Trip เลย์ ลาดักต้นฤดูใบไม้ผลิ



ITENERNARY  LEH_LADACH

30 APR – 7 MAY
MS PAVEENUT
Alifetimetrip Company (India) Office : Desk: +91-9254330340/41/42/43 | Mobile: +91-9416246010 Coordinator and Managing overall booking : Gaurav +91-9215250807. Airport representative: Dichung +91-9596660990
Rize Travel (Thailand)
Office : +6622726648
Mobile Tonkla : +66892057582

leh ladakh กับความสวยงามทึ่ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองให้ได้สักครั้ง
หลงรักสถานที่ท่องเที่ยวแนว Landscape สวยๆเข้าอย่างจัง 

Jullay!  จูเล่! . . . Leh Ladakh

5 สาว กับทริป 8 วัน 7 คืน ใน เลห์

จริงๆคิดว่าจะไม่เขียนในนี้ละ เพราะเห็นว่ามีคนเขียนกันเยอะแยะแล้ว แถมช่วงที่ไปเที่ยว 1 พ.ค. - 7 พ.ค. ที่ผ่านมา ก็เจอคนไทยเยอะมากๆ เลยคิดว่าการไปเลห์นี่คงหาข้อมูลกันไม่ยากแล้วแหละ
โรงแรม
DAY 1 29-Apr 16.00 เจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ สายการบิน JET AIRWAYS
20.10 Take Off สู่อินเดีย 9W  63O 29APR 6 BKKDEL*SS4  2010  2315

เปิดวาร์บมาที่เช้าวันที่ 29 บนที่นั่ง 32F ริมหน้าต่างด้านขวาของสายการบิน JET AIRWAYS  แล้วรีบเปิดหน้าต่างออกไปเบิ่งวิวข้างนอก . . . โอ้โห เฮ้ย
DAY 2 30-Apr 05.40  - 9W2368O 30APR 7 DELIXL*SS4  0540  0705
07.05 - ถึง Leh มีคนขับรถมารอรับชื่อ....Dichung
08.00 - เข้าที่พัก Offbeat Residency
วันนี้เราทานที่โรงแรม 2 มื้อ คือมื้อกลางวันและเย็นค่ะ   สามารถเลือกได้ว่าจะทานกลางวันหรือเย็น เราเตรียมอาหารเช้าจากเมืองไทยมากันค่ะ ^^
Arrival at Leh Airport, you will be received & welcomed by our Representative before proceeding for Hotel Check-in. After Lunch, start your tour visiting, Shey & Thiksey Monastry, with Leh Palace, Hall of Fame & Shanti Stupa later during the evening. (This tour is given to guests with lesser tour duration) Overnight at Leh.

LEH Offbeat Residency
DAY 3 1-May After Breakfast, start your journey towards Sham Valley-Lamayuru monastry, visiting Magnetic Hill, Gurudwara Sri Pathar Sahib, Confluence of Zanskar & Indus, Likir, Basgo, Alchi & Lamayuru later during the day. Overnight at Ule/Alchi. Also you can get one of the most finest Rafting Adventure added to your plan on next day. Ask our Tour Planner fro the same.Image result for Zimskhang Holiday Home Ule Zimskhang Holiday Home
DAY 4 2-May After Breakfast checkout from Hotel & retrace the route to Leh. Visit the sightseeing attaractions you missed the last day. LEH Offbeat Residency
DAY 5 3-May After Breakfast, move towards Highest Motorable Road of The World, KhardungLa Pass. Have a cup of Tea there, get yourself clicked with the Khardungla Signboard by BRO & proceed towards Nubra valley covering Deskit Monastery enroute. Check-in at Hotel/Camp, freshen up & later you can have a Double Hump Bactarian Camel ride. Dont forget to click this unique mammal, found in cold Desert. It was once used to carry the trade material on silk route. Overnight at Hunder/Nubra Yourdum guesthouse. Nubra Cold Desert Camp
DAY 6 4-May AfterBreakfast, check out from the camps & visit Deskit Monastery, Hot Water Springs, Panamik via confluence of Shyok & Nubra River across Sumoor. Return to Leh by Evening. Overnight at Leh.ในภาพอาจจะมี สถานที่ในร่ม LEH Offbeat Residency
DAY 7 5-May After Breakfast, check out from Leh & proceed for one of the most beautiful & scenic, Salt water Pangong Lake at Spangmik via Changla Pass (17350 ft). Various Bollywood movies have been shot at this lake. One-Third of this lake is controlled by India & rest of the two-third lies under Chinese province. Overnight at Camps. Pangong Pangong Holiday Cottage
DAY 8 6-May
After Breakfast, check out from Camps for return journey to Leh. Enroute visit Hemis Monastery & 3-Idiots School. Overnight at Leh
LEH Offbeat Residency
DAY 9 7-May 07.40  - 9W2369O 07MAY 7 IXLDEL*SS4  0740  0910
09.10 - ถึงสนามบินอินทิรา  เดิน Shopping ในนั้น รอเวลา
14.00 - 9W  66O 07MAY 7 DELBKK*SS4  1400  1945
19.45 - ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ  ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
BKK


ค่าใช้จ่ายทัวร์เลย์ ลาดัก  ประมาณการสำหรับ 5 ท่าน
1 ค่าตั๋วเครื่องบิน  15,700.00
2 program ทัวร์ 8 วัน 7 คืน ถ้า 6 คน ที่พักแบบ Deluxe รวมอาหารเช้าเย็น  14,600.00
3 ค่าวีซ่า    2,000.00
4 ค่าอ๊อกซิเจนกระป๋อง 200
5 ค่าอาหารกลางวัน 8 วัน  800
6 ค่าทิปคนขับรถ 8 วัน 3000 INR 300
7 ค่าเข้าสถานที่ 300
8 ค่าขี่อูฐ 15 นาที 500 INR 250
9 ค่า Shopping 3000
10 ค่าประกันภัย 270
รวม   37,420.00


Flight ใช้สายการบิน Jet Airways + บินภายใน
9W  63O 29APR 6 BKKDEL*SS4  2010  2315
9W2368O 30APR 7 DELIXL*SS4  0540  0705
9W2369O 07MAY 7 IXLDEL*SS4  0740  0910
9W  66O 07MAY 7 DELBKK*SS4  1400  1945
ค่าเข้าที่ Leh
Hemis -100 rp เสีย 54THB
Thiksey - 30 rp ไม่เสีย
Shey - 20 rp ไม่เสีย
Leh Palace - 100 rp ไม่เสีย 
Shanti Stupa - 20 rp ไม่เสีย
**สิ่งของที่ควรทำติดตัวไป**
ยา Diamox  , ครีมกันแดด, โลชั่นทาผิว,ลิปส์มัน, เสื้อกันหนาวและถุงมือที่มีคุณภาพ, ทิชชู่แห้งและทิชชู่เปียก, อาหารกระป๋อง มาม่า 
หรืออาหารปรุงเสร็จที่เพียงนำไปอุ่นก็ทานได้ เผื่อไว้ถ้าทานอะไรลำบาก ขนม ขนมปัง เผื่อนั่งรถหิว, กาแฟ3in1(ผมติดไปแพคใหญ่แบ่งคนที่นั่นทานพวกเค้าชอบมาก),หมวก แว่นกันแดด ผ้าปิดปากกันฝุ่น, กระติกน้ำร้อน, ช้อมส้อม(ผมติดไว้เผื่อเจอที่ที่ทานด้วยมือในเดลี),ยาพารา ยาดม

รูปภาพและวิดีโอดูผ่าน Google++

https://goo.gl/photos/YAFmUJmR2Vux9q3b6

https://goo.gl/photos/qFrMu9XR4wLiot3V8

https://goo.gl/photos/Bhej3tzTjh4SKted9

https://goo.gl/photos/tW9dZwBEF7sjeueT7

https://goo.gl/photos/PmUMYB5YtCXqUkgNA

https://goo.gl/photos/gePz3w1nW46X9bo4A

https://goo.gl/photos/7HRdv4Mw3RwQYuCg7

https://goo.gl/photos/GqHgS5UeRNrc9zkz6

https://goo.gl/photos/Ha9UeEKwVNbG3BQcA

https://goo.gl/photos/UVnTRJ7QFJ5FY5o28

https://www.facebook.com/paveenut.kongboon/videos/1474177622627189/

https://www.facebook.com/paveenut.kongboon/videos/1474176792627272/

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยืน, เมฆ, ท้องฟ้า, สถานที่กลางแจ้ง และ ธรรมชาติในภาพอาจจะมี 2 คน, ผู้คนกำลังยืน, ท้องฟ้า, รองเท้า, เด็ก และ สถานที่กลางแจ้งในภาพอาจจะมี 2 คน, ผู้คนกำลังยืน และ สถานที่กลางแจ้ง

ในภาพอาจจะมี 1 คน, ภูเขา, ท้องฟ้า, เมฆ, สถานที่กลางแจ้ง, ธรรมชาติ และ น้ำในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยืน, รองเท้า และ สถานที่กลางแจ้ง

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม, กำลังยืน และ สถานที่กลางแจ้ง

ในภาพอาจจะมี 4 คน, ผู้คนกำลังยืน, ภูเขา, สถานที่กลางแจ้ง และ ธรรมชาติ

ในภาพอาจจะมี 1 คน, เมฆ, ท้องฟ้า และ สถานที่กลางแจ้งในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม, หมวก

ในภาพอาจจะมี 2 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน, เมฆ, ท้องฟ้า, หมวก, สถานที่กลางแจ้ง และ ธรรมชาติในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม, ท้องฟ้า, หมวก, สถานที่กลางแจ้ง และ ภาพระยะใกล้
ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม, กำลังยืน, มหาสมุทร, ท้องฟ้า, สถานที่กลางแจ้ง, ธรรมชาติ และ น้ำในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม, ต้นไม้, หมวก, ท้องฟ้า, ภาพเซลฟี่, สถานที่กลางแจ้ง, ภาพระยะใกล้ และ ธรรมชาติในภาพอาจจะมี 1 คน, ต้นไม้, สถานที่กลางแจ้ง, ภาพระยะใกล้ และ ธรรมชาติ

บันทึกการเดินทาง By Num
วันที่ 30 เม.ย.60
เดินทางมาถึงอินเดียตอนเที่ยงคืน ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองทุกขั้นตอน แล้วมารอขึ้นเครื่อง Domestic Flight ไปเลห์  เวลา 7.40 น. เครื่องบินบรรทุกผู้โดยสารเต็มลำก็ออกเดินทาง เรานั่งติดริมหน้าต่างเพื่อดูวิวที่เค้าบอกว่าสวยงามมาก พอเครื่องบินไปได้สักพักเราเริ่มสังเกตุว่าภูมิประเทศมันเป็นที่ราบนี่นาไม่ใช่ภูเขา มันใช่เลห์ที่เราจะไปไหม ??? แล้วเครื่องบินก็ลงจอดยังสนามบินแห่งหนึ่งที่ดูทันสมัยมากๆ แล้วกัปตันก้อประกาศว่าเนื่องจากสภาพอากาศมีหายุหิมะทำให้เครื่องบิน บินต่อไม่ได้ต้องขอพักสัก 1 ชม. แล้วจะทำการบินต่อ โอยังโชคดีที่เรายังได้ไปเลห์ต่อค้า ถึงแม้จะมาถึง 10 โมงเช้าก็ยังดีกว่าไม่ได้มาเน้อ รับกระเป๋ากาตัวแทนคงไม่อยุ่รอรับแล้วล่ะ แต่คนแถวนั้นเค้าก้อช่วยโทรศัพท์ติดต่อที่พักจัดรถ Taxi 2 คัน เนื่องจากกระเป๋าเยอะ ให้มาส่งโรงแรม Offbeat Resident จนได้ทางเข้าขลุขละยังกะมาโลกพระจันทร์ จนท โรงแรมต้อนรับด้วยอาหารเช้าไข่เจียวผสมขนมปัง ชานมร้อน แล้วให้พวกเราไปนอนพักผ่อน ให้ลงมาทานอาหารกลางวันตอน บ่ายโมงครึ่ง เราก็ขึ้นไปนอนแต่นอนไม่หลับหรอก อ้อคณะเรามีฝนกับพี่อ้อยที่แพ้ความสูง ไม่ยอมทานยา Diamox ตอนแรกแต่เย็นนี้ต้องยอมทานเพราะอ๊วกกันตลอดๆ นัดรถ Taxi มารับตอน 4 โมงเย็นให้พาไปเที่ยว พี่อ้อยขอบายเนื่องจากร่างกายไม่ไหว ส่วนฝนฝืนนั่งไปเที่ยวด้วยแต่ไม่ได้ลงไปถ่ายภาพ   บ่ายนี้ได้พาไปวัด Shey&Thisey Monastry  จบลงด้วย Shanti Stupa เพราะมืดแล้ว แต่วิวบนเขานี้เห็นแสงไฟตัวเมืองเลห์อันสวยงาม   เข้าที่พัก พักผ่อนนอนหลับอากาศแสนหนาว วันนี้ต้องปรับตัวกันเยอะทีเดียว เตรียมจัดกระเป๋าใบเล็กไปค้างคืนที่ Alchi พรุ่งนี้
อ้อที่นอนทุกที่ไม่มี Heater ไม่มีถุงน้ำร้อน แต่มีน้ำร้อนๆๆ ให้อาบน้ำจ้า
เราซื้อน้ำดื่มทานทุกวันขวดละ 10 บาท

วันที่ 1 พ.ค.60 เราออกเดินทาง 8.30 น. ไป Alchi -Moonland   ระหว่างทางแวะถ่ายรูปกับแม่น้ำสองสายมาบรรจบกันระหว่างแม่น้ำสินธุและแม่น้ำซันสการ์ ผ่านเมืองคาลลี ที่กินกลางวัน  วัดลามะยูรู ชมวัดอัลชิ ศิลปกรรมการแกะสลักไม้อันโดดเด่น
วันนี้ได้ไปเที่ยวหมู่บ้าน Alchi ที่เป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมเพาะปลูก รร ที่พักคืนนี้พอนอนได้เป็น รร เก่า ที่ดูดีสุดในหมู่บ้านนี้ เราขึ้นไปพักชั้น 2 มีทีวีแต่ไม่เคยเปิด internet ติดๆ ดับๆ อดเล่นเลย ใช้ชีวิตแบบ slow life มากๆ
แถวที่พักมีต้นแอพพลิคอท ดอกกำลังบานให้ถ่ายรูปสวยงามมาก ชื่นชมความงาม ในหมู่บ้านมีร้านขายของพวกหินสี เช่น เทอรควอยส ก้อไม่พลาดที่จะซื้อได้แหวน ราคา 200 รูปีและสร้อยข้อมือราคาเท่ากันมาใส่เล่น
มีพี่อ้อยไปด้วยเลยได้ต่อรองราคาสนุกสนานอิๆ  อยู่นี่ได้เข้าที่พักตั้งแต่ 4 โมง
ลืมเล่าว่าภูมิประเทศ 2 ข้างทางสวยงามแปลกตา แม่น้ำก้อสีเขียวใสสะอาด คงไหลมาจากหิมะละลาย ภูเขาหน้าตาแปลกๆ ที่นี่หินเยอะจิงๆ

วันที่ 2 พ.ค.60
เดินทางกลับมาเลห์ แวะเที่ยว Hall Of Flame  มีร้านขายของที่ระลึก ช่วยสนับสนุนทหารของที่นี่โดยการซื้อของ  ทหารของที่นี่ลำบากมากต้องต่อสู้กับอากาศที่หนาวเย็นและภูมิประเทศที่เป็นเขาและหิมะ
วันนี้ได้ซื้อผ้าพันคอปักดอกไม้ผืนละ 1 พันบาท และปลอกหมอนปัก 2 ใบ
เมื่อคืนทำท่าจะหายใจไม่ออกเลยลองเอายูคาลิปตัสมาลองใช้ก่อน
ตอนเย็นก่อนเดินทางไป นูบลา จนท โรงแรมมา update ว่าเปลี่ยนเป็นรถคันใหญ่ให้แทน innova เพราะรถเสียนำไปซ่อม พวกเราดีใจได้ใช้รถใหญ่อิๆ จะได้นั่งสบาย โปรแกรมพรุ่งนี้คือไปทะเลทราย แล้วได้พักบ้านแทน camp เย้ ดีใจต่อที่สอง เที่ยวที่นี่มีลุ้นทุกวัน แต่ธรรมชาติสวยงามมากค่ะ
มาถึงที่พักที่เลห์ประมาณ 5 โมงเลยขอให้ทางโรงแรมเรียก Taxi เพื่อไป Shopping ที่ Main Barzar ตลาดตัวเมืองในเลห์กันดีกว่า ได้ผลิตภัณฑ์หิมาลายันต่างๆ ได้แก่ครีมทาเท้า ทาแก้หวัด เอาไว้มาเป็นของฝาก รู้สึกร้านนี้จะเป็นที่ที่คนไทยทุกคนต้องแวะมาจนของหมดร้านค้า... ^^  ได้ตุ้มหูคู่ละ 60 บาท มา 3 คู่

ตอนเย็นก่อนเดินทางไป นูบลา จนท มา update ว่าเปลี่ยนเป็นรถคันใหญ่ให้แทน Innova เพราะรถเสียนำไปซ่อม พวกเราดีใจได้ใช้รถใหญ่อิๆ จะได้นั่งสบาย โปรแกรมพรุ่งนี้คือไปทะเลทราย แล้วได้พักบ้านแทน camp เย้ ดีใจต่อที่สอง เที่ยวที่นี่มีลุ้นทุกวัน แต่ธรรมชาติสวยงามมากค่ะ
วันที่ 3 พ.ค.60
การเดินทางอันแสนหฤโหดของเราได้เริ่มต้นขึ้นในเช้าวันนี้ นั่งรถไต่เขาขึ้นไปเดินรถได้ทางเดียว มีรถตามกันมาเป็นพรวน ไม่น่าเชื่อว่าคนจะมาเที่ยวได้เป็น 100 คัน ผ่านภูเขาน้ำแข็ง ถนนมี จนท คอยปัดกวาดหิมะ เกลี่ยให้รถใช้กันได้ ก้อเป็นการจัดการถนนใช้ร่วมกันที่ดีมาก ถึงจุดสูงสุด 18000 ฟุต เกิดอาการมึนหัว หายใจติดขัด เป็นเพราะเดินไปฉี่และถ่ายรูปไปมา อ้อที่นี่ได้นั่งฉี่ outdoor วิวสวยที่สุดท่ามกลางหิมะขาวโพลน  เราต้องใส่แว่นตากันแดดตลอดเวลาเพราะแดดที่นี่แรงสะท้อนเข้าตา แสบตามาก ทั้งหนาวทั้งร้อนในคราเดียวกัน มีกิจกรรมตามหาที่พักที่ Nubra เพราะคนขับไม่ค่อยรู้เส้นทาง ในที่สุดเราก็หาที่พักเจอ เป็นบ้านแล้วทำเป็นที่พัก
แวะพักกินข้าวเที่ยงก้อเกือบบ่ายสองโมง ซื้อน้ำดื่ม น้ำมะม่วงอร่อยดีนะ คนขับรถหาที่พักตลอดทาง มันคงลึกลับมาก ที่พักคืนนี้ชื่อ Youryum guesthouse เป็นบ้านเอามาทำที่พัก มีที่ปลูกผักด้วย เราพักชั้น 1 กิจการคงดีเห็นกำลังสร้างชั้น 2 อยู่ หลังบ้านมีต้น apricot ด้วย กำลังออกดอกแบบ full bloom เลย ต้องเก็บภาพซะหน่อย ลงทุนปีนขึ้นไปกันเลยได้ภาพมาถูกใจ  ก่อนตะวันตกดินให้คนขับพาไปเที่ยววัดก่อน วัดเก่าแก่ทีเดียวได้เงินมาก่อสร้างอาคารและที่ดินอีกเยอะ มีพระองค์ใหญ่อยู่บนหน้าผา ขากลับรถติดเล็กน้อย ถึงที่พักอาบน้ำ ทานข้าว เย็นนี้มีบะหมี่คล้าย pasta ต้มผัก พอกินได้ ฝนกะพี่อ้อยกินมาม่าเช่นเคย อาหารที่นี่ไม่มีเนื้อสัตว์ดีที่เตรียมไปเอง อ้อน้ำร้อนอาบน้ำที่นี่สีขุ่นไม่ใส แต่ดีที่น้ำเย็นใส นึกว่าที่พักจะมีแต่คณะเราซะพอ 2 ทุ่มก้อมีคณะคนไทยอีกคณะเข้ามา ที่พักที่นี่เลยเต็มทุกห้อง ไม่มี heater เหมือนเดิม
วันที่ 4 พ.ค.60
เช้าออกจากที่พัก 7 โมง รีบออกเพราะต้องไปหลายที่ คนขับบอกว่าจะพาไปดูทะเลสาปแต่หลงทางไปกลับหลายรอบสุดท้ายพาขึ้นเขาไปดูหมู่บ้าน unseen แทน แต่วิวสองข้างทางสวยสุดยอดมากได้แวะฉี่แบบ outdoor บรรยากาศดีสุดๆ สายหน่อยไปขี่อูฐ คนละ 200 รูปี 15 นาที แล้วเดินทางกลับ ทานอาหารที่ร้นบนเขาสั่งข้าวผัด 1 จากกิน 5 คน และชานม ขอถ่ายรูปกับตัวยาสหน่อย วันนี้แดดไม่ค่อยมี ระหว่างเข้าคิวรอ stamp บัตรผ่าน เจอหิมะตกปรอยๆ คนเดินทางชาวอินเดียออกมาเล่นหิมะกันใหญ่ ทุกคนชอบถ่ายรูปกับหิมะ  คนขับรถลืมเติมน้ำมันอ่ะเปล่า เพระาเราเห็นรถน้ำมันจะหมดแล้วมาอยู่ที่ตัว E แล้วน้า ในที่สุดก็มาถึงตัวเมืองเลห์น้ำมันหมดพอดี แต่มีร้านแถวนั้นที่เอาน้ำมันมาเติมรถทำให้สามารถขับไปต่อได้ วนเวียนหาทางเข้าโรงแรมอยู่นาน ขับชมเมืองตอนกลางคืนซะงั้น ในที่สุดก็ถึงที่พักอย่างปลอดภัย...
ถึงที่พัก 3 ทุ่ม ดึกสุดใน Trip


วันที่ 5 พ.ค.60
วันนี้ จนท. ให้ออกเดินทาง 9 โมง เนื่องจากเมื่อคืนมาถึงดึกต้องการให้เราพักผ่อนเต็มที่เพื่อความปลอดภัย ไม่ว่าพี่ตุ๊กจะพยายามต่อรองยังไงก็ไม่ได้ OK คณะเราแวะซื้อน้ำดื่ม 1 ลัง ก่อนออกเดินทาง เส้นทางขึ้นเขาหิมะอีกแล้ว วันนี้คนขับรถคนใหม่ เค้าบอกว่ามาจากนูบลา อายุ 25 ปีเองแต่ดูแก่จัง ขับรถเก่งมาก เส้นทางหิมะไม่ต้องใช้โซ่พันก็ขับได้ค้า
ถึงจุดสูงสุดของภูเขาแวะฉี่ เจอพายุหิมะเล็กน้อย ถ่ายรุปกับจุดสูงสุด 17000 ระดับนี้รู้สึกจะไม่มีอาการไรน้า แต่มีหิมะเดินลื่นหกล้มเลยอ้า คนขับมาช่วยยกตัวขึ้นอิๆ
ลงจากเขามาแวะกินข้าวกลางวันตอนบ่าย 2 มีบะหมี่ Maggie ให้ทานกับชานมก็อร่อยดี
เดินทางผ่านภูเขาหิน ถึงที่พัก 4 โมงเย็นที่พักสร้างด้วยไม้บางๆ ก็คงดีกว่าเต้นท์เนอะ ลมแรงดี ถ่ายรูปกับทะเลสาปแปงกอง  อาหารเย็นเริ่มเวลา 1 ทุ่มครึ่ง ไฟจะดับตอน 4 ทุ่ม ใช้ตะเกียงแทนนะ
เนื่องจากอากาศที่นี่หนาวมาติดลบน้ำในท่อประปาเลยแข็งไม่ไหล จนท โรงแรมต้องใช้วิธีตักน้ำมาให้เราใช้เข้าส้วมแทน ขอบอกว่าเราไม่ต้องอาบน้ำกันค่ะ แค่แปรงฟันกะล้างหน้าพอแล้ว
คืนนี้เป็นคืน ที่นอนหนาวเย็นที่สุดใน Trip อุณหภูมิน่าจะติดลบ 10 องศา โอแม่เจ้า แล้วเราก็ผ่านคืนนี้มาได้

วันที่ 6 พ.ค.
ตื่นเช้ามาพร้อมกับแสงพระอาทิตย์ไม่เคยรู้สึกดีใจที่ได้เจอพระอาทิตย์มาก่อนเลย พระอาทิตย์มาช่วยไล่ความหนาวให้แล้ว เย้!
อาหารเช้ามีขนมปัง กะนมร้อน ไข่ต้ม
วันนี้อากาศดีมาก เราออกจากที่พัก 8 โมงครึ่ง มองออกไปจากที่พักจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากทะเลสาป มองวิวอันสวยงามเริ่มออกเดินทางกลับเลห์ แวะถ่ายรูปอำลาทะเลสาปอีก 1 ครั้ง การเดินทางผ่านเส้นทางขึ้นเขาหิมะเช่นเคย ณ ที่นี้เราเจอรถติดเนื่องจากทางแคบการสวนทางกันของรถทำได้ลำบาก แต่ชาวเลห์ก้อมีวิธีการจัดการขราจรแบบบ้านๆ ให้ผ่านไปได้ เออนั่งรถนานจนปวดฉี่ แวะฉี่ที่จุดสูงสุดเช่นเคย เจอผู้ร่วมเดินทางมากมาย ลงจากเขาถึงพื้นดินก้อเกือบบ่าย 2 คนขับแวะให้ทานข้าวเที่ยง เราสั่งหมี่ผัดและข้าวเปล่า พร้อมพกอาหารมาทานเอง หลังจากนั้นแวะเที่ยววัดเฮมิส อันสวยงามใหญ่โต เค้าว่าเป็นที่อยู่ของลามะเป็นร้อยรูปเลยทีเดียว วัดนี้มีพิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่ประจำปีด้วย ขอแวะถ่ายรูปที่เลห์ palace
แล้วจ้างคนขับคนเดิมให้พามาเที่ยวตลาดต่อเก็บตกสำหรับคนที่ยังได้ของไม่ครบ ซื้อเสื้อยืดสีดำตามพี่ตุ๊กมา 1 ตัวผ้าดีเชียว


วันที่ 7 พ.ค.60
ตื่นตี 5  เก็บของเรียบร้อยออกจากที่พัก
และแล้ววันสุดท้ายของการเดินทางก้อมาถึง เราออกจากที่พัก 6 โมงเช้าเพื่อไปสนามบินเลห์ เจอนักท่องเที่ยวไทยมากมาย ผ่านกระบวนการตรวจสิ่งของ และร่างกายอย่างเข้มข้น เนื่องจากเคยมีเหตุการณ์ระเบิดที่สนามบิน นั่งรถบัสมาขึ้นเครื่อง ได้ที่นั่งแถว 34A เพื่อติดหน้าต่าง อำลาเมืองเลห์ครั้งสุดท้ายด้วยรอยิ้ม  เราผ่านการเดินทางที่ยากลำบากในการไปถึงแต่ละสถานที่มาได้อย่างไร หวังว่ากระเป๋าที่เราโหลดจะไปรอที่  BKK อย่างปลอดภัยน้า ^^
สนามบินอินธิราคานทีคนเยอะมากต่อคิวเข้าไปข้างใน gate เป็น ชม ค้า  มี net ให้เล่น free 40 นาที พอได้ส่งรูปและติดต่อทางบ้าน หลังจากไม่มี net ใช้มา 7 วัน ดีใจสุดๆ
ใครมีเงินรูปีเหลือก็มา Shop ต่อที่สนามบินนี่ล่ะ เราซื้อชา
กลางวันทาน Mac ไก่ที่สนามบิน รสชาติใช้ได้ ร้านหิมาลายันจะเป็นแหล่งรวมคนไทยที่ทุกคนต้องไปซื้อของ ซื้อชามาฝากที่บ้านและครูไก่ ไม่รู้จะซื้อไรดี แต่ว่าเงิน 5000 บาทที่แลกไปก้อใช้หมดเลยนะ บ่ายโมงมานั่งรอที่ gate 9 ได้เวลาขึ้นเครื่องกลับไทยแล้วดีจัง เวลาที่ Delhi ช้ากว่าไทย 1.5 ชม พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแล้ว กลับสู่โลกแห่งความจริง  สนามบินที่นี่ใหญ่จิง เดินไกลมากๆๆๆกว่าจะถึง gate ขอบคุณเพื่อนร่วม trip พี่อ้อย พี่ตุ๊ก พี่สมใจ ฝน ที่ทำให้ trip ครั้งนี้สำเร็จได้ด้วยดี แบ่งปันอาหาร และกุ้งอบวุ้นเส้นที่แสนอร่อย พี่อ้อยลงทุนเข้าครัวไปกำกับพ่อครัวเลห์กันเลยที่เดียว
























ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม