขึ้นไปข้างบน |
https://pantip.com/topic/42530487 สถานี Stoosbahn หมู่บ้าน stoos |
|
|
ได้เวลาไปต่อ เราจะไปแวะยอดเขา Rigi นั่งบัสสายเดิมค่ะ
Bus No.B501 เราไม่ลงสถานี schwyz แต่นั่งต่อไปลงสถานี Arth goldau ใช้เวลา
38 นาที บัสติดสถานีรถไฟ Arth goudau รถเราขบวนสีฟ้า swiss pass ฟรีอีกแล้ว ไปกันเลย ยอดเขา Rigi klum |
|
|
13:00 |
จาก Lucern Stans
– Stanserhorn เดินจากสถานีรถไฟตามป้าย ไปยังสถานีต้นทางรถไฟฟันเฟือง Funicular ขึ้นกระเช้าเปิดประทุน CabriO |
|
|
20:00 |
Hotel: Mövenpick Zürich Airport
Hotel
|
Zurich |
|
|
Walter-Mittelholzer-Strasse 8, Zürich, Schweiz |
Tel
41448088888 |
Date |
Time |
Activities |
City Sleep In |
Sat 25/5 |
08:00 |
Zurich airport/ Pick up
Rental Car รอรับพี่ตุ๊กมาสมทบ |
Rental Car |
|
09:00 |
Sight seeing in Stein am
Rhein เดิน Chill
ถ่ายรูปทานเครปเจ้าอร่อย |
|
|
11:00 |
Sightseeing in Konstanz ขับรถมาจอดไว้ที่ห้าง
LAGO Shopping Center ซึ่งอยู่ติดกับสถานีรถไฟเมือง Konstantz
แล้วเดินเที่ยวในตัวเมืองไปถึงริมทะเล
ที่มีรูปผู้หญิงหมุนรอบตัว |
|
|
16:00 |
Sightseeing in Appenzell Carparkplatz ที่จอดรถ เดินเล่นชมหมู่บ้านเลยไปถึงโรงงานผลิตเบียร์ |
|
|
20:00 |
Hotel: NIGHT INN Hotel
Bahnhofcity Feldkirch |
Feldkirch Austria |
Sun 26/5 |
|
Feldkirch Austria to Cortina
d'Ampezzo |
Rental Car |
|
08:00 |
Innsbruck to Cortina
d'Ampezzo |
312km 4.5 hours |
|
|
Drive to Sterzing เมืองที่เป็นศูนย์กลางของเขต
Wipptal ตอนใต้แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองในดินแดนอิตาลีที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของเทือกเขาแอลป์
โดยในเขตเมืองยังคงไว้ซึ่งอาคารบ้านเรือนศิลปะแบบอาณาจักรออสเตรียยุคกลางสีพาสเทลสุดน่ารักไว้อย่างสมบูรณ์ |
หวานละมุนสุดๆ Sterzing
เมืองสีพาสเทลสุดคลาสสิกแห่งอิตาลี We
start our walk at Piazza Fuori Porta (Untertorplatz) Square, where you’ll
find a short-term parking area and a bus stop. We turn north, and head
straight into the new town. Very soon, a statue depicting Saint Nepomuk
greets us: |
|
14:00 |
Pragser Wildsee / Lago di
Braies / Toblacher See / Durrensee |
P4 จะอยู่ใกล้ทะเลสาบสุดแต่ก็แพงสุดเหมือนกัน |
|
20:00 |
Hotel: B&B Hotel Passo
Tre Croci Cortina |
Cortina d'Ampezzo |
|
All Day |
Whole day sight seeing in
Cortina d'Ampezzo (Dolomites) |
|
Mon 27/5 |
8:00 |
Drive to Lake Misurina |
Rental Car |
|
10:00 |
Drive to Tre Cime National
Park เดินทวนเข็มนาฬิกาพอ
ไปถึงจุดถ่ายรูปที่ถ้ำ |
ค่าจอดรถ 30 EUR |
|
15:00 |
Drive through Giau Pass /
Alleghe / |
|
|
20:00 |
Hotel: B&B Hotel Passo
Tre Croci Cortina |
Cortina d'Ampezzo |
Tue 28/5 |
8:00 |
Drive to Cinque Torri |
นั่งกระเช้าขึ้นเขาชมวิว |
|
11:00 |
Drive to Gardena Pass |
|
|
14:00 |
Sightseeing Lake Carezza ทะเลสาบCarezzaค่อนข้างไกล ขับรถไปประมาณชั่วโมงกว่า ขึ้นเขาด้วย ทางคดโค้งไปกลับเกือบ3ชม. ลองกะเวลาดูแล้วกัน |
|
|
15:00 |
Drive to Passo Gardena, Mountain
Viewpoint, Passo Gardena, 39048 Selva di Val Gardena BZ, อิตาลี |
ชมวิวเขาหน้า
รร |
|
17:00 |
เข้าที่พักพอดี
ทำอาหารเย็น |
|
|
20:00 |
Hotel: Residence Cesa
Rives |
Val Gardena |
Wed 29/5 |
8:00 |
Sightseeing and hiking Rifugio delle Odle |
Rental Car |
|
10:00 |
ถ้ามาถึงเขตภูเขาทางเหนือของอิตาลีอย่าง
Dolomites แล้วไม่ลองเดินเขาเพื่อใกล้ชิดกับธรรมชาติ
พร้อมสัมผัสความมหัศจรรย์แห่งขุนเขาแล้ว อาจเรียกว่า #มาไม่ถึง ก็เป็นได้ ดังนั้น
อีกพิกัดที่เราอยากแนะนำมากๆ ก็คือ Rifugio delle Odle ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านวิวปังอย่าง Santa Maddalena Rifugio delle Odle หรือ Geisler Alm ในภาษาเยอรมัน คือ
ที่พักและร้านอาหารบนภูเขาในเขตอุทยานแห่งชาติ Puez-Odle ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในจุดชมวิวหลักล้านของ Dolomites เพราะสามารถเห็นวิวภูเขา Odle ได้อย่างใกล้ชิด การมาที่ Rifugio delle Odle ต้องเดินเขาขึ้นมาเท่านั้น
โดยใช้เส้นทาง Adolf Munkel Trail ซึ่งเป็นอีกเส้นทางเดินเขายอดนิยม
จอดรถได้ที่ลานจอดรถ Parcheggio Malga Zannes ค่าจอดรถแบบเหมาทั้งวัน 8 ยูโร
แนะนำให้มาตั้งแต่ช่วงเช้าเพราะที่จอดรถอาจเต็มได้ เริ่มต้นเดินเขาตามเส้นทาง
36, 35 และ 6 ไต่ระดับความสูงผ่าน Dusler Alm ไปจนถึง Rifugio delle Odle ถ้าอยากเดินต่อสามารถเดินไปจนสุดทางที่
Gschnagenhardt-Alm ก็ได้
ขากลับก็เดินตามทางเดิม รวมระยะทางทั้งสิ้น 9.2 กิโลเมตร ต้องไต่ระดับความสูงขึ้นลงประมาณ 378 เมตร
และควรเผื่อเวลาเดินไปกลับประมาณ 4 ชั่วโมง ตลอดเส้นทางการเดินจะได้ชมวิวความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ต้องบอกว่าปลื้มปริ่มมาก
ได้ใกล้ชิดกับแนวภูเขาไอคอนของ Dolomites ในมุมมองใหม่ๆ แถมนักท่องเที่ยวก็ไม่เยอะด้วย
เท่าที่เห็นเกือบทั้งหมดเป็นชาวตะวันตก
สำหรับร้านอาหาร
บอกเลยว่ารสชาติดีมาก เดินมาเหนื่อยๆ ได้ทานอาหารอร่อยๆ
พร้อมชมวิวแบบเกาะติดขอบคือฟินสุดๆ แล้ว
ถ้ามีเวลามากหน่อยแนะนำให้เพิ่มเวลาเดินเขาด้วย เส้นทางนี้คือปังสุดๆ ของจริง
คุ้มค่าเหนื่อยแน่นอน แถมไม่มีอยู่ในโปรแกรมทัวร์ด้วย |
พี่ตุ๊กน้ำ หลังจากส่งคณะเดินเขาแล้วจะขับรถไปเมือง
Brixen ระยะทาง 30 กม. เดินเข้าสู่เมืองที่ Sun gate · Cathedral of Brixen (outside) · Cathedral of Brixen (inside) · The Pharmacy Museum (Pharmaziemuseum Brixen), · The White Tower (also known as "Weißer Turm") · Neustift Abbey, or Novacella Abbey is an
Augustinian abbey in the municipality of Vahrn in the northern Italian
province of South Tyrol. ผ่านไร่องุ่น · The Diocesan
Museum, located since 1976 in the Bressanone
Bishop's Palace, called Hofburg
มีค่าชม 10 EUR Stufles, the oldest
district of Bressanone Stufels
is a hidden jewel of Brixen: Inhabited in the neolithic and roman periods, it
is considered one of the most charming quarters of the episcopal city.
Located between the rivers Eisack and Rienz, Stufels has a picturesque
building stock. With its guardian angel church, attractive shops and
artistic highlights, Stufels invites you to stroll around as well as take a
relaxing stroll along the riverbank. Whoever visits Stufels approaches
Brixen's actual core: quality of life in its most beautiful form. https://visitsights.com/sightseeing-tours/Italy/Brixen%20-%20Bressanone/1 Parking Brixen
Bressanone
open
24 hours, 5 minutes from the old town,Disabled parking space, parking space for woman, Lift & toiletts, pice: €
2,00/h In
the old city, there are some public parking lots that can offer quick and
uncomplicated access to the city center:
|
|
15:00 |
The Church of St. Johann
in Ranui (San Giovanni) (พิกัด: 46.63505,
11.72428) จุดนี้จะมีโบสถ์เล็กๆ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวเป็นฉากหน้า
และเทือกเขายอดหยักๆ เป็นฉากหลัง ถ้าได้วิวมุมสูงนี่จะสุดยอดมากเลย |
Val di Funes อันนี้ไม่มีอะไรให้ไปจอดถ่ายข้างรั้วข้างๆ
จะสวยกว่า |
|
16:00 |
จุดชมวิว Church
of Santa Magdalena (พิกัด: 46.64861,
11.71527) ผมชอบที่นี่มากกว่า
เพราะเป็นวิวมุมสูงมองเห็นแบบพาโนรามาเลย (credit ของพิกัดนี้คือ www.piriyaphoto.com/dolomite/ ครับ) |
อันนี้ต้องจอดรถแล้วเดินขึ้นเขา
30 นาทีเพื่อไปถ่ายรูปสวยงามค่ะ |
|
18:00 |
ถ้ามีเวลาเที่ยวชมเมือง Ortisei
|
|
|
20:00 |
Hotel: Residence Cesa
Rives |
Val Gardena |
|
|
Then it's worth buying the Gardena Card or the Dolomiti Supersummer Card. To avoid waiting times at the
valley stations in Selva, S. Cristina and Ortisei, it is recommended to buy tickets
online in advance. |
https://www.val-gardena.com/en/summer/mobility/lifts-cable-cars/ |
Thur 30/5 |
All Day |
All day sight seeing and
hiking in Ortisei (Dolomites) Seceda via Gondola lift
(may not be open until Mid June) Take other gondola lift
for hiking if Seceda is closed |
Rental Car |
|
10:00 |
Alpe di Siusi by gondola
cable car (if open) Ortisei
- Alpe di Siusi – Gondola from
11.05 - 03.11.2024: from 08:30 - 17:00 สถานีกระเช้า
Alpe di Siusi (“Mont Sëuc” ropeway) อยู่ห่างจากตัวเมืองในระยะทางเดินเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
โดยมีสะพานคนเดินข้ามทอดยาวไปถึงหน้าสถานีกระเช้าเลย กระเช้าเริ่มไต่ระดับขึ้น
มองเห็นตัวเมือง Ortisei อยู่เบื้องล่าง Siusi
- Alpe di Siusi * - Gondola open
from 18.05 - 03.11.2024: from 08:00 - 18:00 |
ค่าโดยสารกระเช้า
“Mont Sëuc” Ropeway ไป-กลับระหว่าง Ortisei
– Alpe di Siusi มีราคา 31 ยูโร แนะนำให้ซื้อบัตร Dolomiti Supper Summer แบบหนึ่งวันในราคา
62 ยูโร
ซึ่งสามารถใช้ขึ้นกระเช้าต่างๆได้ครอบคลุมและประหยัดเงินกว่า |
|
13:00 |
Resciesa - Cable railway open from 17.05 -
13.10.2024: from 09:00 - 16:00 จุดชมวิวอีกแห่งที่อยู่ทางด้านเหนือของหุบเขา Val Gardena คือยอดเขา Resciesa มีลักษณะเป็นที่ราบลาดเอียงขนาดประมาณ
10 ตารางกิโลเมตร
ที่ระดับความสูงระหว่าง 2,282-2,303 เมตร นิยมใช้เป็นจุดชมวิวกลุ่มยอดเขา Sassolungo, Odel และทิวทัศน์มุมอื่นๆของเทือกเขาโดโลไมท์
|
การเดินทางขึ้นไปบนเขา
ใช้รถรางแบบที่ใช้สายเคเบิ้ลดึง (Funicular) โดยสถานีรถราง Funicolare Resciesa จะตั้งอยู่ทางเหนือของเมือง
ไม่ไกลจากสถานีกระเช้า Seceda |
|
|
Ortisei
- Resciesa - Seceda - Col Raiser - S. Cristina Ortisei-Furnes – Gondola Furnes - Seceda
- Cable car Col Raiser – Gondola Resciesa - Cable railway |
open
from 31.05 - 03.11.2024: from 08:30 - 17:30 open
from 31.05 - 03.11.2024: from 08:30 - 17:30 open
from 17.05 - 03.11.2024: from 08:30 - 17:00 open
from 17.05 - 13.10.2024: from 09:00 - 16:00 |
|
17:00 |
ถ้ามีเวลาเที่ยวชมเมือง
Ortisei |
https://www.gotouchthesky.com/dolomites-ortisei/ |
|
20:00 |
Hotel: Residence Cesa
Rives |
Val Gardena |
Fri 31/5 |
|
Drive to Sirmione 2 hours |
Rental Car |
|
8:00 |
Sightseeing in Bolzano Our excursion starts
in Walther Square. This square was
completed in 1808 by order of King Massimiliano di Baviera, and initially
named after him. In 1901, it was dedicated to Walther von der Vogelweide
(1170-1230), one of the great German poets and storytellers of the Middle
Ages. • On the same square we will admire the Cathedral
of Bolzano, a late Medieval and a Romanesque Basilica (1180) completed
around 1420 with the Gothic style of the Suevian mastery. The bell tower,
with an open fretwork spire in sandstone, which stands 65m tall, was built by
the Suevian architect, Hans Lutz von Schusseried, between 1501 and 1519. •
Our next stop is at the Dominican Church,
a complex comprising a convent, a large nave and different
chapels, and a magnificent cloister. The jewel of the entire
complex is cappella di San Giovanni, a long and narrow side chapel with the
most magnificent fresco cycle of the Giotto School in the province. • We
continue our walk through the Goethe Street and
Piazza delle Erbe, a colourful and lively piazza, the heart
of the city centre, that hosts the famous daily fruit and vegetable market
(except on Saturday afternoon, Sunday and public holidays). • We walk through
the Mueseum Street and crossing the Talvera Bridge you find yourselves in
front of the imposing structure of the Victory Monument, Monumento alla
Vittoria (1926 - 1928); • Again on Mueseum Street we reach the famous Portici
(Arcades), once the heart of the medieval village. They have kept this
characteristic to date with their seamless continuity of shops, some typical
and traditional, others chic and modern. • We stop by Piazza del
Municipio (Town Hall Square) and then we walk up to the Piazza del Grano
(Grain Square), where is located the Vicolo della Pesa, one of the
oldest places in Bolzano, once hosting the castle of the Prince-Bishops of
Trento (destroyed in 1277 by Mainardo II di Tyrolo) and the church of
Sant’Andrea (destroyed in 1785). One of the most picturesque buildings of the
city is situated to the north of this square:la casa della Pesa (1634),
public weigh-house until 1780. Read less |
https://www.bucketlistly.blog/posts/best-things-to-do-in-bolzano Sight 1:
Municipal Museum Sight 2:
South Tyrol Museum of Archaeology Sight 4:
Museo Mercantile – Merkantilmuseum Sight 5: Museo Scienze
Naturali - Naturmuseum |
|
13:00 |
Sightseeing in Trento This scenic walk along
the streets of Trento (pic n°1), 160 km north of Milan, starts
from the railway station and will continue along Via Andrea Pozzo and
Lungadige Monte Grappa. Then, you will reach Palazzo
delle Albere (pic n°1), one of the most important
monuments of the city of Trento. It was built in the mid-sixteenth century by
order of Bishop Christopher Madruzzo, a member of the Madruzzo's family who
was ruling in Trento in that period. |
https://www.touring-italy.net/tours/tour-details.php?recordid=111 |
|
20:00 |
C'era una Volta 2 Via San Bernardo,
23828 Perledo, Italy |
Varenna |
|
|
วันนี้พามาเที่ยวยุโรป ปักหมุดกันที่ทะเลสาบที่สวยในประเทศ อิตาลี! นั่นก็คือ
Lake Como ทะเลสาบวิวอลังการ เหมือนหลุดออกมาจากซีนในหนัง
เพราะที่นี่ยังถูกใช้เป็นฉากในภาพยนตร์ดัง เรื่อง Jame Bond 007 กับ Star War เลยนะ Lake Como เป็นทะเลสาบตั้งอยู่ใน เมือง Como แคว้นบอมบาเดีย
ติดกับชายแดนสวิซเซอร์แลนด์ เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของ อิตาลี รอบๆ ก็จะมีหมู่บ้านเล็กๆ รายล้อมและมีฉากหลังเป็นภูเขาสูง |
|
Sat 1/6 |
08.00 - 12.00 |
ใช้การ
Hopping โดยเรือ Ferry ไปที่เมืองอื่นๆ
ค่าเรือไปแต่ละทีประมาณ 13 ยูโร่ พร้อมแล้วไปกันเลยยย 08.00 - 12.00 น. Bellagio (เบลลาโจ) :. Old Town แล้วถ่ายรูปกับมุมบันไดด้วยสวยมาก
:. Villa Melzi d’Eril บ้านเก่าสวนริมน้ำสวยสุดๆ ค่าเข้าชม 16
ยูโรจ้า :. ร้านอาหาร Trattoria Baita Belvedere อยู่บนยอดเขามองเห็นวิว Lake Como จากมุมสูงได้เลย |
3 เมืองที่เป็นไฮไลต์ของ
Lake Como ก็คือ Bellagio (เบลลาโจ)
Lenno (เลนโน)
Varenna (วาเลนนา) |
|
13.00 - 15.00 |
13.00 - 15.00 น. Lenno (เลนโน) ต้องไปที่ Villa Del
Balbianello วิลล่าดังที่เป็นสถานที่ถ่ายหนัง Jame
Bond แล้วก็ Star War โดยนั่งเรือจาก Bellagio
ประมาณ 30 นาที ค่าเข้าชม 23 ยูโร แต่บอกเลยคุ้มๆ ถ่ายรูปสวยทุกมุม เราอยากบอกเลย ไม่ผิดหวังแน่นอนจ้า |
|
|
15.30 - 18.00 |
15.30 - 18.00 น. Varenna (วาเลนนา) :. เมืองที่เหมือนอยู่ดิสนีย์แลนด์แบบทะเลเมดิเตอเรเนียน
มีคนมาเล่นดนตรี อากาศดี วิวดี ยกกล้องถ่ายยังไงก็สวย Villa Monastero,
Varenna:. Diner กันที่ Osterai Quatro Pass ร้านอาหารที่ Lake como ต้องจองทุกร้านนะเพราะคนเยอะมาก
:. ต่อด้วยไอติมร้าน Gelateria Bon Bon อร่อยมากก
แล้วก็จบ 1 วันแบบฟินๆ |
Lake Como เนี่ยบอกเลย
สวยหยั่งกะภาพวาด สมกับเป็น Dream Destination นักท่องเที่ยวทั่วโลกจริงๆ
ใครที่กำลังแพลนมาเที่ยวอิตาลี |
|
20:00 |
C'era una Volta 2 Via San Bernardo,
23828 Perledo, Italy |
Varenna |
Sun 2/6 |
9:00 |
Drive Menaggio – Lugano |
Rental Car |
|
11:00 |
Sightseeing in Lugano / foxtown
outlet |
|
|
13:00 |
lunch |
|
|
15:00 |
Drive to ZURICH ถ้าทำเวลาได้ดีจะมีโอกาสมาเดินที่เมือง
Zurich |
|
|
20:00 |
Hotel: Mövenpick Zürich
Airport Hotel |
Zurich |
|
|
Walter-Mittelholzer-Strasse
8, Zürich, Schweiz |
Tel 41448088888 |
Mon 3/6 |
08:30 |
Sight
seeing in Zurich Airport |
|
|
10:00 |
Go
to Airport |
|
|
13:30 |
ZRH
– BKK By TG971 |
|
Tue
4/6 |
05:30 |
BKK
|
|
Trip นี้เกิดขึ้นได้เนื่องจากคุณรี่เพื่อน love ต้องการไปเดินเขาที่ Dolomite จึงได้รีบจัดทัวร์นี้ขึ้นมาทันใด เนื่องจากจริงๆ แล้วควรจองตั๋วเครื่องบินไปลงมิลานจึงจะเดินทางใกล้สุด เพราะสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่ที่อิตาลี่ แต่ TG ดันไม่ได้เปิดรูทตอนปลาย 66 ที่เรารีบจองตั๋วกันแสนแพง เพราะอยากบิน Direct Flight
Italy Swiss Trip 22 May – 3 Jun 2024
ออกเดินทางจากสถานบินสุวรรณที่ อาคาร 2 แม่เจ้าที่ชั้นบิน TG นะคะ เลยได้นั่งรถไฟเชื่อมระหว่างอาคารครั้งแรก บินออกซะดึกเลย ส่งคุณรี่เข้าไปกินในเล้าจ์ค่ะ บิน 10 ชม ยาวดีทำให้ใด้นอน
(1): BKK – ZURICH – Ebenalp & Seealpsee -St Gallen- Interlaken
วันแรกของการมาถึงสนามบินซูริกก้อทำให้หลงค่ะ ตามแผนคือต้องหารถของ รร Movenpick เพื่อเอากระเป๋าใหญ่ไปฝากไว้ 2 คืน แล้วกลับมานอนที่นี่คืนที่ 3 ทีนี้ด้วยความที่สนามบินมันมีหลายตึกมากเราก้อเดินหลงไปมา แต่ในที่สุดก็หารถฟรีเจอค่ะ ไป รร จัดเป๋าเล็กไป Interlaken 2 คืน กลับมาที่สถานีรถไฟสนามบิน เพื่อฝากเป๋าไปเที่ยวก่อน โชคดีที่มีตู้ว่าง เสียดายที่ไม่มี Size XL จะได้ฝากด้วยกัน 1 ตู้ งานนี้เราฝากเกิน 6 ชม. โดนเสียค่าฝากเพิ่ม ไรจะคิดเงินทุกอย่าง แพงเพื่อความสบาย
นั่งรถไฟไป Appenzel เพื่อปีนเชาไปดู รร ที่สร้างในซอก
เอาล่ะค่ะได้ฤกษ์นั่งรถไฟกันแล้ว มื้อกลางวันทานกันง่ายๆโดยเอาขนมปัง Subways จากเมืองไทยมาทาน เมื่อถึงที่หมายลงรถไฟฝนยังตกอยู่ ไปซื้อตั๋วขึ้นเขาค่ะ เย้ ได้ขึ้นแล้วชมวิวแสนสวยงาม ถ่ายรูปกันไป โชคดีค่ะ ถึงด้านบนฝนหยุดตกพอดี พบกับวิวอันสวยงาม ลืมว่าเคยมีฝนไปเลย เดินลงเขาไป รร กันค่ะ ขาลงช่างง่ายไม่เหนื่อยงี้ ขากลับเดินขึ้นเขาดิคะ เหนื่อยโคตร แถมเจอลมฝนอีก ตายๆๆๆ เกือบไม่รอด
ทางเดินเค้าทำให้ดีงามค่ะ ผ่านถ้ำ มีลูกเล่นให้เดินลอดถ้ำกันไป ถึง รร มีร้านอาหารฝรั่งนั่งกันเต็มเลย เออ ทีแรกนึกว่าไม่มีคนมารวมกันที่นี่เอง ถ่ายภาพเสร็จเดินกลับค่ะ เพราะต้องทำเวลาอีกที
นั่งรถไฟไป St gallen กัน รีบเดินไปให้ถึงห้องสมุด แหมมอีก 30 นาทีจะปิดพอดี ดูเสร็จเดินรอบเมือง ได้รองเท้าชมพู 1 คู่ แวะซื้ออาหารที่ super เพื่อเอาไว้ทานกลับมาที่ซูริกเอาเป๋าเล็กไปต่อที่ interlaken เมือง base on 2 คืน ตามปกติคือจะนั่งรถไฟยาวไปถึงเมืองเลย แต่ปรากฎว่าหนนี้รางรถไฟปิดซ่อมเราเลยต้องขนกระเป๋าไปรอรถบัสเพื่อไปต่อ กลายเป็นดีไปใกล้ รร ไม่ต้องเดิน แต่ว่าต้องนั่งเบียดกันบนรถบัส คิดดูดิะ ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเมืองเดียวกัน โชคดีที่เราไม่เอาเป๋าใหญ่มา คิดสภาพแล้วคงทุลักทุเล หา รร เจอแล้วเข้าห้องนอนกันค่ะ ห้อง 3 เตียงกว้างทีเดียว มีที่วางของเยอะ
(2): Swiss - Grindelwald
- First - Gimmelwald in Lauterbrunnen – Murren – Interlaken
วันนี้ลงมาทานอาหารเช้า 7 โมงหน่อยๆ เลยไม่ได้เห็นทัวร์จีนที่มากันก่อนเวลาและแย่งกันตักอาหารแบบโกลาหน จนท ของ รร ก้อดีนะคะ จัดระเบียบและเอาอาหารมาเพิ่มให้อิๆ อาหาร รร อร่อยดีมากสมกับการรีวิว สังเกตุว่าแขกของ รร เป็นชาวเอเชียหมดเลย หาฝรั่งแท้น้อยมาก แล้วก้อออกเดินทางขึ้นรถไฟไป Grindelwald กัน ฝนตกปรอยๆ จนถึงสถานี เราเดินไปขึ้นรถบัสตามคำแนะนำ เพราะเดินขึ้นเขาถึงไม่ไกลแต่เหนื่อยแถมฝนตกอีก หาที่ซื้อตั๋วขึ้นไปกัน ทีแรกกะจะเล่น Totterbite เป็นอันอด ไปถึงเจอหิมะและหมอกเลยค่ะ. มาถึงแล้วต้องเดินลุยหิมะไปถ่ายรูปกัน ดีที่มีเสื้อกันฝนที่คุณรี่จัดเตรียมมาได้ใช้ ประโยชน์มาก ถ่ายวิวขาวโพลนของหิมะ แล้วเดินลงมาห้องอาหารคนมาอยู่นี่เต็มเลย มันอุ่นดีนี่นา ไปถ่ายสะพานที่คนเข้าคิวกันเยอะ แต่ยามนี้มันไม่เห็นวิวอะไร คนก้อยังเยอะอีกแฮะ อ่ะถ่ายๆๆๆ สักพักเราคิดว่าควรลงไป Murren ได้ล่ะ เผื่อทางโน้นอากาศดีกว่าทางนี้ ขากลับไปขึ้นรถไฟหารถเมล์ไม่ได้เดินลงเขาไปกันค่ะ ฝนก้อตกอีกแต่ไม่มากพอรำคาญ นั่งรถไฟเปลี่ยนขบวนแล้วถึงลูน่าเบอเถินเสียที หาอาหารกินค่ะ หิว อร่อย หารถเมล์ที่จะไป ขึ้นกระเช้าไปหมู่บ้านกัน เลยได้ถ่ายน้ำตกด้วยค่ะ นักท่องเที่ยวเยอะเลย และแล้วรถบัสก้อมาคนเยอะยืนเบียดกันเลยค่ะ อะไรจะพร้อมใจกันมางี้ ส่วนขากลับรถโล่งดี ยื่นบัตร swiss travel pass ขึ้นฟรีค่ะ รู้สึกว่าใช้บัตรคุ้มหน่อยงี้ นี่ว่าอ่านรีวิวมาดิบดีต้องนั่งกระเช้าเลย ปรากฎว่าหน้างานกระเช้าปิดค่ะ ต้องคิดใหม่ เออ พอถึง กิมเมลวัลฝนก้อยังตกทีแรกว่าจะนั่วกระเช้าลงไป murren แล้วกลับล่ะ อ่ะ ไหนๆ มาถึงแล้วขอเดินชมวิวกลางฝนละกัน ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกเพราะหลังจากเราเดินสักพักฝนก็หยุดตกเย้ๆ ถ่ายดอกไม้ขาว ชมพูตลอดทางผ่านเลยคร้า มีความสุข แทบจะแวะถ่ายทุก 5 นาที มีหมอก มีเมฆ ยังกะอยู่ในสวรรค์ มันสวยจริงๆ น้า เพลิดเพลินตลอดทางจนถึงสถานีลงกระเช้า รีบเข้าห้องน้ำทันเวลาพอดี แหมมแดดออกจ้าเลยชีวิตดีขึ้นมาทันที
เย็นกลับถึงเมือง Interlaken ได้ไว จึงเดินทอดน่องจาก east มา west แบบสบายๆ เลือกร้านอาหารหัวมุมที่เขียนเมนูภาษาไทยไว้ มีทัวร์ไทย เกาหลีเข้ามาใช้บริการเยอะ เราสั่งอาหารและฟองดู อร่อยดีค่ะ กินเสร็จเดินกลับ รร ไม่ไกล
(3): SWISS - Luzern - Schwyz - stoos - Arth Goldau - Rigi - Zurich
ช่วงเช้าอากาศแจ่มใสเป็นใจสุดๆ แต่ตอนเย็นจะมีฝนนี่สิ เป็นห่วง
เช้ามาทานอาหารโรงแรมแสนอร่อยอีกครั้ง วันนี้ก็ยังเจอทัวร์จีนชุดเดิม สังเกตุว่าทัวร์เค้าไม่เดินทางด้วยรถบัสนะแต่ใช้รถไฟ first class แทน เราเก็บกระเป๋าออกเดินทางกลับซูริค ไปรอรถไฟเจอคนอินเดียมาเที่ยวเป็นครอบครัวกันเลย ไปเมืองไหนก้อเจอแต่แขก ซึ่งเค้าเน้นเที่ยวเองไม่ต่างจากนักท่องเที่ยวจีนแฮะ สงสัยจะมีหลายรูปแบบ หนนี้เราได้นั่งรถไฟสาย Luzern Interlaken Panorama Express
The Luzern–Interlaken Express turns the journey from one city to the other into a great experience. During a train ride of roughly two hours, passengers marvel at five crystal clear mountain lakes that gather the waters from various rivers and waterfalls. At the lakeshore, steep rock faces of surrounding mountains rise up protectively and provide unique photo motifs. Shortly before starting its steep, winding ascent to Brünig Pass, the train changes to cogwheel drivetrain technology in order to conquer the gradient. With good reason, the Luzern–Interlaken Express is part of the scenic GoldenPass Line leading to Interlaken and on to Montreux.
เราตื่นเต้นกับความสวยงามตลอดทางที่ผ่านทะเลสาป และบ้านเรือนน่ารัก
มาถึงลูเซิน คุณรี่นัดเพื่อนชื่อมน ที่ได้แต่งงานกับชาวสวิส มีบ้านที่เมือง ไฟร์บวกมาเจอเราที่นี่ เราทำการฝากกระเป๋าที่สถานี และออกเดินทางต่อไป
schwyz bahnhof - schwyz Stoosbahn
ขึ้นbus No.B501 รถใหม่เอี่ยม swiss pass ฟรีค่ะ
Schwyz Stoosbahn
อาคารสีเหลือง ด้านหลังเป็นรางสำหรับ funicular stoosbahn ไต่ขึ้นเขาไป เจาะทะลุช่องภูเขาขึ้นสู่หมู่บ้าน stoos ระยะทาง 1300 เมตร มองไปเห็นอุโมงลิบๆ
Stoosbahn เป็นรถฟันเฟืองทรงวงกลม เคลื่อนตามรางขึ้นไปข้างบน
ความสนุกอยู่ตรงที่รถฟันเฟืองทะลุภูเขาเข้าไปด้านใน ทะลุเป็นช่วงๆเข้าอุโมงและออก สลับช่วงมืดและสว่าง ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งรถไฟเหาะ บางช่วงชันตั้งฉากระดับเกือบ90องศา มองเห็นตู้ด้านหน้าอยู่สูงเกือบบนตู้เรา เมื่อเข้าอุโมงมืด จะมองเห็นสเกลเรืองแสงบอกระดับความสูง
มาถึงข้างบนหมู่บ้านสวยงาม มลได้เตรียมข้าวเหนียวหมูย่าง น้ำจิ้มแจ่วมาฝากพวกเราได้นั่งปิกนิกวิวทุ่งดอกไม้ที่นี่ รีบทำเวลาเดินขึ้นชมเนินเขา รอรถไฟเที่ยวต่อไปเพื่อลงไปข้างล่างเห้นว่าฝนกำลังจะตกพอดี
ที่สวิสนี่เค้าจะออกแบบรถไฟกับรถบัสได้พอดี รอไม่นานรถบัสก้อมาถึง เรานั่งไปลงสถานี schwyz ขามา แล้วเปลี่ยนรถบัสอีกคัน
ได้เวลาไปต่อ เราจะไปแวะยอดเขา Rigi นั่งบัสสาย Bus No.B501 ลงสถานี Arth goldau ใช้เวลา 38 นาที
สถานี Schwyz Stoos Bahn - Arth Goldau bahnhof (stop C )
บัสติดสถานีรถไฟ Arth goudau
เดินต่อนิดเดียวไปสถานีรถไฟต้นทางขึ้นยอดเขาRigi มีลิฟให้ด้วยนะ
Arth Rigi Bahn
รถเราขบวนสีฟ้า swiss pass ฟรีอีกแล้ว ไปกันเลย น่าเสียดายที่ในตกและหมอกลงหนามากเลยไม่เห็นวิวใดๆ ได้แต่นั่งขึ้นและนั่งกลับอิๆ
ต่อรถไฟไปเที่ยวลูเซินกัน ตอนมาถึงใหม่ๆ ฝนยังไม่หยุดตกดี แต่ก้อเดินไปในเมืองในสะพานชาเปล ท่ามกลางฟ้าสีดำ เดินได้ครึ่งชม ฟ้าเปิดจ้า ดีใจมากเดินกลับไปถ่ายภาพที่สะพานกันอีกครั้งก่อน นั่งรถไฟกลับซูริกใช้เวลา 1 ชม
ทานอาหารเย็นในรถไฟ เย้ๆ ^^
ถึงซูริกหนนี้เราไม่หลงแล้วค่ะ ลากเป๋าไปรอรถฟรีของ รร Movenpick ไปนอนจ้า ห้อง 3 คน
ข้อเสีย รร นี้คือแอร์ไม่เย็นเลย ต้องนอนเปิดหน้าต่าง แต่มีเสียงรถดังอีกเพราะใกล้ทางด่วน
(4): SWISS – Stein am Rhein - Konstanz - Appenzell - Innsbruck
วันนี้เช้าทานกับข้าวไทย คุณรี่เอาไปอุ่น เรามีครัวลับเล็กๆ ที่ รร ค่ะ หลังจากนั้นรีบเก็บกระเป๋าไปสนานบิน รอรับพี่ตุ๊ก ที่บินมาสมทบ ในใจก้อลุ้นว่าจะหาเจอกันไหม โดยไปคาดคิดระหว่างยืนรอที่ Information Center นั้นพี่ตุ๊กก้อเข้ามาพอดี พากันไปเอารถที่จองเอาไว้ค่ะ เจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ตื่นเต้นอีกแล้ว ปรากฎว่ารถที่จองไว้นั้นผิดวันค่ะ ดันไปจองรับรถเมื่อวาน แม่เจ้าก็งงกันไปทั้งคนส่งคนรับรถค่ะ เลยต้องหาบริษัทรถใหม่โชคดีที่มีหลายเจ้าตรงนั้นแต่ บ Sixth ดันมีรถพร้อมให้เราขับทันทีด้วยราคาแสนแพง พร้อมกับ Spec Volvo 40 หลังใส่เป๋าใหญ่ได้ 3 ใบ ได้ตามต้องการจัดไปสิคะ อย่ารอช้า รีบเอารถออกจากสนามบิน ซึ่งยังไม่ชินทางและพวงมาลัย วนรถไปค่ะ มุ่งหน้าสู่เมือง Stein am Rhein เมืองเล็กๆ น่ารักของวันเสาร์ที่เราไปสายงานเค้าเลิกขายของกันแล้ว เดินถ่ายรูปแล้วหาที่กินกันไปค่ะ ทุกร้านเต็มหมดมีการไม่รับลูกค้าอีก ต้องไปทานร้านแพงอิๆ ที่ดันมี Michelin star ประกันความอร่อย จัด Steak กันไปคนละจานค่ะ มื้อกลางวันนี้เสียค่าเสียหายไปเฉียดหมื่นเองค่ะ หลังจากนั้นก้อขับรถไปยังเมือง Konstanz เมืองชายแดนเยอรมันติดสวิส วันนี้กะเที่ยว 3 ประเทศใน 1 วัน คือ เช้า สวิส บ่ายเยอรมัน เย็นออสเตรีย สำหรับที่นี่การหาที่จอดรถไม่ยากเพราะทำการบ้านมาแล้ว ส่วนเมืองที่แล้วเรางงๆ กับการจ่ายที่จอดรถและหาที่จอด เมือง Konstanz มีสีสันมากเลย คนเยอะแยะเดินทางมา Shopping ของถูกกัน เค้าว่ากันนะ เราสนุกสนานกับการถ่ายรูป กินไอติม เวลาหมดไวจัง ต้องไปอีกเมืองเพื่อค้างคืนแล้ว เนื่องจากมันมืด 3 ทุ่ม เลยขอแวะ Appenzell มาถึงเย็นย่ำแบบเมืองร้างกันเลย แถมฝนจะตกอีก เลยเดินแบบเร็วๆ ถ่ายรูป ข้ามพรมแดนจากสวิสมาออสเตรียแบบไม่รู้ตัวมาที่ Feldkirch Austria มาถึงที่หมาย Hotel: NIGHT INN Hotel Bahnhofcity Feldkirch แล้วก้อยังหา รร ไม่เจอ โอ๊ยแม่เจ้ามันตั้งอยู่ข้างสถานีรถไฟเลย แต่เราไม่เห็นชื่อ รร. โรงแรมทันสมัยและดันมีทัวร์ฝรั่งมา Check In พร้อมเราอีก ในที่สุดเราได้เข้าห้องพักและได้พักผ่อนกันค่ะ ทานมาม่ากันน้า ^^ ทุกท่านดูพึงพอใจกับห้องพัก
(5): ITALY - Feldkirch Austria / Sterzing / Braies / Misurina Lake - Cortina D’Ampezzo
เช้าตื่นมาทานอาหารเช้าของ รร ซึ่งดีงามมีให้เลือกหลากหลาย ด้วยความที่ชนกับทัวร์ฝรั่งเลยจะคนเยอะๆ ช่วง 7 โมง หลังจากนั้นทัวร์ทานเสร็จออกไปไวมาก ห้องอาหารโล่งเลยจ้า เก็บกระเป๋าใส่รถออกเดินทางต่อค่ะ ลืมเล่ามีประเด็นเรื่องกระเป่าเดินทาง 4 คนที่เยอะมาก ของตัวเองนำเป๋า 28 นิ้ว กับใบ 20 นิ้วมา พี่ปุ๊ก 28 นิ้ว พี่ตุ๊กผู้เสียสละเอา 24 นิ้วมา และกระเป่าผ้าใบเล็กใบน้อยตามสไตล์ตุ๊กๆ คุณรี่กระเป๋ายาว 2 ใบ สไตล์ Backpacker จึงต้องนำเป๋ามาใส่ที่นั่งด้านหลังแบบมีคนนั่งตรงกลางแทน เพื่อให้ด้านหลังมีช่องว่างมองกระจกหลังได้ไม่งั้นกลัวว่าจะขับรถลำบาก แต่คุณรี่บอกว่าสามารถมองกระจกข้างได้ค่ะทุกคนไม่ต้องกลัว และแล้วคุณรี่ก้อได้พิสูจน์ตลอดการเดินทางว่าสามารถขับได้โดยไม่มองกระจกหลังได้
ทานกลางวันระหว่างทางที่ Mc Donald และเข้าห้องน้ำ เติมน้ำมันด้วย
Sterzing สู่เมืองวิพิเทโน
Sterzing หรือ Vipiteno ในภาษาอิตาเลียน คือเมืองเล็กๆ ในเขตจังหวัด South Tyrol แห่งแควน้ Trentino-Alto Adige/Südtirol ทางตอนบนของประเทศอิตาลี ติด กบั พรมแดนประเทศออสเตรีย เมืองที่เป็ นศูนย์กลางของเขต Wipptal ตอนใตแ้ห่ง น้ีได้ชื่อว่าเป็นอีกหน่ึงเมืองในดินแดนอิตาลีที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของเทือกเขา แอลป์ โดยในเขตเมืองยังคงไว้ซึ่งอาคารบ้านเรือนศิลปะแบบอาณาจักรออสเตรียยุค กลางสีพาสเทลสุดน่ารักไวอ้ย่างสมบูรณ์เมืองที่มีแม่น้า Eisack ไหลผ่านน้ียงัเป็น ที่ต้งัของสิ่งก่อสร้างโบราณส าคญั หลายแห่ง หน่ึงในน้ันคือ Zwölferturm หอคอย สูง 46 เมตร ที่สร้างข้ึนต้งัแต่ปี1470 ซึ่งเป็ นเหมือนสัญลักษณ์ที่ แบ่งระหวา่ งเขตเมืองเก่าและใหม่น ำท่ำนเดินเที่ยวชมเขตเมือง เก่ำ ตัดผ่ำนด้วยถนนสำยหลักอย่ำง Citta Nuova ซึ่งตลอดสองข้ำงทำงเรียงรำยด้วยบ้ำนเรือนสีพำส เทลฟีลเหมือนอยู่ในแคว้น Tyrol ของออสเตรียแบบสุดๆแถมด้วยกำรประดับตกแต่งด้วยพุ่มดอกไม้ สีสันสดใส รวมทั้งรูปปั้นสลักอันวิจิตรยิ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์ขึ้นไปอีกแค่เดินเล่นชมเมืองเรื่อยๆก็เพลิน แล้วเมืองสวยแห่งนี้ รับรองว่ำน่ำรักละมุน สบำยตำและมีมุมให้ถ่ำยรูปเยอะแน่นอน
เราได้ทานไอติมเจ้าดัง เห็นคนต่อแถวกันเยอะเราต้องลองทานค่ะ เมืองนี้หาที่จอดรถง่ายค่ะ
Braies
มาถึงทะเลสาปดังที่ทุกคนต้องมา เราเลือกจอดรถที่ P4 ใกล้ทางเข้าสุด แล้วเดินไปถ่ายรูปกันค่ะ ทุกคนชื่นชมกับทะเลสาปและภูเขาสุดๆ เข้าห้องน้ำแล้วเดินทางต่อค่ะ
Misurina Lake
ใกล้ที่พักแล้วสุดๆ อีก 10 นาที ขอแวะถ่ายทะเลสาปแสงเย็นก่อนเลย อ่ะมุมหน้าตึกเหลือง กับฝั่งตึกเหลือง ดูที่มันสะท้อนเป็นกระจกภูเขา ผ่าน รร มาก่อน เข้าเมืองหาที่กินอาหารเย็น ไม่ค่อยมีร้านเปิดต้องไปกินในโีรงแรมแถวๆ นั้น หลังจากนั้นเดินทางกลับที่พักเสียที คืนนี้ได้นอนห้องเดียวกัน 4 ท่าน มีห้องน้ำห้องเดียว แต่ว่าที่นอนจัดเป็นสัดส่วนดีค่ะ พยากรณ์อากาศบอกว่าฝนจะตกช่วงบ่ายเอาแล้วสิ ลุ้นตลอดเจอฝน
Cortina d'Ampezzo เมืองแห่งสกีที่มีความทนั สมยัแห่งนี้ไดร้ับการขนานนาม วา่ เป็นไข่มุกแห่งเทือกเขาโดโลไมต์และต้งัอยใู่ นเขตเทือกเขาแอลป์ที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหน่ึงในโลกกอร์ตี นาดัมเปซโซเป็นเมืองแห่งสกีในเทือกเขาแอลป์ที่สุดคลาสสิคและงดงาม ต้ังอยู่ในเทือกเขาโดโลไมต์ซ่ึงได้รับการข้ึนทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก องค์การยูเนสโก ส ารวจพิพิธภณั ฑ์ที่น่าสนใจลองชิมอาหารช้นั ยอดของเมือง และเพลิดเพลินไปกบักิจกรรมกลางแจง้ที่หลากหลายไดต้ลอดท้งัปีกอร์ตีนา คือเมืองแห่งขุนเขาอนั สวยงามที่เต็มไปดว้ยบา้นเรือนทา จากไมส้ีขาวเต้ียๆ ต้งั เรียงรายอยูเ่บ้ืองหน้าลา ธารที่ไหลเชี่ยว ป่าไมอ้ นั เขียวชอุ่ม และยอดเขาโดโล ไมต์ที่ขรุขระ เดินเที่ยวใน Corso Italia ถนนหลกั ส าหรับคนเดิน ที่เรียงรายไปดว้ยร้านขายชุดสกีสุดเก๋และร้านอาหาร ต่างๆ หากคุณมาเยอืนถนนหลกัในวนัศุกร์ประเสริฐคุณจะไดพ้ บกบัขบวนทางศาสนาที่จดัข้ึนอยา่ งยงิ่ ใหญ่ตระการตา
(6):
ITALY - Drive through Giau Pass / Alleghe – Cortina D’Ampezzo
Alleghe หรือ Hallstatt แห่งโดโลไมท์ UNSEEN คือหมู่บา้น เล็กๆ พ้ืนที่รวม 29 ตารางกิโลเมตรริมฝั่งตะวนั ออกของทะเลสาบชื่อ เดียวกัน ใ น เข ต จัง ห วัด Belluno แ ห่ งแค ว้น Veneto ท า ง ตะวนัออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลีซ่ึงมีประชากรอาศยัอยูป่ ระมาณ 1,500 คน หมู่บ้านสุดน่ารักที่อยู่บนที่ราบแคบๆ ระหว่างทะเลสาบกับ ภูเขาสูงแห่งน้ีเป็นอีกเมืองท่องเที่ยวที่เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนรักการ กิจกรรมกลางแจง้ ช่วงหนา้ร้อนสามารถปีนเขาข้ึนไปยงัยอดภูเขา Monte Civetta ความสูง 3,220 เมตรได้ส่วนฤดูหนาวก็เล่นสกีและไอซ์สเก็ตหรือฮอกก้ีน้า แขง็กลางทะเลสาบไดต้ามใจชอบ น ำคณะเดินทำงเทยี่ วชมหมู่บ้ำน Alleghe หมู่บ้ำนเล็กๆริมทะเลสำบอันเงียบสงบที่ด้ำนหลังเป็นภูเขำสูง ที่นี่ยังสวยงำม มีเสน่ห์สุดๆ บรรยำกำศในเมืองสวยงำม น่ำรัก และเงียบสงบ ริมทะเลสำบ เดินเล่นชมวิวแบบ slow life มำกๆ
ทานกลางวันแบบปิกนิคที่ทะเลสาปวิวสวยสุดๆ รีบเดินทางต่อกลัวฝนตก
บนเส้นทางแสนสวย Giau Pass(Passo di Giau ในภาษาอิตาเลียน หรือ Jof de Giau ในภาษาทอ้งถิ่น) เส้นทางถนนผา่ นภูเขาความสูง 2,236 เมตรเหนือระดบั น้า ทะเลที่เชื่อมต่อระหวา่ งเมือง Cortina d'Ampezzo กบั เมือง Colle Santa Lucia และ Selva di Cadore เส้นทางขบั รถที่ไดช้ื่อวา่ สวยและคดเค้ียวที่สุดแห่งหน่ึง ในเขต Dolomites น้ีจดัวา่ เป็นอีกจุดแวะถ่ายรูปยอดนิยม เพราะบริเวณน้ีมีท้งัลานจอดรถและเส้นทางเดินเขาส้ันๆ ข้ึน ไปถ่ายรูปภูเขา Nuvolau ที่มียอดเขาสูงสุดที่ระดับ 2,574 เมตรอนั สวยสดงดงามไดอ้ยา่ งชดัเจน น าคณะออกเดินทางสู่หมู่บ้าน
ช่วงที่ไปภูเขาเป็นหิมะหมดเลย ภูเขามีเมฆมาบังเป็นช่วงๆ ยังคงสวยงาม มีรถมาจอดพักถ่ายรูปเยอะ รถหรูๆ ทั้งน้านเลยค่ะ
(7): ITALY
- Sightseeing Lake Carezzan
วันนี้เดินทางไปทาง ตต ของ โดโลไมท์กันแล้ว ฝนตกแต่เช้า เราอยู่ในรถครึ่งวันค่ะ
ผ่านสองจุดส ำคัญคือ Posso Podoi แวะถ่ำยรูปกบัถนนงูเลื้อยและยงัเป็น 1 ใน7 ในกำรแข่งขัน จักรยำนของ อิตำลีอันยิ่งใหญ่เทียบเท่ำ Tour de France
น าท่ าน ช ม ท ะเล ส าบ Carezza ห รื อ อี ก ชื่ อ คื อ “Lec de ergobando” แป ลได้ว่า ท ะเลส าบ ส ายรุ้ง อยู่ทำงตอนใต้ของ Dolomite ทะเลสำบขนำดใหญ่ วิวหลักล้ำน น้า ในทะเลสาบมีหลายเฉดสีต้งัแต่ เขียว,เทอร์ค้อย,ฟ้า และน้า เงิน ทา ให้ทะเลสาบแห่งน้ีถูกเรียกวา่ ทะเลสาบสายรุ้ง มีฉากหลังเป็ นเทือกเขา Latmar ด้วยวิวทะเลสาบสีเขียว ทองที่ถูกหอ้ มลอ้ มไปดว้ยเขาสูงเสียดฟ้า สะทอ้นสีสันหลากหลายของธรรมชาติเป็นอีกจุดแวะถ่ายรูปที่พลาดไม่ได้
เราทานอาหารกลางวันที่นี่ แวะเข้าห้องน้ำและ shopping กันอีกแล้ว
โชคดีที่มาถึงทะเลสาปฝนหยุดตกพอดี เลยได้ถ่ายรูปกัน แต่ว่าเมฆหมอกมาบังเขาที่ชั้นจะถ่ายเลยต้องรอ อุตส่าห์เดินทางมา 3 ชม. เพื่อรอถ่ายสิ่งนี้ มีความพยายามแค่ไหนเนี้ย ^^
แวะเที่ยวเมือง Ortisei แล้วขึ้นเขาเพราะว่าอากาศดีแล้วไปค่ะ
Ortisei - Alpe di Siusi – Gondola
from 11.05 - 03.11.2024: from 08:30 - 17:00
สถานีกระเช้า Alpe di Siusi (“Mont Sëuc” ropeway) อยู่ห่างจากตัวเมืองในระยะทางเดินเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น โดยมีสะพานคนเดินข้ามทอดยาวไปถึงหน้าสถานีกระเช้าเลย
กระเช้าเริ่มไต่ระดับขึ้น มองเห็นตัวเมือง Ortisei อยู่เบื้องล่าง
เข้าที่พักแบบบ้านน่ารักมีครัวไว้ทำกับข้าว
(8): ITALY - Bolzano – Brixen – Santa Maddalena –
พี่ตุ๊กน้ำ หลังจากส่งรี่เดินเขา Rifugio delle Odle แล้วจะขับรถไปเมือง Brixen ระยะทาง 30 กม. ไปถึงเมืองมีตลาดนัด ด้วยมีเกษตรกรเอาผักมาขาย กับน้ำผลไม้ ขนม ช่วยกันซื้อสิคะ แล้วหาที่จ่ายตังจอดรถ โชคดีที่หาที่จอดได้แบบเดินไม่ไกลจาก Old town เท่าไร เราเกินกันถึงเที่ยง หาอะไรกินง่ายๆ
โทรนัดรี่มารอที่หน้าโบสถ์
เรามากันก่อนเวลาเลยต้องเดินเล่นที่หมู่บ้าน Val di funes กันก่อน ดู Museum ที่นั่นเค้รทำไว้ดีมาก ที่มาเพราะหาห้องน้ำเข้าฟรีนี่ล่ะค่ะ
The Church of St. Johann in Ranui (San Giovanni)
บ่าย 3 เจอรี่ที่นี่ไม่มีใครยอมลงไปถ่ายรูปเลยขอเดินไปถ่ายเอง มีคนทะยอยมาเรื่อยๆ เป็นโบสถ์เล็กๆ ไกลมากๆ ลง 5 นาที ไปต่อเลยค่ะ
จุดชมวิว Church of Santa Magdalena
อันนี้ต้องจอดรถแล้วเดินขึ้นเขา 30 นาทีเพื่อไปถ่ายรูปสวยงามค่ะ
(9): ITALY – Bolzano
เนื่องจากฝนตกและเราเที่ยวเกือบหมดแล้วเลยต้องไปเมืองใกล้ๆ กันที่ Bolzano
ไม่น่าเชื่อจะเจอรถติด 1 ชม และหาที่จิดรถยากมาก แต่ในที่สุดก้อได้ค่ะ เค้าออกแบบที่จอดรถได้แคบมากโคตร
เวลายังเหลือ กลับที่พัก แวะ Shopping ที่หมู่บ้านใกล้ๆ Santa Christina มองมานานล่ะดูไกลๆ สวยดี ก่อนเข้าหมู่บ้านตัวเอง จัดกระเป๋าเดินทางเตรียมย้ายไปนอนที่ como ต่อ
(10): ITALY – - Sirmione – Lake
Garda –
วันนี้ก้อเป็นวันขับรถยาวนาน เจอรถติดที่เมือง Sirmione และไปให้ทัน Shopping ที่ Foxtown outlet อีก 2 ช.ม. จะปิด ตอนนี้สร้าง 3 อาคาร ใหญ่โตขึ้นมาก เราก้อ shop จนนาทีสุดท้าย ว้ายกรี๊ด ดีที่จอดรถไม่เสียตัง สมกับห้าง Brand name เนอะ 1 ทุ่มเดินทางไปที่พักที่เมือง Varenna กันจ้า พักกันบนยอดเขา กลัวค่ำ ซึ่งก้อถึง 3 ทุ่มกว่าจริงคร้า ที่จอดรถอยู่ห่างจากที่พักเดินขึ้นเนินไปนิดนึง ดีที่หาเจอเจ้าของที่พักรอพวกเราอยู่ กุลีกุจอช่วยยกกระเป๋าขึ้นห้องที่อยู่ชั้น 3 ให้ด้วย ดีงาม แต่ขากลับพวกเราต้องยกกระเป๋าลงมาเองน้า
(11): ITALY - Como lake - Menaggio - Varenna - Bellagio
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่แดดดี ทุกคนพร้อมใจออกมาท่องเที่ยวกัน โชคดีที่หยิบชุด dress ลายกุหลาบมาด้วยเลยได้ใส่เข้ากับบรรยากาศ ทำไมผู้หญิงอิตาลี่เมืองนี้หุ่นแบบ Barbie กันทุกคนเลย และชุดก้อสวยมากด้วย หุ่นดี เราเริ่มต้นจอดรถที่สถานีรถไฟ จ่ายค่าจอดเต็มวันไปเลย หลังจากนั้นเดินไปชมวิลล่า
ถ่ายรูปได้ล้านแปด สวยไปหมดงี้
มาท่าเรือซื้อตั๋ว day ticket 15 EUR ทำให้เราสามารถใช้โดยสารเรือได้ทั้งหมด ไปมา
มาทาน Lunch ง่ายๆ เป็นพิซซ่า ซึ่งไม่อร่อยเลย แต่คนดันเข้าแถวซื้อกันเยอะ ก้อเนอะเราต้องกินประทังความหิว และใช้เวลา 1 ชม. ที่ Bellagio แวะทานไอติมด้วย รอเรือไป Lenno เพื่อชม Villa Del Balbianello แต่ว่าดันไม่ได้จองตั๋วชมก่อน คนเยอะเค้าเลยปิดรับคนคร้าอด รอเรือกลับไป Menaggio เราถึงก้อดูว่ามันไม่ค่อยมีอะไร เลยนั่งเรือกลับมาที่ Varenna เพื่อหาร้านอาหารเย็น ซึ่งทุกร้านเต็มหมดเลยจ้า ไปได้ร้านแถวโบสถ์ดีที่มีที่นั่ง อาหารรอไม่นานอร่อยด้วย กลับบ้านนอนกันค่ะ
(12): SWISS - Menaggio – Lugano - Bellinzona - ZURICH
วันนี้เดินทางด้วยรถทั้งวันเลย จาก ลูกาโน่ไปซูริกต้องใช้ 4 ชม เรากะแวะทานกลางวันที่เมือง เบลลินโซนา (Bellinzona เสียงอ่านภาษาอิตาลี: [bɛllinˈdzoːna ) ทีแรกนึกว่าเมืองเล็กๆ แห่งนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจ ปรากฎว่าวันนี้คือวันอาทิตย์ แล้วมี Sunday Market แถมจอดรถฟรี ทำให้สนุกสนานในการชมเมือง มีลิฟฟรีให้ขึ้นไปดูปราสาทด้วย
ตอนบ่ายเดินทางต่อ เจอรถติด 1 ชม ฝนตกด้วย น่าเบื่อมาก ถึงซูริกเอาเย็นย่ำ เดินชม old town แล้วไปสถานีรถไฟเพื่อซื้ออาหารสดทานมื้อเย็นและเช้าก่อนกลับ มีร้านอาหารไทยมากมาย คุณรี่ได้เสื้อกันหนาวที่ลืมไว้วันแรกคืนด้วย
(13): ZURICH
Airport – BKK
และแล้วก็ถึงเวลากลับบ้านเสียที ทำไมรู้สึกว่ายังไม่อยากกลับนะ ปกติจะรู้สึกคิดถึงเมืองไทยมาก
สนามบินซูริกมี process การเข้าไปถึง ตม พอสมควรจนถึง gate ต้องนั่งเบียดรถไฟกันไปอีกอาคาร นี่ถ้าใครมาช้ามีสิทธิตกเครื่องบินได้นะ บนเครื่องบิน TG ลำนี้มีห้องน้ำเยอะดี รุ้สึกสะอาดน่าใช้ตลอดเวลา สงสัยว่าเค้าทำความสะอาดตอนไหนนะ ด้วยความที่เป็น direct flight เลยได้นอนยาวถึงไทย มีอาหารแจก 2 ครั้ง
(14): BANGKOK เดินทางถึงประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
ความที่มาถึง flight เช้า เลยได้จอดใกล้ทางออก ซึ่งแปลกประหลาดมากไม่เคยได้มาก่อน ใช้เวลารอกระเป๋าพอควร
นั่ง Airport Rail link มาลงพญาไท แล้วเรียก Grab taxi ให้ไปส่ง คอนโด
ขอขอบคุณพี่ตุ๊กที่เป็นเจ้าแม่ บช ช่วยคิดค่าใช้จ่ายที่ทำให้ชีวิตนักเดินทางง่ายขึ้น ^^
ค่าเครื่องบิน TG 32000 บาท
ค่าที่พัก 26000 บาท
อาหาร 20000
บาท
ค่าเช่ารถ 26000 บาท
ค่าที่กระเช้า 3000 บาท
ค่าวีซ่า 5000 บาท
ค่า Swiss Travel Pass 3 days 255 CHF = 10000 บาท
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด = 130,000 THB
Day 1 - 22 May 2024
BBK- ZRH by TG สุวรรณภูมิ ออกเวลา 01.05
07.50 สนามบินซูริก
เที่ยว swiss
The Abbey
Library of St. Gallen is one of the oldest and most beautiful libraries in the
world. The St. Gallen monastery was in possession of an important collection of
books as early as the 8th century.
Day 2 - 23 May 2024
เที่ยว swiss
Day 3 - 24 May 2024
เที่ยว swiss
Day 4 - 25 May 2024
8.30 รอรับพี่ตุ๊กบินมาสมทบ
9.00
ออกเดินทางไปอิตาลี่กัน
Day 5 - 26 May 2024
Day 5 - 26 May 2024
มิลาน – เซอร์มิโอเน่ - หมู่บ้านวาล ดิ ฟุเน่
– ***อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์*** โบสถ์ซานตา แมดดาลีน่า –
โบลซาโน
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซอร์มิโอเน่
เมืองน้อยแสนน่ารักเป็นเหมือนเกาะเล็ก ๆ ที่มีปราสาท เก่าแก่อายุกว่า 700 ปีที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง สร้างในศตวรรษที่ 13 ปราสาทกลางเมืองที่ถูก
สร้างยื่นลงไปในทะเลสาบการ์ดา (Garda Lake) ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี
คลอบคลุมพื้นที่กว่า 370 ตารางกิโลเมตร จากนั้น
นำท่านเดินชมเมืองเซอร์มิโอเน่ ลอดประตู
กำแพงเมืองเก่าผ่านปราสาทเก่าแก่ประจำเมือง THE
SCALLGER OF SIRMIONE สร้างในปี 1277 เมืองนี้เคยอยู่ในการปกครองของตระกูล
Scaliger ทันทีที่เข้าสู่เขตเมืองเก่าท่านจะพบกับความ สวยงามของเมือง
ลานจัตุรัสเล็ก ๆ ในเมืองล้วนถูกล้อมรอบด้วยอาคารเก่าแก่สวยงาม จากนั้น นำท่านเดินเล่นตามตรอกซอกซอยและชมวิวที่สวยงามริมทะเลสาบทุก
ๆ จุดของเมืองจะมีร้านค้า ภัตตาคาร ร้านกาแฟ มุมนั่งพักผ่อน
และที่ขาดไม่ได้ของการเข้ามาเยือนเมืองนี้ คือ การลองลิ้ม ชิมรสไอศกรีมอิตาลีที่เรียกว่า
“เจลาโต” ว่ากันว่าร้านไอศกรีมที่นี่มีการแข่งขันกันมาก มีไอศกรีม รสชาติต่าง ๆ
ให้เลือกมากที่สุดในอิตาลี (ระยะทางประมาณ 145 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางไปชมความสวยงามของ
หมู่บ้านวาล ดิ ฟุเน่ (VAL DI FUNES) มหัศจรรย์ของ ดินแดนแห่งธรรมชาติกับยอดเขาแปลกตาอีกแห่งในโดโลไมท์
เป็นหมู่บ้านมรดกโลกของอิตาลี รายล้อมด้วยเทือกเขาสูงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
และฤดูร้อนที่เมืองแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นทุ่งหญ้าสีเขียว สดใส สดชื่นสบายตา จากนั้น
นำท่านถ่ายภาพกับ โบสถ์ซานตา แมดดาลีน่า (Sant
Maddalena Church) เป็นโบสถ์ที่อุทิศแด่
เซนต์แมดดาลีน่า (St. Maddalena) เป็นสิ่งก่อสร้างที่ อยู่คู่เมืองแห่งนี้มาไม่ต่ำกว่า
600 ปี
โบสถ์แห่งนี้อาจดูไม่ได้สวยงามใหญ่โตเหมือนโบสถ์ในเมือง ใหญ่ๆ
แต่สิ่งที่ทำให้โบสถ์แห่งนี้มีชื่อเสียง
คือวิวทิวทัศน์เบื้องหลังของโบสถ์ที่มีฉากหลังเป็นยอด เขาโอดเล่ (ODLE) อันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Puez-Odle National Park ทาง ตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี งดงามเหนือคำบรรยาย
เป็นหนึ่งในจุดชมวิวมหาชนที่ ท่านต้องไม่พลาดนำมาเก็บเป็นภาพประทับใจ (ระยะทางประมาณ 203 กิโลเมตร
ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) จากนั้น
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโบลซาโน เมืองที่ถือว่าเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์
เป็นเมือง หลวงของภูมิภาคทีโรลใต้ ล้อมรอบด้วยแม่น้ำ ซึ่งแม่น้ำ Talvera จะไหลลงไปในแม่น้ำ Israco และมารวมกันเป็นแม่น้ำ Adige
เมืองนี้รู้จักกันทั่วไปเมื่อครั้งที่ NATIONAL GEOGRAPHIC ไปถ่าย ทำสารคดี
การค้นพบซากมนุษย์ที่ฝั่งอยู่ใต้หิมะบนยอดเขาสูงในแคว้นทีโรลของออสเตรีย และ นำร่างนั้นมาไว้ที่นี่
เรียกกันว่ามนุษย์หิมะแห่งโบลซาโน่ ที่เป็นข่าวไปทั่วโลก (ระยะทางประมาณ
45 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
18.30 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร จากนั้น
นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม FOUR POINTS SHERATON หรือเทียบเท่า
Day 6 - 27 May 2024
Tre Cime di
Lavaredo
Day 7 - 28 May 2024
Lake Mizurina
Day 8 - 29 May 2024
Church of St.
John
Bolzano
Trento
Day 9 - 30 May 2024
Morning -
Picturesque Manarola
Buongiorno
Manarola
Corniglia
Beautiful Sunset
at Riomaggiore
Day 10 - 31 May 2024
Great city view
next to Lake Murten from Medieval Rampart Walls.
Beautiful view
along the drive to Aosta it is truly magical 2 hr drive
Day 11 – 1 June 2024
Day 12 – 2 June 2024
เดินทางมาถึงสวิสเพื่อเตรียมตัวกลับไทย
Day 13 – 3 June 2024
ขากลับ ZRH
13.30 BKK 05.30
Day 14 – 4 June 2024
ถึง กทม โดยสวัสดิภาพ
ความคิดเห็น