Italy Swiss Trip 22 May – 3 Jun 2024

Italy Swiss Trip 22 May – 3 Jun 2024
13 วัน 12 คืน


Date 2024

Time

Activities

City Sleep In

Tue 21/5

21:05

พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ TG

 

Wed 22/5

01:05

BKK to Zurich By TG970

 

 

07:50

Zurich Airport

-ฝากกระเป่าใหญ่ที่ รร Mövenpick Zürich Airport Hotel  ตรง Arrival 2 Hotel shuttle Service

-เอากระเป๋าเล็กเดินทางค้าง 2 คืน ฝากไว้ที่ตู้หยอดเหรียญสนามบิน แล้วเย็นมาเอา

Swiss Pass

 

09:00

Go to Appenzell

การเดินทางโดยรถไฟ ที่หมาย คือสถานีรถไฟ Wasserauen    ถ้าเริ่มเดินทางจากสถานีรถไฟเมือง Zurich อาจตรงไปที่ Wasserauen เลย หรือผ่านสถานีรถไฟเมือง Appenzell ก่อนก็ได้ โดยใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟ ดังนี้

Zurich – Wasserauen : 2:03 ชั่วโมง(ชม.)
Zurich – Appenzell มีประมาณทุกๆ 15 นาที : 1:51 – 2:10 ชม.
Appenzell – Wasserauen มีทุกๆ 30 นาที : 11 นาที

 

 

10:00

สถานี cable car ของ Wasserauen

เรียก ชื่อ สถานี Luftseibahn Wasserauen – Ebenalp AG   ตั้งอยู่เยื้องหรือฟากตรงข้ามถนนกับสถานีรถไฟ Wasserauen ห่างกันไม่เกิน 100 ม.   เมื่อมองจากสถานีรถไฟ Wasserauen จะมองเห็น สถานี Luftseibahn Wasserauen – Ebenalp AG

 

เดินลงผ่านถ้ำ โบสถ์ ภัตตราคาร และเดินวนขึ้นเป็นรอบวงกลมกลับมาที่สถานี cable car (ใช้เวลา 1-1:15 ชม. ระยะทาง 2 กม.)

 

 

14:00

Sightseeing in St Gallen

รีวิว Stiftskirche St.Gallen Cathedral ด้านในสวยงามน่าชมมาก ห้ามพลาด

รีวิว Abbey Library ห้องสมุดเก็บหนังสือโบราณที่ว่ากันว่าเป็นห้องสมุดที่สวยติดอันดับโลก

รีวิวเมืองเก่า Spisergasse, Marktgasse

 

 

20:00

Hotel Weisses Kreuz

Interlaken W

Thur 23/5

08:00

Interlaken to Grindelwald

สำหรับการเดินทางมา Grindelwald ง่ายมากๆ เรานั่งรถไฟจากสถานี INTERLAKEN WEST
ใช้เวลาประมาณ 47 นาที ก็

การเดินทาง 

จากสถานี grindelwald ไปที่สถานี firstbahn เพื่อซื้อตั๋ว มี 2 วิธี

      เดิน 750 เมตร 
      นั่งรถบัสสาย 1, 121,123 (Swiss Pass นั่งฟรี) 

 

-          กรินเดลวัลด์ เฟียส (Grindelwald First) ยอดเขาสูง 2,168 เมตร

-          ทางเดินริมผา First Cliff Walk ฐานนี้ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที จนสุดทางจะเจอจุดชมวิวยื่นออกไป มองเห็นยอด wetterhorn schreckhorm และ Eiger คนรอต่อคิวถ่ายรูปพอสมควร รีบโพสท่า รีบออก

-          Trottibike เครื่องเล่นนี้ เราจะเริ่มเล่นจากสถานี “BORT” ขี่ไปตามทางลาดลงเขาเรื่อยๆ แล้วนำกลับไปคืนที่สถานีขึ้นกระเช้า Grindelwald-First Bahn

ค่าบัตร CABLE CAR ไป-กลับ ราคา 32 CHF (ไม่รวมเล่นกิจกรรม) กดซื้อได้ที่ตู้ขายบัตรหน้าสถานีเลยสะดวกมากๆ ค่ะ ราคานี้เป็นราคาที่ลดแล้วสำหรับผู้ถือบัตร Swiss travel pass

 

13:00

Lauterbrunnen – Murren

นั่ง Cable Car ขึ้นมาแป๊ปปปเดียวก็ถึงแล้วครับ Grütschalp

ถัดจาก Grütschalp จะเจอรถไฟเพื่อพาเราไปสถานี Mürren BLM ครับ ใกล้ถึงจุดหมายแล้ววว ขึ้นรถไฟกันเลยคร้าบ

พอถึง Mürren แล้ว ผมก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ จาก Mürren ไป Gimmelwald ครับ ซึ่งทางเดินไปนั้นเป็นทางเดินลงเขาตลอดทาง เดินง่ายมากครับ ไม่เหนื่อยเลย แอบมีนั่งเล่น นั่งดูวิว ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ใช้เวลาเดินก็ประมาณชั่วโมงนึงครับ

จาก Gimmelwald กลับไป Mürren นั่งกระเช้าดีกว่า

🇨🇭 ขาไป
Lauterbrunnen — cable car —> Grütschalp
Grütschalp — train —> Murren
🇨🇭 ขากลับ
Murren — walk —> Gimmelwald (option / cable car)
Gimmelwald — cable car —> Stechelberg
Stechelberg — bus —> Lauterbrunnen

Swiss Pass

 

18:00

- Iseltwald bus 103 - Harder Kulm

 

 

20:00

Hotel Weisses Kreuz

Interlaken

Fri 24/5

8:00

Go to Luzern

ฝากกระเป๋าที่ตู้แล้วไปเที่ยวต่อ

เส้นทางวันนี้   

Luzern -  Schwyz -  stoos   - Arth Goldau - Rigi - Zurich 

Swiss Pass

 

10:00

Stoosbahn ::  the steepest funicular railway in the world  :: 

Stoosbahn ครั้งแรกกับ Funicularชันที่สุดในโลก หมู่บ้าน Stoos Schwyz Switzerland

schwyz bahnhof   -   schwyz Stoosbahn 
ขึ้นbus No.B501  รถใหม่เอี่ยม swiss pass ฟรีค่ะ

Schwyz Stoosbahn 
อาคารสีเหลือง ด้านหลังเป็นรางสำหรับ funicular stoosbahn ไต่ขึ้นเขาไป เจาะทะลุช่องภูเขาขึ้นสู่หมู่บ้าน stoos  ระยะทาง 1300 เมตร มองไปเห็นอุโมงลิบๆ

Stoosbahn  เป็นรถฟันเฟืองทรงวงกลม เคลื่อนตามรางขึ้นไปข้างบน

 ความสนุกอยู่ตรงที่รถฟันเฟืองทะลุภูเขาเข้าไปด้านใน ทะลุเป็นช่วงๆเข้าอุโมงและออก สลับช่วงมืดและสว่าง ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งรถไฟเหาะ บางช่วงชันตั้งฉากระดับเกือบ90องศา มองเห็นตู้ด้านหน้าอยู่สูงเกือบบนตู้เรา เมื่อเข้าอุโมงมืด จะมองเห็นสเกลเรืองแสงบอกระดับความสูง

https://pantip.com/topic/42530487

 

 สถานี Stoosbahn หมู่บ้าน stoos 

ความสูง 1300 m. ใช้เวลาขึ้นมาเพียง5นาที 

 

 

ได้เวลาไปต่อ เราจะไปแวะยอดเขา Rigi นั่งบัสสายเดิมค่ะ  Bus No.B501  เราไม่ลงสถานี schwyz แต่นั่งต่อไปลงสถานี Arth goldau  ใช้เวลา 38 นาที 
สถานี  Schwyz Stoos Bahn   - Arth Goldau bahnhof (stop C ) 

บัสติดสถานีรถไฟ Arth goudau 
เดินต่อนิดเดียวไปสถานีรถไฟต้นทางขึ้นยอดเขาRigi  
Arth Rigi Bahn 

รถเราขบวนสีฟ้า swiss pass ฟรีอีกแล้ว ไปกันเลย 

ยอดเขา Rigi klum 
สูง 2546 ม. มีฉายา ราชินีแห่งเทือกเขาแอลป์  ตั้งอยู่โดดๆจากยอดเขาอื่น ตั้งในเมือง schwyz  ห่าง Luzern 30 กม

 

 

13:00

จาก Lucern

Stans – Stanserhorn

เดินจากสถานีรถไฟตามป้าย ไปยังสถานีต้นทางรถไฟฟันเฟือง Funicular

ขึ้นกระเช้าเปิดประทุน CabriO  
ไม่มีหลังคา เปิดโล่ง กระเช้าจะขึ้นทุก30นาที

 

 

20:00

Hotel: Mövenpick Zürich Airport Hotel

Zurich

 

 

Walter-Mittelholzer-Strasse 8, Zürich, Schweiz

Tel 41448088888





Date

Time

Activities

City Sleep In

Sat 25/5

08:00

Zurich airport/ Pick up Rental Car

รอรับพี่ตุ๊กมาสมทบ

Rental Car

 

09:00

Sight seeing in Stein am Rhein

เดิน Chill ถ่ายรูปทานเครปเจ้าอร่อย

 

 

11:00

Sightseeing in Konstanz

ขับรถมาจอดไว้ที่ห้าง LAGO Shopping Center ซึ่งอยู่ติดกับสถานีรถไฟเมือง Konstantz

  • up to 2 hours €4.00
  • up to 2.5 hours €5.00
  • up to 3 hours €6.00

แล้วเดินเที่ยวในตัวเมืองไปถึงริมทะเล ที่มีรูปผู้หญิงหมุนรอบตัว

 

 

16:00

Sightseeing in Appenzell

Carparkplatz  ที่จอดรถ

เดินเล่นชมหมู่บ้านเลยไปถึงโรงงานผลิตเบียร์

 

 

20:00

Hotel: NIGHT INN Hotel Bahnhofcity Feldkirch

Feldkirch Austria

Sun 26/5

 

Feldkirch Austria to Cortina d'Ampezzo

Rental Car

 

08:00

Innsbruck to Cortina d'Ampezzo

312km 4.5 hours

 

 

Drive to  Sterzing

เมืองที่เป็นศูนย์กลางของเขต Wipptal ตอนใต้แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองในดินแดนอิตาลีที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของเทือกเขาแอลป์ โดยในเขตเมืองยังคงไว้ซึ่งอาคารบ้านเรือนศิลปะแบบอาณาจักรออสเตรียยุคกลางสีพาสเทลสุดน่ารักไว้อย่างสมบูรณ์

หวานละมุนสุดๆ Sterzing เมืองสีพาสเทลสุดคลาสสิกแห่งอิตาลี 🇮🇹

 

We start our walk at Piazza Fuori Porta (Untertorplatz) Square, where you’ll find a short-term parking area and a bus stop. We turn north, and head straight into the new town. Very soon, a statue depicting Saint Nepomuk greets us:

 

14:00

Pragser Wildsee / Lago di Braies / Toblacher See / Durrensee

P4 จะอยู่ใกล้ทะเลสาบสุดแต่ก็แพงสุดเหมือนกัน

 

20:00

Hotel: B&B Hotel Passo Tre Croci Cortina

Cortina d'Ampezzo

 

All Day

Whole day sight seeing in Cortina d'Ampezzo (Dolomites)

 

Mon 27/5

8:00

Drive to Lake Misurina

Rental Car

 

10:00

Drive to Tre Cime National Park

เดินทวนเข็มนาฬิกาพอ ไปถึงจุดถ่ายรูปที่ถ้ำ

ค่าจอดรถ 30 EUR

 

15:00

Drive through Giau Pass / Alleghe /

 

 

20:00

Hotel: B&B Hotel Passo Tre Croci Cortina

Cortina d'Ampezzo

Tue 28/5

8:00

Drive to Cinque Torri

 

นั่งกระเช้าขึ้นเขาชมวิว

 

11:00

Drive to Gardena Pass

 

 

14:00

Sightseeing Lake Carezza

ทะเลสาบCarezzaค่อนข้างไกล ขับรถไปประมาณชั่วโมงกว่า ขึ้นเขาด้วย ทางคดโค้งไปกลับเกือบ3ชม. ลองกะเวลาดูแล้วกัน

 

 

15:00

Drive to

Passo Gardena, Mountain Viewpoint, Passo Gardena, 39048 Selva di Val Gardena BZ, อิตาลี

ชมวิวเขาหน้า รร

 

17:00

เข้าที่พักพอดี ทำอาหารเย็น

 

 

20:00

Hotel: Residence Cesa Rives

Val Gardena

Wed 29/5

8:00

Sightseeing and hiking Rifugio delle Odle

Rental Car

 

10:00

ถ้ามาถึงเขตภูเขาทางเหนือของอิตาลีอย่าง Dolomites แล้วไม่ลองเดินเขาเพื่อใกล้ชิดกับธรรมชาติ พร้อมสัมผัสความมหัศจรรย์แห่งขุนเขาแล้ว อาจเรียกว่า #มาไม่ถึง ก็เป็นได้ ดังนั้น อีกพิกัดที่เราอยากแนะนำมากๆ ก็คือ Rifugio delle Odle ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านวิวปังอย่าง Santa Maddalena

📌Rifugio delle Odle หรือ Geisler Alm ในภาษาเยอรมัน คือ ที่พักและร้านอาหารบนภูเขาในเขตอุทยานแห่งชาติ Puez-Odle ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในจุดชมวิวหลักล้านของ Dolomites เพราะสามารถเห็นวิวภูเขา Odle ได้อย่างใกล้ชิด

🚶♂️การมาที่ Rifugio delle Odle ต้องเดินเขาขึ้นมาเท่านั้น โดยใช้เส้นทาง Adolf Munkel Trail ซึ่งเป็นอีกเส้นทางเดินเขายอดนิยม จอดรถได้ที่ลานจอดรถ Parcheggio Malga Zannes ค่าจอดรถแบบเหมาทั้งวัน 8 ยูโร แนะนำให้มาตั้งแต่ช่วงเช้าเพราะที่จอดรถอาจเต็มได้

เริ่มต้นเดินเขาตามเส้นทาง 36, 35 และ 6 ไต่ระดับความสูงผ่าน Dusler Alm ไปจนถึง Rifugio delle Odle ถ้าอยากเดินต่อสามารถเดินไปจนสุดทางที่ Gschnagenhardt-Alm ก็ได้ ขากลับก็เดินตามทางเดิม รวมระยะทางทั้งสิ้น 9.2 กิโลเมตร ต้องไต่ระดับความสูงขึ้นลงประมาณ 378 เมตร และควรเผื่อเวลาเดินไปกลับประมาณ 4 ชั่วโมง

ตลอดเส้นทางการเดินจะได้ชมวิวความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ต้องบอกว่าปลื้มปริ่มมาก ได้ใกล้ชิดกับแนวภูเขาไอคอนของ Dolomites ในมุมมองใหม่ๆ แถมนักท่องเที่ยวก็ไม่เยอะด้วย เท่าที่เห็นเกือบทั้งหมดเป็นชาวตะวันตก

 

🍕สำหรับร้านอาหาร บอกเลยว่ารสชาติดีมาก เดินมาเหนื่อยๆ ได้ทานอาหารอร่อยๆ พร้อมชมวิวแบบเกาะติดขอบคือฟินสุดๆ แล้ว ถ้ามีเวลามากหน่อยแนะนำให้เพิ่มเวลาเดินเขาด้วย เส้นทางนี้คือปังสุดๆ ของจริง คุ้มค่าเหนื่อยแน่นอน แถมไม่มีอยู่ในโปรแกรมทัวร์ด้วย 😊❤

พี่ตุ๊กน้ำ หลังจากส่งคณะเดินเขาแล้วจะขับรถไปเมือง Brixen ระยะทาง 30 กม.

เดินเข้าสู่เมืองที่ Sun gate

·       Cathedral of Brixen (outside)

·       Cathedral of Brixen (inside)

·       The Pharmacy Museum (Pharmaziemuseum Brixen),

·       The White Tower (also known as "Weißer Turm") 

·       Neustift Abbey, or Novacella Abbey is an Augustinian abbey in the municipality of Vahrn in the northern Italian province of South Tyrol.  ผ่านไร่องุ่น

·       The Diocesan Museum, located since 1976 in the Bressanone Bishop's Palace, called Hofburg  มีค่าชม 10 EUR

Stufles, the oldest district of Bressanone

Stufels is a hidden jewel of Brixen: Inhabited in the neolithic and roman periods, it is considered one of the most charming quarters of the episcopal city. Located between the rivers Eisack and Rienz, Stufels has a picturesque building stock. With its  guardian angel church, attractive shops and artistic highlights, Stufels invites you to stroll around as well as take a relaxing stroll along the riverbank. Whoever visits Stufels approaches Brixen's actual core: quality of life in its most beautiful form.

https://visitsights.com/sightseeing-tours/Italy/Brixen%20-%20Bressanone/1

Parking Brixen Bressanone

open 24 hours,  5 minutes from the old town,Disabled parking space, parking space for woman, Lift & toiletts, pice: € 2,00/h

In the old city, there are some public parking lots that can offer quick and uncomplicated access to the city center:

  • Central Parking Bressanone
  • Stufels Parking
  • Priel Parking
  • Bressanone Park
  • Acquarena Parking

 

 

 

15:00

The Church of St. Johann in Ranui (San Giovanni) (พิกัด: 46.63505, 11.72428) จุดนี้จะมีโบสถ์เล็กๆ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวเป็นฉากหน้า และเทือกเขายอดหยักๆ เป็นฉากหลัง ถ้าได้วิวมุมสูงนี่จะสุดยอดมากเลย

Val di Funes

 

อันนี้ไม่มีอะไรให้ไปจอดถ่ายข้างรั้วข้างๆ จะสวยกว่า

 

16:00

จุดชมวิว Church of Santa Magdalena (พิกัด: 46.64861, 11.71527) ผมชอบที่นี่มากกว่า เพราะเป็นวิวมุมสูงมองเห็นแบบพาโนรามาเลย (credit ของพิกัดนี้คือ www.piriyaphoto.com/dolomite/ ครับ)

อันนี้ต้องจอดรถแล้วเดินขึ้นเขา 30 นาทีเพื่อไปถ่ายรูปสวยงามค่ะ

 

18:00

ถ้ามีเวลาเที่ยวชมเมือง Ortisei

 https://www.gotouchthesky.com/dolomites-ortisei/


 

20:00

Hotel: Residence Cesa Rives

Val Gardena

 

 

Then it's worth buying the Gardena Card or the Dolomiti Supersummer Card. To avoid waiting times at the valley stations in SelvaS. Cristina and Ortisei, it is recommended to buy tickets online in advance.

https://www.val-gardena.com/en/summer/mobility/lifts-cable-cars/

 

Thur 30/5

All Day

All day sight seeing and hiking in Ortisei (Dolomites)

Seceda via Gondola lift (may not be open until Mid June)

Take other gondola lift for hiking if Seceda is closed

Rental Car

 

10:00

Alpe di Siusi by gondola cable car (if open)

Ortisei - Alpe di Siusi – Gondola

from 11.05 - 03.11.2024: from 08:30 - 17:00

สถานีกระเช้า Alpe di Siusi  (“Mont Sëuc” ropeway) อยู่ห่างจากตัวเมืองในระยะทางเดินเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น โดยมีสะพานคนเดินข้ามทอดยาวไปถึงหน้าสถานีกระเช้าเลย

กระเช้าเริ่มไต่ระดับขึ้น มองเห็นตัวเมือง Ortisei อยู่เบื้องล่าง

 อัลเป ดิ ซิอูซี

Siusi - Alpe di Siusi * - Gondola

open from 18.05 - 03.11.2024: from 08:00 - 18:00

ค่าโดยสารกระเช้า “Mont Sëuc” Ropeway ไป-กลับระหว่าง Ortisei – Alpe di Siusi มีราคา 31 ยูโร แนะนำให้ซื้อบัตร Dolomiti Supper Summer แบบหนึ่งวันในราคา 62 ยูโร ซึ่งสามารถใช้ขึ้นกระเช้าต่างๆได้ครอบคลุมและประหยัดเงินกว่า

 

13:00

Resciesa - Cable railway

open from 17.05 - 13.10.2024: from 09:00 - 16:00

จุดชมวิวอีกแห่งที่อยู่ทางด้านเหนือของหุบเขา Val Gardena คือยอดเขา Resciesa มีลักษณะเป็นที่ราบลาดเอียงขนาดประมาณ 10 ตารางกิโลเมตร ที่ระดับความสูงระหว่าง 2,282-2,303 เมตร นิยมใช้เป็นจุดชมวิวกลุ่มยอดเขา Sassolungo, Odel และทิวทัศน์มุมอื่นๆของเทือกเขาโดโลไมท์

 

การเดินทางขึ้นไปบนเขา ใช้รถรางแบบที่ใช้สายเคเบิ้ลดึง (Funicular) โดยสถานีรถราง Funicolare Resciesa จะตั้งอยู่ทางเหนือของเมือง ไม่ไกลจากสถานีกระเช้า Seceda

 

 

Ortisei - Resciesa - Seceda - Col Raiser - S. Cristina

Ortisei-Furnes – Gondola

Furnes - Seceda - Cable car

Col Raiser – Gondola

Resciesa - Cable railway

 

 

 

open from 31.05 - 03.11.2024: from 08:30 - 17:30

open from 31.05 - 03.11.2024: from 08:30 - 17:30

open from 17.05 - 03.11.2024: from 08:30 - 17:00

open from 17.05 - 13.10.2024: from 09:00 - 16:00

 

17:00

ถ้ามีเวลาเที่ยวชมเมือง Ortisei

https://www.gotouchthesky.com/dolomites-ortisei/

 

 

20:00

Hotel: Residence Cesa Rives

Val Gardena

Fri 31/5

 

Drive to Sirmione 2 hours

Rental Car

 

8:00

Sightseeing in Bolzano

Our excursion starts in Walther Square. This square was completed in 1808 by order of King Massimiliano di Baviera, and initially named after him. In 1901, it was dedicated to Walther von der Vogelweide (1170-1230), one of the great German poets and storytellers of the Middle Ages. • On the same square we will admire the Cathedral of Bolzano, a late Medieval and a Romanesque Basilica (1180) completed around 1420 with the Gothic style of the Suevian mastery. The bell tower, with an open fretwork spire in sandstone, which stands 65m tall, was built by the Suevian architect, Hans Lutz von Schusseried, between 1501 and 1519. • Our next stop is at the Dominican Church, a complex comprising a convent, a large nave and different chapels, and a magnificent cloister. The jewel of the entire complex is cappella di San Giovanni, a long and narrow side chapel with the most magnificent fresco cycle of the Giotto School in the province. • We continue our walk through the Goethe Street and Piazza delle Erbe, a colourful and lively piazza, the heart of the city centre, that hosts the famous daily fruit and vegetable market (except on Saturday afternoon, Sunday and public holidays). • We walk through the Mueseum Street and crossing the Talvera Bridge you find yourselves in front of the imposing structure of the Victory Monument, Monumento alla Vittoria (1926 - 1928); • Again on Mueseum Street we reach the famous Portici (Arcades), once the heart of the medieval village. They have kept this characteristic to date with their seamless continuity of shops, some typical and traditional, others chic and modern.  • We stop by Piazza del Municipio (Town Hall Square) and then we walk up to the Piazza del Grano (Grain Square), where is located the Vicolo della Pesa, one of the oldest places in Bolzano, once hosting the castle of the Prince-Bishops of Trento (destroyed in 1277 by Mainardo II di Tyrolo) and the church of Sant’Andrea (destroyed in 1785). One of the most picturesque buildings of the city is situated to the north of this square:la casa della Pesa (1634), public weigh-house until 1780. Read less

Read more about Guided Walking Tour: The historical City Center of Bolzano - https://www.viator.com/tours/Bolzano/Guided-Walking-Tour-The-historical-City-Center-of-Bolzano/d29398-44040P27?mcid=56757

 

https://www.bucketlistly.blog/posts/best-things-to-do-in-bolzano

 

Sight 1: Municipal Museum

Sight 2: South Tyrol Museum of Archaeology

Sight 4: Museo Mercantile – Merkantilmuseum

Sight 5: Museo Scienze Naturali - Naturmuseum

 

13:00

Sightseeing in Trento

This scenic walk along the streets of Trento (pic n°1), 160 km north of Milan, starts from the railway station and will continue along Via Andrea Pozzo and Lungadige Monte Grappa. Then, you will reach Palazzo delle Albere (pic n°1), one of the most important monuments of the city of Trento. It was built in the mid-sixteenth century by order of Bishop Christopher Madruzzo, a member of the Madruzzo's family who was ruling in Trento in that period.

A few more steps and you will reach the Museum of Science (pic n°2), called MUSE. There are sections showing the animals and the typical flora of the various climates, but the most interesting part is the area of the interactive spaces equipped with high-level scientific instrumentations.

Continue along Via delle Orfane, where you will be touched by the beauty and liveliness of this street. Then you will get to the beautiful Piazza Duomo (pic n°4), where are located the Civic Tower, the Cathedral of San Vigilio, the Praetorian Palace (which houses the Diocesan Museum of Trento), and the eighteenth-century Fountain of Neptune (pic n°5). From Piazza Duomo, continue along Via Belenzani and you will reach the Thun Palace which is the seat of the Municipality of Trento and was built in 1500. There are still well-preserved centenarians frescoes inside.

Now take the direction towards Piazza Cesare Battisti. This square is located in the center of the popular neighborhood of San Benedetto, the heart of Trento, with many medieval alleys around. Below the pavement, there is the Roman Civitas that can be visited.

A few steps from Via San Pietro and you will find Buonconsiglio Castle (pic n°6), built as early as the thirteenth century, which houses the Tower of the Eagle and the most important example of the Gothic art of the Cycle of the Months, and the Magno Palace with frescoes by Romanino.

https://www.touring-italy.net/tours/tour-details.php?recordid=111

 

 

20:00

C'era una Volta

2 Via San Bernardo, 23828 Perledo, Italy 

Varenna

 

 

🇮🇹วันนี้พามาเที่ยวยุโรป ปักหมุดกันที่ทะเลสาบที่สวยในประเทศ อิตาลี! นั่นก็คือ Lake Como ทะเลสาบวิวอลังการ เหมือนหลุดออกมาจากซีนในหนัง เพราะที่นี่ยังถูกใช้เป็นฉากในภาพยนตร์ดัง เรื่อง Jame Bond 007 กับ Star War เลยนะ 🌅Lake Como เป็นทะเลสาบตั้งอยู่ใน เมือง Como แคว้นบอมบาเดีย ติดกับชายแดนสวิซเซอร์แลนด์ เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของ อิตาลี รอบๆ ก็จะมีหมู่บ้านเล็กๆ รายล้อมและมีฉากหลังเป็นภูเขาสูง

 

Sat 1/6

08.00 - 12.00

🌈ใช้การ Hopping โดยเรือ Ferry ไปที่เมืองอื่นๆ ค่าเรือไปแต่ละทีประมาณ 13 ยูโร่ พร้อมแล้วไปกันเลยยย 🌤08.00 - 12.00 น. Bellagio (เบลลาโจ) :. Old Town แล้วถ่ายรูปกับมุมบันไดด้วยสวยมาก :. Villa Melzi d’Eril บ้านเก่าสวนริมน้ำสวยสุดๆ ค่าเข้าชม 16 ยูโรจ้า :. ร้านอาหาร Trattoria Baita Belvedere อยู่บนยอดเขามองเห็นวิว Lake Como จากมุมสูงได้เลย

3 เมืองที่เป็นไฮไลต์ของ Lake Como ก็คือ ⛵️Bellagio (เบลลาโจ) ⛵️Lenno (เลนโน) ⛵️Varenna (วาเลนนา)

 

13.00 - 15.00

☀️13.00 - 15.00 น. Lenno (เลนโน) ต้องไปที่ Villa Del Balbianello วิลล่าดังที่เป็นสถานที่ถ่ายหนัง Jame Bond แล้วก็ Star War โดยนั่งเรือจาก Bellagio ประมาณ 30 นาที ค่าเข้าชม 23 ยูโร แต่บอกเลยคุ้มๆ ถ่ายรูปสวยทุกมุม 🌙 เราอยากบอกเลย ไม่ผิดหวังแน่นอนจ้า

 

 

15.30 - 18.00

15.30 - 18.00 น. Varenna (วาเลนนา) :. เมืองที่เหมือนอยู่ดิสนีย์แลนด์แบบทะเลเมดิเตอเรเนียน มีคนมาเล่นดนตรี อากาศดี วิวดี ยกกล้องถ่ายยังไงก็สวย Villa Monastero, Varenna:. Diner กันที่ Osterai Quatro Pass ร้านอาหารที่ Lake como ต้องจองทุกร้านนะเพราะคนเยอะมาก :. ต่อด้วยไอติมร้าน Gelateria Bon Bon อร่อยมากก แล้วก็จบ 1 วันแบบฟินๆ

Lake Como เนี่ยบอกเลย สวยหยั่งกะภาพวาด สมกับเป็น Dream Destination นักท่องเที่ยวทั่วโลกจริงๆ ใครที่กำลังแพลนมาเที่ยวอิตาลี

 

20:00

C'era una Volta

2 Via San Bernardo, 23828 Perledo, Italy 

Varenna

Sun 2/6

9:00

Drive Menaggio – Lugano

Rental Car

 

11:00

Sightseeing in Lugano / foxtown outlet

 

 

13:00

lunch

 

 

15:00

Drive to ZURICH

ถ้าทำเวลาได้ดีจะมีโอกาสมาเดินที่เมือง Zurich

 

 

20:00

Hotel: Mövenpick Zürich Airport Hotel

Zurich

 

 

Walter-Mittelholzer-Strasse 8, Zürich, Schweiz

Tel 41448088888

Mon 3/6

08:30

Sight seeing in Zurich Airport

 

 

10:00

Go to Airport

 

 

13:30

ZRH – BKK By TG971

 

Tue 4/6

05:30

BKK

 










St Gallen

Appenzell













Trip นี้เกิดขึ้นได้เนื่องจากคุณรี่เพื่อน love ต้องการไปเดินเขาที่ Dolomite จึงได้รีบจัดทัวร์นี้ขึ้นมาทันใด เนื่องจากจริงๆ แล้วควรจองตั๋วเครื่องบินไปลงมิลานจึงจะเดินทางใกล้สุด เพราะสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่ที่อิตาลี่ แต่ TG ดันไม่ได้เปิดรูทตอนปลาย 66 ที่เรารีบจองตั๋วกันแสนแพง เพราะอยากบิน Direct Flight 
ประกอบกับคุณรี่ อยากได้วีซ่าสวิสหลายปี จึงต้องเขียนแผนให้เที่ยวสวิสนานกว่าอิตาลีจึงจะผ่านเงื่อนไขได้ ตกลง คุณรี่ได้วีซ่านาน 3 ปีสมใจ ส่วนพวกเพื่อนๆ ที่ไปด้วยได้พอดีวันเดินทางเป๊ะๆ  เราได้แต่บ่นว่าสวิสขี้เหนียววันเที่ยวให้จัง
ทำการวางแผนเที่ยว จองที่พัก ทำการขอวีซ่า ทุกอย่างครบแล้วค้า รอวันเดินทาง
พอใกล้ถึงวันเดินทางก้อดู rate ค่า เงิน โชคดีที่เงินสวิสตกมาหน่อยนึงก่อนกลับไปยืนเหนือ 40 บาทอีกครั้ง
แล้วพยากรณ์อากาศก็ทำให้เราหดหู่กับการเจอฝนทุกวัน กลัวได้ภาพไม่สวยและไม่เป็นตามแผน แต่เอาไงเอากันค่ะ เดินหน้า คิดว่าเรามีชะตาเที่ยวที่ดี ^^

Italy Swiss Trip 22 May – 3 Jun 2024

ออกเดินทางจากสถานบินสุวรรณที่ อาคาร 2 แม่เจ้าที่ชั้นบิน TG นะคะ  เลยได้นั่งรถไฟเชื่อมระหว่างอาคารครั้งแรก บินออกซะดึกเลย ส่งคุณรี่เข้าไปกินในเล้าจ์ค่ะ บิน 10 ชม ยาวดีทำให้ใด้นอน

(1): BKK   – ZURICH  Ebenalp & Seealpsee -St Gallen- Interlaken

วันแรกของการมาถึงสนามบินซูริกก้อทำให้หลงค่ะ ตามแผนคือต้องหารถของ รร Movenpick เพื่อเอากระเป๋าใหญ่ไปฝากไว้ 2 คืน แล้วกลับมานอนที่นี่คืนที่ 3 ทีนี้ด้วยความที่สนามบินมันมีหลายตึกมากเราก้อเดินหลงไปมา แต่ในที่สุดก็หารถฟรีเจอค่ะ ไป รร จัดเป๋าเล็กไป Interlaken 2 คืน กลับมาที่สถานีรถไฟสนามบิน เพื่อฝากเป๋าไปเที่ยวก่อน โชคดีที่มีตู้ว่าง เสียดายที่ไม่มี Size XL จะได้ฝากด้วยกัน 1 ตู้ งานนี้เราฝากเกิน 6 ชม. โดนเสียค่าฝากเพิ่ม ไรจะคิดเงินทุกอย่าง แพงเพื่อความสบาย

นั่งรถไฟไป Appenzel เพื่อปีนเชาไปดู รร  ที่สร้างในซอก

เอาล่ะค่ะได้ฤกษ์นั่งรถไฟกันแล้ว มื้อกลางวันทานกันง่ายๆโดยเอาขนมปัง Subways จากเมืองไทยมาทาน เมื่อถึงที่หมายลงรถไฟฝนยังตกอยู่ ไปซื้อตั๋วขึ้นเขาค่ะ เย้ ได้ขึ้นแล้วชมวิวแสนสวยงาม ถ่ายรูปกันไป โชคดีค่ะ ถึงด้านบนฝนหยุดตกพอดี พบกับวิวอันสวยงาม ลืมว่าเคยมีฝนไปเลย เดินลงเขาไป รร กันค่ะ ขาลงช่างง่ายไม่เหนื่อยงี้ ขากลับเดินขึ้นเขาดิคะ เหนื่อยโคตร แถมเจอลมฝนอีก ตายๆๆๆ เกือบไม่รอด

ทางเดินเค้าทำให้ดีงามค่ะ ผ่านถ้ำ มีลูกเล่นให้เดินลอดถ้ำกันไป ถึง รร มีร้านอาหารฝรั่งนั่งกันเต็มเลย เออ ทีแรกนึกว่าไม่มีคนมารวมกันที่นี่เอง  ถ่ายภาพเสร็จเดินกลับค่ะ  เพราะต้องทำเวลาอีกที

นั่งรถไฟไป St gallen กัน รีบเดินไปให้ถึงห้องสมุด แหมมอีก 30 นาทีจะปิดพอดี  ดูเสร็จเดินรอบเมือง ได้รองเท้าชมพู 1 คู่ แวะซื้ออาหารที่ super  เพื่อเอาไว้ทานกลับมาที่ซูริกเอาเป๋าเล็กไปต่อที่ interlaken เมือง base on 2 คืน ตามปกติคือจะนั่งรถไฟยาวไปถึงเมืองเลย แต่ปรากฎว่าหนนี้รางรถไฟปิดซ่อมเราเลยต้องขนกระเป๋าไปรอรถบัสเพื่อไปต่อ กลายเป็นดีไปใกล้ รร ไม่ต้องเดิน แต่ว่าต้องนั่งเบียดกันบนรถบัส คิดดูดิะ ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเมืองเดียวกัน โชคดีที่เราไม่เอาเป๋าใหญ่มา คิดสภาพแล้วคงทุลักทุเล หา รร เจอแล้วเข้าห้องนอนกันค่ะ ห้อง 3 เตียงกว้างทีเดียว มีที่วางของเยอะ

(2): Swiss -  Grindelwald - First - Gimmelwald in Lauterbrunnen – Murren  – Interlaken

วันนี้ลงมาทานอาหารเช้า 7 โมงหน่อยๆ เลยไม่ได้เห็นทัวร์จีนที่มากันก่อนเวลาและแย่งกันตักอาหารแบบโกลาหน จนท ของ รร ก้อดีนะคะ จัดระเบียบและเอาอาหารมาเพิ่มให้อิๆ อาหาร รร อร่อยดีมากสมกับการรีวิว สังเกตุว่าแขกของ รร เป็นชาวเอเชียหมดเลย หาฝรั่งแท้น้อยมาก แล้วก้อออกเดินทางขึ้นรถไฟไป Grindelwald กัน ฝนตกปรอยๆ จนถึงสถานี เราเดินไปขึ้นรถบัสตามคำแนะนำ เพราะเดินขึ้นเขาถึงไม่ไกลแต่เหนื่อยแถมฝนตกอีก หาที่ซื้อตั๋วขึ้นไปกัน ทีแรกกะจะเล่น Totterbite เป็นอันอด ไปถึงเจอหิมะและหมอกเลยค่ะ. มาถึงแล้วต้องเดินลุยหิมะไปถ่ายรูปกัน ดีที่มีเสื้อกันฝนที่คุณรี่จัดเตรียมมาได้ใช้ ประโยชน์มาก ถ่ายวิวขาวโพลนของหิมะ แล้วเดินลงมาห้องอาหารคนมาอยู่นี่เต็มเลย มันอุ่นดีนี่นา ไปถ่ายสะพานที่คนเข้าคิวกันเยอะ แต่ยามนี้มันไม่เห็นวิวอะไร คนก้อยังเยอะอีกแฮะ อ่ะถ่ายๆๆๆ สักพักเราคิดว่าควรลงไป Murren ได้ล่ะ เผื่อทางโน้นอากาศดีกว่าทางนี้ ขากลับไปขึ้นรถไฟหารถเมล์ไม่ได้เดินลงเขาไปกันค่ะ ฝนก้อตกอีกแต่ไม่มากพอรำคาญ นั่งรถไฟเปลี่ยนขบวนแล้วถึงลูน่าเบอเถินเสียที หาอาหารกินค่ะ หิว อร่อย หารถเมล์ที่จะไป ขึ้นกระเช้าไปหมู่บ้านกัน เลยได้ถ่ายน้ำตกด้วยค่ะ นักท่องเที่ยวเยอะเลย และแล้วรถบัสก้อมาคนเยอะยืนเบียดกันเลยค่ะ อะไรจะพร้อมใจกันมางี้ ส่วนขากลับรถโล่งดี   ยื่นบัตร swiss travel pass ขึ้นฟรีค่ะ รู้สึกว่าใช้บัตรคุ้มหน่อยงี้  นี่ว่าอ่านรีวิวมาดิบดีต้องนั่งกระเช้าเลย ปรากฎว่าหน้างานกระเช้าปิดค่ะ ต้องคิดใหม่ เออ พอถึง กิมเมลวัลฝนก้อยังตกทีแรกว่าจะนั่วกระเช้าลงไป murren  แล้วกลับล่ะ อ่ะ ไหนๆ มาถึงแล้วขอเดินชมวิวกลางฝนละกัน ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกเพราะหลังจากเราเดินสักพักฝนก็หยุดตกเย้ๆ ถ่ายดอกไม้ขาว ชมพูตลอดทางผ่านเลยคร้า มีความสุข แทบจะแวะถ่ายทุก 5 นาที มีหมอก มีเมฆ ยังกะอยู่ในสวรรค์ มันสวยจริงๆ น้า เพลิดเพลินตลอดทางจนถึงสถานีลงกระเช้า รีบเข้าห้องน้ำทันเวลาพอดี  แหมมแดดออกจ้าเลยชีวิตดีขึ้นมาทันที

เย็นกลับถึงเมือง Interlaken ได้ไว จึงเดินทอดน่องจาก  east มา west แบบสบายๆ เลือกร้านอาหารหัวมุมที่เขียนเมนูภาษาไทยไว้ มีทัวร์ไทย เกาหลีเข้ามาใช้บริการเยอะ เราสั่งอาหารและฟองดู อร่อยดีค่ะ กินเสร็จเดินกลับ รร ไม่ไกล

(3): SWISS -  Luzern -  Schwyz -  stoos   - Arth Goldau - Rigi - Zurich 

ช่วงเช้าอากาศแจ่มใสเป็นใจสุดๆ แต่ตอนเย็นจะมีฝนนี่สิ เป็นห่วง

เช้ามาทานอาหารโรงแรมแสนอร่อยอีกครั้ง วันนี้ก็ยังเจอทัวร์จีนชุดเดิม สังเกตุว่าทัวร์เค้าไม่เดินทางด้วยรถบัสนะแต่ใช้รถไฟ first class แทน  เราเก็บกระเป๋าออกเดินทางกลับซูริค ไปรอรถไฟเจอคนอินเดียมาเที่ยวเป็นครอบครัวกันเลย ไปเมืองไหนก้อเจอแต่แขก ซึ่งเค้าเน้นเที่ยวเองไม่ต่างจากนักท่องเที่ยวจีนแฮะ สงสัยจะมีหลายรูปแบบ  หนนี้เราได้นั่งรถไฟสาย Luzern Interlaken Panorama Express 

The Luzern–Interlaken Express turns the journey from one city to the other into a great experience. During a train ride of roughly two hours, passengers marvel at five crystal clear mountain lakes that gather the waters from various rivers and waterfalls. At the lakeshore, steep rock faces of surrounding mountains rise up protectively and provide unique photo motifs. Shortly before starting its steep, winding ascent to Brünig Pass, the train changes to cogwheel drivetrain technology in order to conquer the gradient. With good reason, the Luzern–Interlaken Express is part of the scenic GoldenPass Line leading to Interlaken and on to Montreux. 

เราตื่นเต้นกับความสวยงามตลอดทางที่ผ่านทะเลสาป และบ้านเรือนน่ารัก 

มาถึงลูเซิน คุณรี่นัดเพื่อนชื่อมน ที่ได้แต่งงานกับชาวสวิส มีบ้านที่เมือง ไฟร์บวกมาเจอเราที่นี่ เราทำการฝากกระเป๋าที่สถานี และออกเดินทางต่อไป

schwyz bahnhof   -   schwyz Stoosbahn 
ขึ้นbus No.B501  รถใหม่เอี่ยม swiss pass ฟรีค่ะ

Schwyz Stoosbahn 
อาคารสีเหลือง ด้านหลังเป็นรางสำหรับ funicular stoosbahn ไต่ขึ้นเขาไป เจาะทะลุช่องภูเขาขึ้นสู่หมู่บ้าน stoos  ระยะทาง 1300 เมตร มองไปเห็นอุโมงลิบๆ

Stoosbahn  เป็นรถฟันเฟืองทรงวงกลม เคลื่อนตามรางขึ้นไปข้างบน

 ความสนุกอยู่ตรงที่รถฟันเฟืองทะลุภูเขาเข้าไปด้านใน ทะลุเป็นช่วงๆเข้าอุโมงและออก สลับช่วงมืดและสว่าง ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งรถไฟเหาะ บางช่วงชันตั้งฉากระดับเกือบ90องศา มองเห็นตู้ด้านหน้าอยู่สูงเกือบบนตู้เรา เมื่อเข้าอุโมงมืด จะมองเห็นสเกลเรืองแสงบอกระดับความสูง

มาถึงข้างบนหมู่บ้านสวยงาม มลได้เตรียมข้าวเหนียวหมูย่าง น้ำจิ้มแจ่วมาฝากพวกเราได้นั่งปิกนิกวิวทุ่งดอกไม้ที่นี่  รีบทำเวลาเดินขึ้นชมเนินเขา รอรถไฟเที่ยวต่อไปเพื่อลงไปข้างล่างเห้นว่าฝนกำลังจะตกพอดี 

ที่สวิสนี่เค้าจะออกแบบรถไฟกับรถบัสได้พอดี รอไม่นานรถบัสก้อมาถึง เรานั่งไปลงสถานี schwyz ขามา แล้วเปลี่ยนรถบัสอีกคัน

ได้เวลาไปต่อ เราจะไปแวะยอดเขา Rigi นั่งบัสสาย  Bus No.B501  ลงสถานี Arth goldau  ใช้เวลา 38 นาที 
สถานี  Schwyz Stoos Bahn   - Arth Goldau bahnhof (stop C ) 

บัสติดสถานีรถไฟ Arth goudau 
เดินต่อนิดเดียวไปสถานีรถไฟต้นทางขึ้นยอดเขาRigi  มีลิฟให้ด้วยนะ
Arth Rigi Bahn 

ถเราขบวนสีฟ้า swiss pass ฟรีอีกแล้ว ไปกันเลย น่าเสียดายที่ในตกและหมอกลงหนามากเลยไม่เห็นวิวใดๆ ได้แต่นั่งขึ้นและนั่งกลับอิๆ 

ต่อรถไฟไปเที่ยวลูเซินกัน ตอนมาถึงใหม่ๆ ฝนยังไม่หยุดตกดี แต่ก้อเดินไปในเมืองในสะพานชาเปล ท่ามกลางฟ้าสีดำ  เดินได้ครึ่งชม ฟ้าเปิดจ้า ดีใจมากเดินกลับไปถ่ายภาพที่สะพานกันอีกครั้งก่อน นั่งรถไฟกลับซูริกใช้เวลา 1 ชม 

ทานอาหารเย็นในรถไฟ เย้ๆ ^^ 

ถึงซูริกหนนี้เราไม่หลงแล้วค่ะ ลากเป๋าไปรอรถฟรีของ รร Movenpick ไปนอนจ้า  ห้อง 3 คน 

ข้อเสีย รร นี้คือแอร์ไม่เย็นเลย ต้องนอนเปิดหน้าต่าง แต่มีเสียงรถดังอีกเพราะใกล้ทางด่วน 


(4): SWISS   Stein am Rhein - Konstanz Appenzell - Innsbruck

วันนี้เช้าทานกับข้าวไทย  คุณรี่เอาไปอุ่น เรามีครัวลับเล็กๆ ที่ รร ค่ะ  หลังจากนั้นรีบเก็บกระเป๋าไปสนานบิน รอรับพี่ตุ๊ก ที่บินมาสมทบ ในใจก้อลุ้นว่าจะหาเจอกันไหม โดยไปคาดคิดระหว่างยืนรอที่ Information Center นั้นพี่ตุ๊กก้อเข้ามาพอดี พากันไปเอารถที่จองเอาไว้ค่ะ เจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ตื่นเต้นอีกแล้ว ปรากฎว่ารถที่จองไว้นั้นผิดวันค่ะ ดันไปจองรับรถเมื่อวาน แม่เจ้าก็งงกันไปทั้งคนส่งคนรับรถค่ะ เลยต้องหาบริษัทรถใหม่โชคดีที่มีหลายเจ้าตรงนั้นแต่ บ Sixth ดันมีรถพร้อมให้เราขับทันทีด้วยราคาแสนแพง พร้อมกับ Spec Volvo 40 หลังใส่เป๋าใหญ่ได้ 3 ใบ ได้ตามต้องการจัดไปสิคะ อย่ารอช้า รีบเอารถออกจากสนามบิน ซึ่งยังไม่ชินทางและพวงมาลัย วนรถไปค่ะ มุ่งหน้าสู่เมือง Stein am Rhein  เมืองเล็กๆ น่ารักของวันเสาร์ที่เราไปสายงานเค้าเลิกขายของกันแล้ว  เดินถ่ายรูปแล้วหาที่กินกันไปค่ะ ทุกร้านเต็มหมดมีการไม่รับลูกค้าอีก ต้องไปทานร้านแพงอิๆ ที่ดันมี Michelin star ประกันความอร่อย จัด Steak กันไปคนละจานค่ะ  มื้อกลางวันนี้เสียค่าเสียหายไปเฉียดหมื่นเองค่ะ  หลังจากนั้นก้อขับรถไปยังเมือง Konstanz  เมืองชายแดนเยอรมันติดสวิส  วันนี้กะเที่ยว 3 ประเทศใน 1 วัน คือ เช้า สวิส บ่ายเยอรมัน เย็นออสเตรีย สำหรับที่นี่การหาที่จอดรถไม่ยากเพราะทำการบ้านมาแล้ว ส่วนเมืองที่แล้วเรางงๆ กับการจ่ายที่จอดรถและหาที่จอด เมือง Konstanz  มีสีสันมากเลย คนเยอะแยะเดินทางมา Shopping ของถูกกัน เค้าว่ากันนะ  เราสนุกสนานกับการถ่ายรูป กินไอติม  เวลาหมดไวจัง ต้องไปอีกเมืองเพื่อค้างคืนแล้ว เนื่องจากมันมืด 3 ทุ่ม เลยขอแวะ Appenzell  มาถึงเย็นย่ำแบบเมืองร้างกันเลย แถมฝนจะตกอีก เลยเดินแบบเร็วๆ ถ่ายรูป  ข้ามพรมแดนจากสวิสมาออสเตรียแบบไม่รู้ตัวมาที่ Feldkirch Austria  มาถึงที่หมาย Hotel: NIGHT INN Hotel Bahnhofcity Feldkirch แล้วก้อยังหา รร ไม่เจอ โอ๊ยแม่เจ้ามันตั้งอยู่ข้างสถานีรถไฟเลย แต่เราไม่เห็นชื่อ รร.  โรงแรมทันสมัยและดันมีทัวร์ฝรั่งมา Check In พร้อมเราอีก ในที่สุดเราได้เข้าห้องพักและได้พักผ่อนกันค่ะ ทานมาม่ากันน้า ^^ ทุกท่านดูพึงพอใจกับห้องพัก

(5): ITALY - Feldkirch Austria / Sterzing / Braies / Misurina Lake  - Cortina D’Ampezzo

เช้าตื่นมาทานอาหารเช้าของ รร ซึ่งดีงามมีให้เลือกหลากหลาย ด้วยความที่ชนกับทัวร์ฝรั่งเลยจะคนเยอะๆ ช่วง 7 โมง หลังจากนั้นทัวร์ทานเสร็จออกไปไวมาก ห้องอาหารโล่งเลยจ้า เก็บกระเป๋าใส่รถออกเดินทางต่อค่ะ ลืมเล่ามีประเด็นเรื่องกระเป่าเดินทาง 4 คนที่เยอะมาก ของตัวเองนำเป๋า 28 นิ้ว กับใบ 20 นิ้วมา พี่ปุ๊ก 28 นิ้ว พี่ตุ๊กผู้เสียสละเอา 24 นิ้วมา และกระเป่าผ้าใบเล็กใบน้อยตามสไตล์ตุ๊กๆ  คุณรี่กระเป๋ายาว 2 ใบ สไตล์ Backpacker  จึงต้องนำเป๋ามาใส่ที่นั่งด้านหลังแบบมีคนนั่งตรงกลางแทน เพื่อให้ด้านหลังมีช่องว่างมองกระจกหลังได้ไม่งั้นกลัวว่าจะขับรถลำบาก แต่คุณรี่บอกว่าสามารถมองกระจกข้างได้ค่ะทุกคนไม่ต้องกลัว และแล้วคุณรี่ก้อได้พิสูจน์ตลอดการเดินทางว่าสามารถขับได้โดยไม่มองกระจกหลังได้

ทานกลางวันระหว่างทางที่ Mc Donald และเข้าห้องน้ำ เติมน้ำมันด้วย

Sterzing สู่เมืองวิพิเทโน

Sterzing หรือ Vipiteno ในภาษาอิตาเลียน คือเมืองเล็กๆ ในเขตจังหวัด South Tyrol แห่งแควน้ Trentino-Alto Adige/Südtirol ทางตอนบนของประเทศอิตาลี ติด กบั พรมแดนประเทศออสเตรีย เมืองที่เป็ นศูนย์กลางของเขต Wipptal ตอนใตแ้ห่ง น้ีได้ชื่อว่าเป็นอีกหน่ึงเมืองในดินแดนอิตาลีที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของเทือกเขา แอลป์ โดยในเขตเมืองยังคงไว้ซึ่งอาคารบ้านเรือนศิลปะแบบอาณาจักรออสเตรียยุค กลางสีพาสเทลสุดน่ารักไวอ้ย่างสมบูรณ์เมืองที่มีแม่น้า Eisack ไหลผ่านน้ียงัเป็น ที่ต้งัของสิ่งก่อสร้างโบราณส าคญั หลายแห่ง หน่ึงในน้ันคือ Zwölferturm หอคอย สูง 46 เมตร ที่สร้างข้ึนต้งัแต่ปี1470 ซึ่งเป็ นเหมือนสัญลักษณ์ที่ แบ่งระหวา่ งเขตเมืองเก่าและใหม่น ำท่ำนเดินเที่ยวชมเขตเมือง เก่ำ ตัดผ่ำนด้วยถนนสำยหลักอย่ำง Citta Nuova ซึ่งตลอดสองข้ำงทำงเรียงรำยด้วยบ้ำนเรือนสีพำส เทลฟีลเหมือนอยู่ในแคว้น Tyrol ของออสเตรียแบบสุดๆแถมด้วยกำรประดับตกแต่งด้วยพุ่มดอกไม้ สีสันสดใส รวมทั้งรูปปั้นสลักอันวิจิตรยิ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์ขึ้นไปอีกแค่เดินเล่นชมเมืองเรื่อยๆก็เพลิน แล้วเมืองสวยแห่งนี้ รับรองว่ำน่ำรักละมุน สบำยตำและมีมุมให้ถ่ำยรูปเยอะแน่นอน

เราได้ทานไอติมเจ้าดัง เห็นคนต่อแถวกันเยอะเราต้องลองทานค่ะ เมืองนี้หาที่จอดรถง่ายค่ะ

Braies 

มาถึงทะเลสาปดังที่ทุกคนต้องมา  เราเลือกจอดรถที่ P4 ใกล้ทางเข้าสุด แล้วเดินไปถ่ายรูปกันค่ะ ทุกคนชื่นชมกับทะเลสาปและภูเขาสุดๆ  เข้าห้องน้ำแล้วเดินทางต่อค่ะ 

Misurina Lake 

ใกล้ที่พักแล้วสุดๆ อีก 10 นาที  ขอแวะถ่ายทะเลสาปแสงเย็นก่อนเลย อ่ะมุมหน้าตึกเหลือง กับฝั่งตึกเหลือง ดูที่มันสะท้อนเป็นกระจกภูเขา  ผ่าน รร มาก่อน เข้าเมืองหาที่กินอาหารเย็น ไม่ค่อยมีร้านเปิดต้องไปกินในโีรงแรมแถวๆ นั้น หลังจากนั้นเดินทางกลับที่พักเสียที   คืนนี้ได้นอนห้องเดียวกัน 4 ท่าน มีห้องน้ำห้องเดียว แต่ว่าที่นอนจัดเป็นสัดส่วนดีค่ะ   พยากรณ์อากาศบอกว่าฝนจะตกช่วงบ่ายเอาแล้วสิ ลุ้นตลอดเจอฝน

Cortina d'Ampezzo เมืองแห่งสกีที่มีความทนั สมยัแห่งนี้ไดร้ับการขนานนาม วา่ เป็นไข่มุกแห่งเทือกเขาโดโลไมต์และต้งัอยใู่ นเขตเทือกเขาแอลป์ที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหน่ึงในโลกกอร์ตี นาดัมเปซโซเป็นเมืองแห่งสกีในเทือกเขาแอลป์ที่สุดคลาสสิคและงดงาม ต้ังอยู่ในเทือกเขาโดโลไมต์ซ่ึงได้รับการข้ึนทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก องค์การยูเนสโก ส ารวจพิพิธภณั ฑ์ที่น่าสนใจลองชิมอาหารช้นั ยอดของเมือง และเพลิดเพลินไปกบักิจกรรมกลางแจง้ที่หลากหลายไดต้ลอดท้งัปีกอร์ตีนา คือเมืองแห่งขุนเขาอนั สวยงามที่เต็มไปดว้ยบา้นเรือนทา จากไมส้ีขาวเต้ียๆ ต้งั เรียงรายอยูเ่บ้ืองหน้าลา ธารที่ไหลเชี่ยว ป่าไมอ้ นั เขียวชอุ่ม และยอดเขาโดโล ไมต์ที่ขรุขระ เดินเที่ยวใน Corso Italia ถนนหลกั ส าหรับคนเดิน ที่เรียงรายไปดว้ยร้านขายชุดสกีสุดเก๋และร้านอาหาร ต่างๆ หากคุณมาเยอืนถนนหลกัในวนัศุกร์ประเสริฐคุณจะไดพ้ บกบัขบวนทางศาสนาที่จดัข้ึนอยา่ งยงิ่ ใหญ่ตระการตา

(6): ITALY - Drive through Giau Pass / Alleghe   – Cortina D’Ampezzo

Alleghe หรือ Hallstatt แห่งโดโลไมท์ UNSEEN คือหมู่บา้น เล็กๆ พ้ืนที่รวม 29 ตารางกิโลเมตรริมฝั่งตะวนั ออกของทะเลสาบชื่อ เดียวกัน ใ น เข ต จัง ห วัด Belluno แ ห่ งแค ว้น Veneto ท า ง ตะวนัออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลีซ่ึงมีประชากรอาศยัอยูป่ ระมาณ 1,500 คน หมู่บ้านสุดน่ารักที่อยู่บนที่ราบแคบๆ ระหว่างทะเลสาบกับ ภูเขาสูงแห่งน้ีเป็นอีกเมืองท่องเที่ยวที่เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนรักการ กิจกรรมกลางแจง้ ช่วงหนา้ร้อนสามารถปีนเขาข้ึนไปยงัยอดภูเขา Monte Civetta ความสูง 3,220 เมตรได้ส่วนฤดูหนาวก็เล่นสกีและไอซ์สเก็ตหรือฮอกก้ีน้า แขง็กลางทะเลสาบไดต้ามใจชอบ น ำคณะเดินทำงเทยี่ วชมหมู่บ้ำน Alleghe หมู่บ้ำนเล็กๆริมทะเลสำบอันเงียบสงบที่ด้ำนหลังเป็นภูเขำสูง ที่นี่ยังสวยงำม มีเสน่ห์สุดๆ บรรยำกำศในเมืองสวยงำม น่ำรัก และเงียบสงบ ริมทะเลสำบ เดินเล่นชมวิวแบบ slow life มำกๆ

ทานกลางวันแบบปิกนิคที่ทะเลสาปวิวสวยสุดๆ รีบเดินทางต่อกลัวฝนตก

บนเส้นทางแสนสวย Giau Pass(Passo di Giau ในภาษาอิตาเลียน หรือ Jof de Giau ในภาษาทอ้งถิ่น) เส้นทางถนนผา่ นภูเขาความสูง 2,236 เมตรเหนือระดบั น้า ทะเลที่เชื่อมต่อระหวา่ งเมือง Cortina d'Ampezzo กบั เมือง Colle Santa Lucia และ Selva di Cadore เส้นทางขบั รถที่ไดช้ื่อวา่ สวยและคดเค้ียวที่สุดแห่งหน่ึง ในเขต Dolomites น้ีจดัวา่ เป็นอีกจุดแวะถ่ายรูปยอดนิยม เพราะบริเวณน้ีมีท้งัลานจอดรถและเส้นทางเดินเขาส้ันๆ ข้ึน ไปถ่ายรูปภูเขา Nuvolau ที่มียอดเขาสูงสุดที่ระดับ 2,574 เมตรอนั สวยสดงดงามไดอ้ยา่ งชดัเจน น าคณะออกเดินทางสู่หมู่บ้าน 

ช่วงที่ไปภูเขาเป็นหิมะหมดเลย ภูเขามีเมฆมาบังเป็นช่วงๆ ยังคงสวยงาม  มีรถมาจอดพักถ่ายรูปเยอะ รถหรูๆ ทั้งน้านเลยค่ะ

(7): ITALY - Sightseeing Lake Carezzan

วันนี้เดินทางไปทาง ตต ของ โดโลไมท์กันแล้ว ฝนตกแต่เช้า เราอยู่ในรถครึ่งวันค่ะ

ผ่านสองจุดส ำคัญคือ Posso Podoi แวะถ่ำยรูปกบัถนนงูเลื้อยและยงัเป็น 1 ใน7 ในกำรแข่งขัน จักรยำนของ อิตำลีอันยิ่งใหญ่เทียบเท่ำ Tour de France

น าท่ าน ช ม ท ะเล ส าบ Carezza ห รื อ อี ก ชื่ อ คื อ “Lec de ergobando” แป ลได้ว่า ท ะเลส าบ ส ายรุ้ง อยู่ทำงตอนใต้ของ Dolomite ทะเลสำบขนำดใหญ่ วิวหลักล้ำน น้า ในทะเลสาบมีหลายเฉดสีต้งัแต่ เขียว,เทอร์ค้อย,ฟ้า และน้า เงิน ทา ให้ทะเลสาบแห่งน้ีถูกเรียกวา่ ทะเลสาบสายรุ้ง มีฉากหลังเป็ นเทือกเขา Latmar ด้วยวิวทะเลสาบสีเขียว ทองที่ถูกหอ้ มลอ้ มไปดว้ยเขาสูงเสียดฟ้า สะทอ้นสีสันหลากหลายของธรรมชาติเป็นอีกจุดแวะถ่ายรูปที่พลาดไม่ได้

เราทานอาหารกลางวันที่นี่ แวะเข้าห้องน้ำและ shopping กันอีกแล้ว

โชคดีที่มาถึงทะเลสาปฝนหยุดตกพอดี เลยได้ถ่ายรูปกัน แต่ว่าเมฆหมอกมาบังเขาที่ชั้นจะถ่ายเลยต้องรอ อุตส่าห์เดินทางมา 3 ชม. เพื่อรอถ่ายสิ่งนี้ มีความพยายามแค่ไหนเนี้ย ^^

แวะเที่ยวเมือง Ortisei แล้วขึ้นเขาเพราะว่าอากาศดีแล้วไปค่ะ

Ortisei - Alpe di Siusi – Gondola

from 11.05 - 03.11.2024: from 08:30 - 17:00

สถานีกระเช้า Alpe di Siusi  (“Mont Sëuc” ropeway) อยู่ห่างจากตัวเมืองในระยะทางเดินเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น โดยมีสะพานคนเดินข้ามทอดยาวไปถึงหน้าสถานีกระเช้าเลย

กระเช้าเริ่มไต่ระดับขึ้น มองเห็นตัวเมือง Ortisei อยู่เบื้องล่าง

เข้าที่พักแบบบ้านน่ารักมีครัวไว้ทำกับข้าว

(8): ITALY - Bolzano – Brixen –  Santa Maddalena – 

พี่ตุ๊กน้ำ หลังจากส่งรี่เดินเขา Rifugio delle Odle แล้วจะขับรถไปเมือง Brixen ระยะทาง 30 กมไปถึงเมืองมีตลาดนัด ด้วยมีเกษตรกรเอาผักมาขาย กับน้ำผลไม้ ขนม  ช่วยกันซื้อสิคะ แล้วหาที่จ่ายตังจอดรถ โชคดีที่หาที่จอดได้แบบเดินไม่ไกลจาก Old town เท่าไร  เราเกินกันถึงเที่ยง หาอะไรกินง่ายๆ 

โทรนัดรี่มารอที่หน้าโบสถ์ 

เรามากันก่อนเวลาเลยต้องเดินเล่นที่หมู่บ้าน Val di funes กันก่อน ดู Museum ที่นั่นเค้รทำไว้ดีมาก ที่มาเพราะหาห้องน้ำเข้าฟรีนี่ล่ะค่ะ

The Church of St. Johann in Ranui (San Giovanni)

บ่าย 3 เจอรี่ที่นี่ไม่มีใครยอมลงไปถ่ายรูปเลยขอเดินไปถ่ายเอง มีคนทะยอยมาเรื่อยๆ เป็นโบสถ์เล็กๆ ไกลมากๆ  ลง 5 นาที ไปต่อเลยค่ะ

จุดชมวิว Church of Santa Magdalena

อันนี้ต้องจอดรถแล้วเดินขึ้นเขา 30 นาทีเพื่อไปถ่ายรูปสวยงามค่ะ

(9): ITALY – Bolzano

เนื่องจากฝนตกและเราเที่ยวเกือบหมดแล้วเลยต้องไปเมืองใกล้ๆ กันที่ Bolzano  

ไม่น่าเชื่อจะเจอรถติด 1 ชม และหาที่จิดรถยากมาก แต่ในที่สุดก้อได้ค่ะ เค้าออกแบบที่จอดรถได้แคบมากโคตร

เวลายังเหลือ กลับที่พัก แวะ Shopping ที่หมู่บ้านใกล้ๆ Santa Christina  มองมานานล่ะดูไกลๆ สวยดี ก่อนเข้าหมู่บ้านตัวเอง  จัดกระเป๋าเดินทางเตรียมย้ายไปนอนที่ como ต่อ

(10): ITALY –  - Sirmione – Lake Garda –  Foxtown outlet

วันนี้ก้อเป็นวันขับรถยาวนาน เจอรถติดที่เมือง Sirmione และไปให้ทัน Shopping ที่ Foxtown outlet อีก 2 ช.ม. จะปิด ตอนนี้สร้าง 3 อาคาร ใหญ่โตขึ้นมาก  เราก้อ shop จนนาทีสุดท้าย ว้ายกรี๊ด ดีที่จอดรถไม่เสียตัง สมกับห้าง Brand name เนอะ 1 ทุ่มเดินทางไปที่พักที่เมือง Varenna กันจ้า พักกันบนยอดเขา กลัวค่ำ ซึ่งก้อถึง 3 ทุ่มกว่าจริงคร้า  ที่จอดรถอยู่ห่างจากที่พักเดินขึ้นเนินไปนิดนึง ดีที่หาเจอเจ้าของที่พักรอพวกเราอยู่  กุลีกุจอช่วยยกกระเป๋าขึ้นห้องที่อยู่ชั้น 3 ให้ด้วย ดีงาม แต่ขากลับพวกเราต้องยกกระเป๋าลงมาเองน้า

(11): ITALY - Como lake - Menaggio - Varenna  - Bellagio

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่แดดดี ทุกคนพร้อมใจออกมาท่องเที่ยวกัน โชคดีที่หยิบชุด dress ลายกุหลาบมาด้วยเลยได้ใส่เข้ากับบรรยากาศ  ทำไมผู้หญิงอิตาลี่เมืองนี้หุ่นแบบ Barbie กันทุกคนเลย และชุดก้อสวยมากด้วย หุ่นดี  เราเริ่มต้นจอดรถที่สถานีรถไฟ จ่ายค่าจอดเต็มวันไปเลย หลังจากนั้นเดินไปชมวิลล่า 

ถ่ายรูปได้ล้านแปด สวยไปหมดงี้

มาท่าเรือซื้อตั๋ว day ticket 15 EUR  ทำให้เราสามารถใช้โดยสารเรือได้ทั้งหมด ไปมา 

มาทาน Lunch ง่ายๆ เป็นพิซซ่า ซึ่งไม่อร่อยเลย แต่คนดันเข้าแถวซื้อกันเยอะ  ก้อเนอะเราต้องกินประทังความหิว และใช้เวลา 1 ชม. ที่ Bellagio  แวะทานไอติมด้วย รอเรือไป Lenno เพื่อชม Villa Del Balbianello แต่ว่าดันไม่ได้จองตั๋วชมก่อน คนเยอะเค้าเลยปิดรับคนคร้าอด  รอเรือกลับไป Menaggio  เราถึงก้อดูว่ามันไม่ค่อยมีอะไร เลยนั่งเรือกลับมาที่ Varenna  เพื่อหาร้านอาหารเย็น ซึ่งทุกร้านเต็มหมดเลยจ้า ไปได้ร้านแถวโบสถ์ดีที่มีที่นั่ง อาหารรอไม่นานอร่อยด้วย  กลับบ้านนอนกันค่ะ 

(12): SWISS - Menaggio – LuganoBellinzona - ZURICH

วันนี้เดินทางด้วยรถทั้งวันเลย จาก ลูกาโน่ไปซูริกต้องใช้ 4 ชม  เรากะแวะทานกลางวันที่เมือง เบลลินโซนา (Bellinzona เสียงอ่านภาษาอิตาลี: [bɛllinˈdzoːna )  ทีแรกนึกว่าเมืองเล็กๆ แห่งนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจ ปรากฎว่าวันนี้คือวันอาทิตย์ แล้วมี Sunday Market แถมจอดรถฟรี  ทำให้สนุกสนานในการชมเมือง มีลิฟฟรีให้ขึ้นไปดูปราสาทด้วย 

ตอนบ่ายเดินทางต่อ เจอรถติด 1 ชม ฝนตกด้วย น่าเบื่อมาก  ถึงซูริกเอาเย็นย่ำ เดินชม old town แล้วไปสถานีรถไฟเพื่อซื้ออาหารสดทานมื้อเย็นและเช้าก่อนกลับ มีร้านอาหารไทยมากมาย  คุณรี่ได้เสื้อกันหนาวที่ลืมไว้วันแรกคืนด้วย

(13): ZURICH Airport – BKK

และแล้วก็ถึงเวลากลับบ้านเสียที ทำไมรู้สึกว่ายังไม่อยากกลับนะ ปกติจะรู้สึกคิดถึงเมืองไทยมาก

สนามบินซูริกมี process การเข้าไปถึง ตม พอสมควรจนถึง gate ต้องนั่งเบียดรถไฟกันไปอีกอาคาร นี่ถ้าใครมาช้ามีสิทธิตกเครื่องบินได้นะ   บนเครื่องบิน TG ลำนี้มีห้องน้ำเยอะดี รุ้สึกสะอาดน่าใช้ตลอดเวลา สงสัยว่าเค้าทำความสะอาดตอนไหนนะ ด้วยความที่เป็น direct flight เลยได้นอนยาวถึงไทย มีอาหารแจก 2 ครั้ง 

(14): BANGKOK  เดินทางถึงประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ

ความที่มาถึง flight เช้า เลยได้จอดใกล้ทางออก ซึ่งแปลกประหลาดมากไม่เคยได้มาก่อน ใช้เวลารอกระเป๋าพอควร 

นั่ง Airport Rail link มาลงพญาไท แล้วเรียก Grab taxi ให้ไปส่ง คอนโด

ขอขอบคุณพี่ตุ๊กที่เป็นเจ้าแม่ บช ช่วยคิดค่าใช้จ่ายที่ทำให้ชีวิตนักเดินทางง่ายขึ้น ^^ 

ค่าเครื่องบิน TG 32000 บาท

ค่าที่พัก 26000 บาท

อาหาร  20000 บาท

ค่าเช่ารถ 26000 บาท

ค่าที่กระเช้า 3000 บาท

ค่าวีซ่า 5000 บาท

ค่า Swiss Travel Pass 3 days  255 CHF =  10000 บาท

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด  = 130,000 THB 






Day 1 - 22 May 2024

 BBK- ZRH  by TG สุวรรณภูมิ ออกเวลา 01.05

07.50 สนามบินซูริก

เที่ยว swiss

The Abbey Library of St. Gallen is one of the oldest and most beautiful libraries in the world. The St. Gallen monastery was in possession of an important collection of books as early as the 8th century.

อาจเป็นรูปภาพของ 2 คน

A map with a blue line

Description automatically generated

Day 2 - 23 May 2024

เที่ยว swiss

Day 3 - 24 May 2024

เที่ยว swiss

Day 4 - 25 May 2024 

8.30 รอรับพี่ตุ๊กบินมาสมทบ

9.00  ออกเดินทางไปอิตาลี่กัน

Day 5 - 26 May 2024

Day 5 - 26 May 2024

มิลาน – เซอร์มิโอเน่ - หมู่บ้านวาล ดิ ฟุเน่ – ***อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์*** โบสถ์ซานตา แมดดาลีน่า – โบลซาโน

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซอร์มิโอเน่ เมืองน้อยแสนน่ารักเป็นเหมือนเกาะเล็ก ๆ ที่มีปราสาท เก่าแก่อายุกว่า 700 ปีที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง สร้างในศตวรรษที่ 13 ปราสาทกลางเมืองที่ถูก สร้างยื่นลงไปในทะเลสาบการ์ดา (Garda Lake) ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี คลอบคลุมพื้นที่กว่า 370 ตารางกิโลเมตร จากนั้น นำท่านเดินชมเมืองเซอร์มิโอเน่ ลอดประตู

A castle on the water

Description automatically generated

กำแพงเมืองเก่าผ่านปราสาทเก่าแก่ประจำเมือง THE SCALLGER OF SIRMIONE สร้างในปี 1277 เมืองนี้เคยอยู่ในการปกครองของตระกูล Scaliger ทันทีที่เข้าสู่เขตเมืองเก่าท่านจะพบกับความ สวยงามของเมือง ลานจัตุรัสเล็ก ๆ ในเมืองล้วนถูกล้อมรอบด้วยอาคารเก่าแก่สวยงาม จากนั้น นำท่านเดินเล่นตามตรอกซอกซอยและชมวิวที่สวยงามริมทะเลสาบทุก ๆ จุดของเมืองจะมีร้านค้า ภัตตาคาร ร้านกาแฟ มุมนั่งพักผ่อน และที่ขาดไม่ได้ของการเข้ามาเยือนเมืองนี้ คือ การลองลิ้ม ชิมรสไอศกรีมอิตาลีที่เรียกว่า “เจลาโต” ว่ากันว่าร้านไอศกรีมที่นี่มีการแข่งขันกันมาก มีไอศกรีม รสชาติต่าง ๆ ให้เลือกมากที่สุดในอิตาลี (ระยะทางประมาณ 145 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)

12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

A green hills with buildings and trees

Description automatically generated

บ่าย นำท่านเดินทางไปชมความสวยงามของ หมู่บ้านวาล ดิ ฟุเน่ (VAL DI FUNES) มหัศจรรย์ของ ดินแดนแห่งธรรมชาติกับยอดเขาแปลกตาอีกแห่งในโดโลไมท์ เป็นหมู่บ้านมรดกโลกของอิตาลี รายล้อมด้วยเทือกเขาสูงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อนที่เมืองแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นทุ่งหญ้าสีเขียว สดใส สดชื่นสบายตา จากนั้น นำท่านถ่ายภาพกับ โบสถ์ซานตา แมดดาลีน่า (Sant

A village in the mountains with Dolomites in the background

Description automatically generated

Maddalena Church) เป็นโบสถ์ที่อุทิศแด่ เซนต์แมดดาลีน่า (St. Maddalena) เป็นสิ่งก่อสร้างที่ อยู่คู่เมืองแห่งนี้มาไม่ต่ำกว่า 600 ปี โบสถ์แห่งนี้อาจดูไม่ได้สวยงามใหญ่โตเหมือนโบสถ์ในเมือง ใหญ่ๆ แต่สิ่งที่ทำให้โบสถ์แห่งนี้มีชื่อเสียง คือวิวทิวทัศน์เบื้องหลังของโบสถ์ที่มีฉากหลังเป็นยอด เขาโอดเล่ (ODLE) อันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Puez-Odle National Park ทาง ตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี งดงามเหนือคำบรรยาย เป็นหนึ่งในจุดชมวิวมหาชนที่ ท่านต้องไม่พลาดนำมาเก็บเป็นภาพประทับใจ (ระยะทางประมาณ 203 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองโบลซาโน เมืองที่ถือว่าเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ เป็นเมือง หลวงของภูมิภาคทีโรลใต้ ล้อมรอบด้วยแม่น้ำ ซึ่งแม่น้ำ Talvera จะไหลลงไปในแม่น้ำ Israco และมารวมกันเป็นแม่น้ำ Adige เมืองนี้รู้จักกันทั่วไปเมื่อครั้งที่ NATIONAL GEOGRAPHIC ไปถ่าย ทำสารคดี การค้นพบซากมนุษย์ที่ฝั่งอยู่ใต้หิมะบนยอดเขาสูงในแคว้นทีโรลของออสเตรีย และ นำร่างนั้นมาไว้ที่นี่ เรียกกันว่ามนุษย์หิมะแห่งโบลซาโน่ ที่เป็นข่าวไปทั่วโลก (ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)

18.30 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร จากนั้น นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม FOUR POINTS SHERATON หรือเทียบเท่า

Day 6 - 27 May 2024

Tre Cime di Lavaredo


Day 7 - 28 May 2024

Lake Mizurina


Day 8 - 29 May 2024

Church of St. John


Bolzano

Trento


Day 9 - 30 May 2024

A map with a blue line

Description automatically generated

Morning - Picturesque Manarola 🥰❤️

A city on a cliff by the water

Description automatically generated

Buongiorno Manarola ❤️

Corniglia ❤️

Beautiful Sunset at Riomaggiore

อาจเป็นรูปภาพของ หมู่บ้านกาโมลี

Day 10 - 31 May 2024

Great city view next to Lake Murten from Medieval Rampart Walls.

A map with a route

Description automatically generated

Beautiful view along the drive to Aosta ❤️it is truly magical 2 hr drive 😊

Day 11 – 1 June 2024

Day 12 – 2 June 2024

เดินทางมาถึงสวิสเพื่อเตรียมตัวกลับไทย

Day 13 – 3 June 2024

ขากลับ  ZRH 13.30   BKK 05.30

Day 14 – 4 June 2024  

ถึง กทม โดยสวัสดิภาพ

 




ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม