Closing & Lucky draw
สวัสดีค่ะ
วันนี้จะมาเล่าที่ไปงานสัมมนาของบริษัท vmware ให้ฟังค่ะ งานนี้จัดขึ้นนอกจากจะ Update Tecnology
Software และ Hardware ของบริษัทที่จะทำการขายแล้ว
ก็ยังแถมความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีในมุมมองของคนข้างนอกถึง 2 ท่านด้วยกันคือ Dr. Thanachart Numnonda, Executive Director, IMC
Institute และ คุณ Pavit Saksoong,
IT infrastructure security By Siam
Commercial Bank
ขอเน้นในเนื้อหาของวิทยากรจากข้างนอก เพราะจะพูดเป็น Trend กลางๆ
เกี่ยวกับเทคโนโลยี ซึ่งจะเข้าใจง่ายกว่าและก็มีบางส่วนที่เกี่ยวกับแวดวง Banking
ที่เค้านำไปใช้กับองค์กรแล้วเป็นไงบ้างนะคะ
Business Mobility | What’s
Next ?
By Dr. Thanachart
Numnonda, Executive Director, IMC Institute
ยุคก่อนเป็น
Mobile first แต่ตอนนี้ทุกอุปกรณ์ connect กันได้หมด ทำให้ถูกประมาณการได้ว่า
อนาคตโลกจะมี ห้าหมื่นล้าน devices ในปี 2020
Digital
society in futures
จำนวนมหาศาลแค่ไหน
ต่อไปยุค Robot
กำลังมา คุกคามน่ากลัว ปท จีนเริ่มนำหุ่นยนต์มาใช้แล้ว
คิดดูจะมีคนตกงานแค่ไหน โลกกำลังเปลี่ยน เริ่มมีตัวใหม่ๆ เข้ามา Smart City
เอย Fintech เอย มีการ
survey โลกอนาคต คนจะสวมเสื้อผ้าที่ต่อ Net ตลอดเวลาไม่ใช่ wearable อย่างเดียว เช่น
watch , หุ่นยนต์ที่เป็นเภสัชกร , สินค้าพิมพ์จาก 3D ต่อไปรถยนต์จะไม่มีคนขับ (Tesla)
อาชีพบางอาชีพจะถูกแทนที่โดย Automation อาชีพทางการเงินมีความเสี่ยงสูงมาก ที่จะหายไป แต่อาชีพ IT ยัง save อยู่
555
รายงานจาก
World bank
ประเทศไหนที่มีความเสี่ยง
เช่น จีน ไทย 72% iOT มันเริ่มเข้ามา Smart TV, Smart watch
กางเกงยีนสามารถเตือนเราได้ว่า น้ำหนักเราขึ้นเปล่า ?
Levis ร่วมกับ google คิดเสื้อนำทางขึ้นมา
อุปกรณ์ทุกอย่างต่อ Net หมด ต้องมี
Infrastructure มหาศาล
Smart home hub อนาคตแอร์มาคุยกะทีวีที่บ้าน
เป็นเรื่องของ iOT ตย. Tesla , Sijodenki
เริ่มแบ่งเป็น
3 ส่วน ดังนี้
1 Front
2 Infrastructure:
iOT Architecture
3 Data
: Big data analytic / 3-D printing / Smart system
โดยสามารถอ่านรายละเอียดในตารางด้านล่างค่ะ
คำที่เป็นตัวหนา คือสิ่งที่เกิดในปีนั้นๆ เชื่อว่าทุกคนคงรู้กันหมดแล้วนะคะ
ซึ่งมองย้อนกลับไปอ่านหลายปีที่ผ่านมาเค้าทำนายถูกจริงด้วย ^^
ปัจจุบันเราสามารถ
Work Anyware เนื่องจากเรามี data เข้ามามหาศาลต้องทำเป็น fast data
ซึ่ง
IT มีโจทย์ยากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย ไหนต้องทำ IT Infrastructure ต้อง large scale ต้อง pool กันและพร้อมใช้งาน มี elasticity วันนี้ทำ App
ใช้ได้ไม่นาน สามารถที่จะปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบ Agility ได้
นั่นคือโจทย์
IT ยุคใหม่ และเกิด innovation
II กำลังมาเปลี่ยน Business
รูปแบบ IT
เดิมๆ จะน้อยลงไปเรื่อยๆ ไม่ private
ก็ public
“Everything as a service”
“Hybrid
cloud computing is an imperative”
ทุกอย่างต้องปรับเปลี่ยนได้ตลอด
แนวโน้มการใช้
cloud เป็นอย่างไร คงไปที่ hybrid multi cloud 82% มันเป็น
beyond mobility ไปแล้ว Smes จะเป็น
public cloud
องค์กรขนาดใหญ่จะเป็น
private cloud
มี
App ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย
มีข้อมูลแล้วต้องเอามาตัดสินใจได้เร็ว AI First World
เราต้องจำคำใหม่ๆ แล้วนะคะ FAST DATA ผู้บริหารรอไม่ได้อีกต่อไปเพราะว่าเกิด
Digital
economy ขึ้นมา ต้องการข้อมูลในการตัดสินใจ
การเปลี่ยนแปลงของสังคมเริ่มเข้าสู่ยุคที่
4 แล้ว หลายๆ ประเทศเริ่มเป็น Smart
city เช่น สิงคโปร์ อเมริกา
ยุโรป
ประเทศไทยมีสิ่งเหล่านี้เพียงพอหรือไม่ที่จะก้าวเดินไป ปรับความฉลาดของคนให้ทัน
ขอขอบคุณเอกสารจากวิทยากรและท่านสามารถ Download เอกสารที่
Business Mobility Transformation
Experience Sharing
Pavit Saksoong,
IT infrastructure security By Siam
Commercial Bank
หัวข้อนี้พูดถึงการนำ Mobile Device มาใช้ในองค์กร ซึ่งปัจจุบันเรารู้จักกันนี้ในนามของ Byod แล้วถ้าพนักงานอยากใช้อุปกรณ์ส่วนตัวในการทำงานล่ะ
องค์กรต้องเตรียมตัวอย่างไร
คงต้องเริ่มจาก Top down Appoach ให้ผู้บริหารคุ้นเคยกับการใช้งานก่อน, การตัดสินใจผ่านมือถือ มีการสร้าง Mobile app เพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในองค์กร ให้ทุกคนมีส่วนร่วม โดยการควบคุม smart phone จะไม่เหมือนกันของแต่ละ OSเช่น Androi จะ open ส่วน
iOS จะมี security สูง คนอื่นจะเข้ามาใช้ร่วมไม่ได้
นอกจากทำ Jail Break ก็จบกันป้องกันอะไรไม่ได้อีกต่อไป
สิ่งเหล่านี้เป็น challenge ขององค์กร พนักงานอยากให้มีการแบ่งแยกข้อมูลส่วนตัวกับองค์กร
ลบข้อมูลในมือถือเวลาทำโทรศัพท์หาย ส่วนองค์กรต้องการลดค่าใช้จ่าย การปกป้องข้อมูล เช่น email , SD-card
,NFC ,USB แล้วมาจบลงด้วย Policy
ว่าจะเขียนกันอย่างไร
หัวข้อที่เหลือก็จะกล่าวถึงการทำงานแบบ Digital Workspace ว่าปัจจุบันมีเครื่องมือมาช่วยสนับสนุนทำให้มันเป็นไปได้บนการทำงานในโลก
Digital ไม่ใช่ทำงานที่โต๊ะทำงานแบบโลกเก่ากันแล้ว มี Software ที่ขายอยู่หลายเจ้า
ในการดึง Desktop จากเครื่องคอมพิวเตอร์ในที่ทำงานขึ้นมาทำงานด้วย
Devices ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Mobile , Tablet ,
Notebook ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลกใบนี้
จะในประเทศหรือนอกประเทศ มีวิธีการจัดการ Security ที่ดีกว่า
VPN ที่เราใช้กันอยู่ใน ธปท.
ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกสะดวกและสบายใจในการทำงาน
คำเหล่านี้เราอาจได้ยินบ่อยขึ้นนะคะ
The move to a digital workspace
The world is going to Digital.
Planet of the phones .
2016 Dobbed "the year of online extortion" by Trend
Micro
The reality :Mobile will drive the new Workspace
นอกจากนี้ยังทีเทคโนโลยีที่ใช้ควบคุม security ของ
mobile devices เช่น การกำหนดสิทธิการเข้าข้อมูล, การ copy data จากเครื่ององค์กรไปสู่ภายนอกทำได้เพียงไร,
สิทธิที่ต่างกันระหว่างการงานใช้ใน ปท. กับนอก ปท. เพราะ VPN
ธรรมดาสามารถเข้าถึง network ได้หมด
ปิดไม่ได้แต่ Airwatch ทำได้มากกว่า ,การ
access webserver content ข้อมูลสำคัญที่ห้ามดูจากข้างนอก
, การควบคุมข้อมูลส่วนตัว
สิ่งเหล่านี้ต้องถูกกำหนดโดย
Policy ขององค์กร และพนักงานเองก็ Happy กับการนำอุปกรณ์ของตัวเองมาใช้ทำงาน
โดยไม่รู้สึกว่าที่ทำงานละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
จะขอบอกว่าเรื่องนี้ไม่ได้ไกลตัวจากพนักงาน ธปท เลย เราคงต้องได้ใช้งานแบบนี้ในไม่ช้า
เรามาดูตัวอย่างหน้าจอว่า Software สมัยใหม่สามารถ monitor อะไรได้บ้าง ทำไมเหมือนกับในหนังฝรั่งที่เราเคยดูกัน
เล่ามามากมายแล้วก็ขอจบเพียงเท่านี้นะคะ ^^
ความคิดเห็น