ตะลุยอิหร่านดินแดนลึกลับมีเสน่ห์
โดยมีน้องน้ำและพี่ตุ๊กเป็นผู้นำ Trip ซึ่งเยาววัย ก็ 40 Up แล้วอิๆ
การเดินทาง 12 วัน 10 คืน 5 เมือง กำลังจะเริ่มต้นจ้า
วันที่ 19 ต.ค
ออกเดินทางจากดอนเมืองมาอิหร่าน แวะ transit ที่มาเลย์ มาถึงสนามบิน Klia2 ช่างใหญ่โตเลียนแบบสนามบินสุวรรณภูมิถึง 2 เท่า แค่เดินข้ามไปอีกฝั่งก้อเดินเกือบครึ่งชมล่ะ มีของขายมากมายร้านอาหารเพียบ แต่ไงก้อสู้เมืองไทยไม่ได้
วันที่ 20 ต.ค.
ไกด์ชื่อ Iman มารับตอน 9 โมง
เที่ยวพระราชวัง darband ตลาด
วันที่ 21 ต.ค.
นัดรถ taxi มารับไปเมืองคาชานตอน 9 โมง มาถึงเมืองเกือบเที่ยง คณะเรา 6 คนจึงครบ ทำการชำระค่าทัวรคนละ 790€ ท่องเที่ยวบ้านเศรษฐี โรงอาบน้ำ แล้วเข้าที่พัก
วันที่ 22 ต.ค.
ออกเดินทางไป Abyaneh village พวกเราลองใส่ชุดพื้นเมืองถ่ายรูปกัน ดูเหมือนตุ๊กตาแม่ลูกดกกันมากๆ (^^)
กลางวันกินร้านอาหารที่นั่นบรรยากาศติดน้ำตก
มุสตาฟา ไกด์เราได้มอบชาคนละ 1 ถุงเป็นของที่ระลึก ขอบคุณมากมาย ได้มอบทิปไป 700 บาท ไม่รู้เค้าจะคุ้มหรือเปล่า
แล้วเดินทางต่อไปพักที่เมืองอีสฟาฮาน อดีตเมืองหลวงของอิหร่าน คืนนี้ที่พักเป็น รร ใหม่ทันสมัยเชียว wifi ก้อแรง ทุกคนชอบมาก
วันที่ 23 ต.ค.
นัดไกด์มาเจอตอน 9 โมง วันนี้เป็นไกด์ผู้หญิงสวยหน้าตาแบบนัทมีเรีย มานำเที่ยวล่ะ
ออกท่องเที่ยวเมืองอีสฟาฮานกัน เริ่มจากจตุรัสประจำเมือง เข้าชมสุเหร่าของกษัตริย์ สุเหร่าชาวบ้าน และพระราชวังที่ออกว่าราชการ แค่นี้ก้อเดินครึ่งวันกันแล้ว แถมแวะร้านซื้อเครื่องประดับ น้องน้ำได้กำไลลาปิดมา 1 วง แวะร้านขายผ้าคลุมผม ซื้อกันคนละผืน กว่าจะได้กินข้าวเที่ยวก้อเกือบบ่าย 2 ร้านอาหารธรรมดาแต่อาหารอร่อย ซึ่งกินแบบนี้ทุกเที่ยวล่ะ
มีพลังเดินต่อไปเที่ยววัง 40 เสา ดูตลาดท้องถิ่นที่ชาวบ้านมาซื้อของกัน แล้วนั่งรถไปดูโบสถ์คริสต์ ไปถึงก้อปิดแล้ว รอบๆ แถวนั้นเป็นที่อยู่ของชาวอาเมเนียนอพยพมาอยู่ เค้าถนัดทำทองและกาแฟ จึงเห็นเปิดร้านกาแฟมากมาย หนึ่งในนั้นมีชื่อร้าน Hermes ดูหรูเชียวน่าเข้าไปนั่งทาน แต่เวลามีน้อยรีบไปที่พิพิธภัณฑ์ดนตรี ฟังเค้าแนะนำเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น แล้วเล่นดนตรีให้ฟังไพเราะมาก หลังจากนั้นกลับถึง รร เกือบ 2 ทุ่ม เป็นวันที่คุ้มมากและจ่ายค่าเข้าสถานที่ 1200 บาท
วันที่ 24 ต.ค
ออกเดินทางจากอีสฟาฮานมายาด ระยะทาง 340 กม. ออกจาก รร 9 โมง มาถึงเมือง Maybod ทานอาหารเที่ยงก้อเกือบบ่ายโมงครึ่ง เป็นร้านอาหารใหญ่ ภายในร้านตกแต่งสวยงามมาก มื้อนี้สั่งไก่ แกะ ปลา อาหารอร่อย รอไม่นาน
แล้วก้อมาถ่ายรูปที่เมืองโบราณ Maybod เป็นลักษณะบ้านดิน มีเป็นห้องเล็กๆ เดินไปด้านบนจะเห็นวิวเมืองทั้งหมด สวยงามมากแต่แดดร้อนสุดๆ เช่นกัน
หลังจากนั้นเดินทางอีก 1 ชม. ก้อถึงเมืองยาด เข้าที่พัก เป็น Traditional Hotel คือเอาบ้านเศรษฐีมาทำเป็น รร นั่นเอง ทางเดินมี step หลากหลายอยู่ ห้องนอนแต่ละห้องมีรูปแบบไม่เหมือนกัน หลังจากจัดของแล้วก้อลองเดินสำรวจรอบ รร กัน เจอ Main bazaar โดยบังเอิญเพราะเห็นแสงไฟ จึงเดินตามไฟไป
ตลาดที่ยาดมีขนาดไม่ใหญ่มากเป็นตลาดขายทองเกือบร้อยร้าน มีร้านขายผ้าปูโต๊ะ เสื้อผ้า ตอนเย็นตลาดเปิด 16.30 - 21.00 น คนที่นี่คงชอบมาเดินตอนกลางคืน เพราะอากาศเย็นสบาย
ที่เมืองนี้ฝุ่นเยอะ ร้านค้าเลยชอบราดน้ำ เพื่อเวลาคนเดินและของจะได้ไม่เลอะฝุ่น
Wifi ที่ รร ก้อให้ใช้แค่ 250 Mb ส่งไม่กี่รูปก้อหมดโควต้าแล้ว ได้นอนแต่หัวค่ำกัน (^^)
วันที่ 25 ต.ค.
เที่ยวเมืองยาดกัน เจอไกด์คนใหม่ที่ รร. ชื่อ Muhamad
เริ่มแรกไปดูวิหารไฟ ที่เค้าเก็บไฟศักดิ์สิทธิที่ต้องจุดไฟไว้ตลอดเวลา หลังจากนั้นไปชมสถานที่ฝังศพโบราณ เค้าจะเอาศพไปวางไว้บนยอดเขานอกเมือง แล้วให้แร้งจิกกินจนเหลือแต่กระดูก แล้วจึงเอากระดูกไปโยนไว้ให้หลุม แล้วกระดูกก้อจะค่อยๆสลายไปเอง ปัจจุบันใช้วิธีฝังเอา แต่คนตายไม่จำเป็นต้อง 24 ชม ถึงรีบฝังอาจจะ 3 วันด้อได้ แต่รีบเท่าไหร่ได้ยิ่งดี
วันนี้เป็นวัน shopping day ของกลุ่มเรา พวกป้าๆ รุมกันซื้อผ้าพันคอกันคนละหลายผืนเนื่องจากถูก มีราคาตั้งแต่ 3 ผืนร้อย 2 ผืนร้อย ผืนละร้อย แต่น้องน้ำซื้อผืนละ 250 บาทไว้ใช้เอง 2 ผืน มีลูกไม้อยู่ที่ริมด้วย
วันนี้เดินเที่ยวไม่ค่อยเหนื่อยเพราะสถานที่มีจำนวนไม่เยอะ แต่มีความสำคัญกับประวัติศาตร์ เช่นเรื่องน้ำ ที่นี่มีวิธีการเก็บน้ำแบบฉลาด มีการทำท่อนำน้ำจากภูเขาเข้ามาใช้ในเมืองด้วย มีถังเก็บน้ำไว้ใช้
แยกจากไกด์ตอน 5 โมงเย็นเป็นอันจบ trip พอดี
วันที่ 26 ต.ค.
พรุ่งนี้เราจะเดินทางจากยาดไปชีราส ระยะทางกว่า 400 กม ระหว่างทางแวะเที่ยวซากเมือง 1 จุด
Iran is a rich country in history, culture, flowers, fruits and nuts. People are very warm and friendly. Plenty of trees in city and town that provide shades. We had an inspiring time in Iran.
ตั๋วเครื่องบิน
1 สายการบิน Air Asia ตั๋วถูกแต่ต้องไปต่อเครื่องที่ KLIA2
ขาไป
AK 883 DMK-KUL 1310, 19 ต.ค. 2017 1620, 19 ต.ค. 2017
D7 776 KUL-IKA 1905, 19 ต.ค. 2017 2240, 19 ต.ค. 2017
***************
ขากลับ
D7 777 IKA - KUL 0005, 30 ต.ค. 2017 1245, 30 ต.ค. 2017
FD 314 KUL-DMK 1535,
30 ต.ค. 2017 1705, 30 ต.ค. 2017
2 Thai Airways Direct flight 7 ชม. แสนสบายราคาโปร 15000 บาท
ติดต่อบริษัททัวร์ที่อิหร่านให้จัดการท่องเที่ยวให้
การทำวีซ่า
เป็นอะไรที่ยุ่งยากมาก แต่จริงๆ เค้ามีทางเลือกไว้ไปทำ Visa on Arrival ตอนมาถึงอิหร่านเลย แต่คณะเราเลือกความ sure ขอทำให้เรียบร้อยตั้งแต่อยู่เมืองไทย ดิชั้นจึงต้องดำเนินการขอ Visa Code จาก Local tour อิหร่านชื่อ Fatima เค้าดำเนินการให้ใช้เวลา 1 เดือน ตอนต้น ส.ค. 60
พอกลาง ก.ย. จึงไปรับวิซ่าที่สถานทูตที่อยู่ในซอยทองหล่ออันลึกลับ ต้องเดินทางโดยใช้รถมอเตอร์ไซด์ ครั้งละ 30 บาท ชีวิตดิชั้นเริ่มผจญภัยนับตั้งแต่นั้น แต่การทำ Visa ง่ายดายกว่าที่คิดมากมาย
การแต่งกาย
สุภาพสุดๆ ชุดหลวมๆ ปกปิดมิดชิด แขนยาว ขายาว
วันที่ 19 ต.ค
ออกเดินทางจากดอนเมืองมาอิหร่าน แวะ transit ที่มาเลย์ มาถึงสนามบิน Klia2 ช่างใหญ่โตเลียนแบบสนามบินสุวรรณภูมิถึง 2 เท่า แค่เดินข้ามไปอีกฝั่งก้อเดินเกือบครึ่งชมล่ะ มีของขายมากมายร้านอาหารเพียบ แต่ไงก้อสู้เมืองไทยไม่ได้
วันที่ 20 ต.ค.
ไกด์ชื่อ Iman มารับตอน 9 โมง
เที่ยวพระราชวัง darband ตลาด
วันที่ 21 ต.ค.
นัดรถ taxi มารับไปเมืองคาชานตอน 9 โมง มาถึงเมืองเกือบเที่ยง คณะเรา 6 คนจึงครบ ทำการชำระค่าทัวรคนละ 790€ ท่องเที่ยวบ้านเศรษฐี โรงอาบน้ำ แล้วเข้าที่พัก
วันที่ 22 ต.ค.
ออกเดินทางไป Abyaneh village พวกเราลองใส่ชุดพื้นเมืองถ่ายรูปกัน ดูเหมือนตุ๊กตาแม่ลูกดกกันมากๆ (^^)
กลางวันกินร้านอาหารที่นั่นบรรยากาศติดน้ำตก
มุสตาฟา ไกด์เราได้มอบชาคนละ 1 ถุงเป็นของที่ระลึก ขอบคุณมากมาย ได้มอบทิปไป 700 บาท ไม่รู้เค้าจะคุ้มหรือเปล่า
แล้วเดินทางต่อไปพักที่เมืองอีสฟาฮาน อดีตเมืองหลวงของอิหร่าน คืนนี้ที่พักเป็น รร ใหม่ทันสมัยเชียว wifi ก้อแรง ทุกคนชอบมาก
วันที่ 23 ต.ค.
นัดไกด์มาเจอตอน 9 โมง วันนี้เป็นไกด์ผู้หญิงสวยหน้าตาแบบนัทมีเรีย มานำเที่ยวล่ะ
ออกท่องเที่ยวเมืองอีสฟาฮานกัน เริ่มจากจตุรัสประจำเมือง เข้าชมสุเหร่าของกษัตริย์ สุเหร่าชาวบ้าน และพระราชวังที่ออกว่าราชการ แค่นี้ก้อเดินครึ่งวันกันแล้ว แถมแวะร้านซื้อเครื่องประดับ น้องน้ำได้กำไลลาปิดมา 1 วง แวะร้านขายผ้าคลุมผม ซื้อกันคนละผืน กว่าจะได้กินข้าวเที่ยวก้อเกือบบ่าย 2 ร้านอาหารธรรมดาแต่อาหารอร่อย ซึ่งกินแบบนี้ทุกเที่ยวล่ะ
มีพลังเดินต่อไปเที่ยววัง 40 เสา ดูตลาดท้องถิ่นที่ชาวบ้านมาซื้อของกัน แล้วนั่งรถไปดูโบสถ์คริสต์ ไปถึงก้อปิดแล้ว รอบๆ แถวนั้นเป็นที่อยู่ของชาวอาเมเนียนอพยพมาอยู่ เค้าถนัดทำทองและกาแฟ จึงเห็นเปิดร้านกาแฟมากมาย หนึ่งในนั้นมีชื่อร้าน Hermes ดูหรูเชียวน่าเข้าไปนั่งทาน แต่เวลามีน้อยรีบไปที่พิพิธภัณฑ์ดนตรี ฟังเค้าแนะนำเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น แล้วเล่นดนตรีให้ฟังไพเราะมาก หลังจากนั้นกลับถึง รร เกือบ 2 ทุ่ม เป็นวันที่คุ้มมากและจ่ายค่าเข้าสถานที่ 1200 บาท
วันที่ 24 ต.ค
ออกเดินทางจากอีสฟาฮานมายาด ระยะทาง 340 กม. ออกจาก รร 9 โมง มาถึงเมือง Maybod ทานอาหารเที่ยงก้อเกือบบ่ายโมงครึ่ง เป็นร้านอาหารใหญ่ ภายในร้านตกแต่งสวยงามมาก มื้อนี้สั่งไก่ แกะ ปลา อาหารอร่อย รอไม่นาน
แล้วก้อมาถ่ายรูปที่เมืองโบราณ Maybod เป็นลักษณะบ้านดิน มีเป็นห้องเล็กๆ เดินไปด้านบนจะเห็นวิวเมืองทั้งหมด สวยงามมากแต่แดดร้อนสุดๆ เช่นกัน
หลังจากนั้นเดินทางอีก 1 ชม. ก้อถึงเมืองยาด เข้าที่พัก เป็น Traditional Hotel คือเอาบ้านเศรษฐีมาทำเป็น รร นั่นเอง ทางเดินมี step หลากหลายอยู่ ห้องนอนแต่ละห้องมีรูปแบบไม่เหมือนกัน หลังจากจัดของแล้วก้อลองเดินสำรวจรอบ รร กัน เจอ Main bazaar โดยบังเอิญเพราะเห็นแสงไฟ จึงเดินตามไฟไป
ตลาดที่ยาดมีขนาดไม่ใหญ่มากเป็นตลาดขายทองเกือบร้อยร้าน มีร้านขายผ้าปูโต๊ะ เสื้อผ้า ตอนเย็นตลาดเปิด 16.30 - 21.00 น คนที่นี่คงชอบมาเดินตอนกลางคืน เพราะอากาศเย็นสบาย
ที่เมืองนี้ฝุ่นเยอะ ร้านค้าเลยชอบราดน้ำ เพื่อเวลาคนเดินและของจะได้ไม่เลอะฝุ่น
Wifi ที่ รร ก้อให้ใช้แค่ 250 Mb ส่งไม่กี่รูปก้อหมดโควต้าแล้ว ได้นอนแต่หัวค่ำกัน (^^)
วันที่ 25 ต.ค.
เที่ยวเมืองยาดกัน เจอไกด์คนใหม่ที่ รร. ชื่อ Muhamad
เริ่มแรกไปดูวิหารไฟ ที่เค้าเก็บไฟศักดิ์สิทธิที่ต้องจุดไฟไว้ตลอดเวลา หลังจากนั้นไปชมสถานที่ฝังศพโบราณ เค้าจะเอาศพไปวางไว้บนยอดเขานอกเมือง แล้วให้แร้งจิกกินจนเหลือแต่กระดูก แล้วจึงเอากระดูกไปโยนไว้ให้หลุม แล้วกระดูกก้อจะค่อยๆสลายไปเอง ปัจจุบันใช้วิธีฝังเอา แต่คนตายไม่จำเป็นต้อง 24 ชม ถึงรีบฝังอาจจะ 3 วันด้อได้ แต่รีบเท่าไหร่ได้ยิ่งดี
วันนี้เป็นวัน shopping day ของกลุ่มเรา พวกป้าๆ รุมกันซื้อผ้าพันคอกันคนละหลายผืนเนื่องจากถูก มีราคาตั้งแต่ 3 ผืนร้อย 2 ผืนร้อย ผืนละร้อย แต่น้องน้ำซื้อผืนละ 250 บาทไว้ใช้เอง 2 ผืน มีลูกไม้อยู่ที่ริมด้วย
วันนี้เดินเที่ยวไม่ค่อยเหนื่อยเพราะสถานที่มีจำนวนไม่เยอะ แต่มีความสำคัญกับประวัติศาตร์ เช่นเรื่องน้ำ ที่นี่มีวิธีการเก็บน้ำแบบฉลาด มีการทำท่อนำน้ำจากภูเขาเข้ามาใช้ในเมืองด้วย มีถังเก็บน้ำไว้ใช้
แยกจากไกด์ตอน 5 โมงเย็นเป็นอันจบ trip พอดี
วันที่ 26 ต.ค.
พรุ่งนี้เราจะเดินทางจากยาดไปชีราส ระยะทางกว่า 400 กม ระหว่างทางแวะเที่ยวซากเมือง 1 จุด
Iran is a rich country in history, culture, flowers, fruits and nuts. People are very warm and friendly. Plenty of trees in city and town that provide shades. We had an inspiring time in Iran.
ตั๋วเครื่องบิน
1 สายการบิน Air Asia ตั๋วถูกแต่ต้องไปต่อเครื่องที่ KLIA2
ขาไป
AK 883 DMK-KUL 1310, 19 ต.ค. 2017 1620, 19 ต.ค. 2017
D7 776 KUL-IKA 1905, 19 ต.ค. 2017 2240, 19 ต.ค. 2017
***************
ขากลับ
D7 777 IKA - KUL 0005, 30 ต.ค. 2017 1245, 30 ต.ค. 2017
2 Thai Airways Direct flight 7 ชม. แสนสบายราคาโปร 15000 บาท
ติดต่อบริษัททัวร์ที่อิหร่านให้จัดการท่องเที่ยวให้
The
name of the agency: LMK (Lahzehaye Mandegar travel agency)
the
person you meet: Mostafa Ramezanpoor as the operator of your tour (98) 913 039
9198
การทำวีซ่า
เป็นอะไรที่ยุ่งยากมาก แต่จริงๆ เค้ามีทางเลือกไว้ไปทำ Visa on Arrival ตอนมาถึงอิหร่านเลย แต่คณะเราเลือกความ sure ขอทำให้เรียบร้อยตั้งแต่อยู่เมืองไทย ดิชั้นจึงต้องดำเนินการขอ Visa Code จาก Local tour อิหร่านชื่อ Fatima เค้าดำเนินการให้ใช้เวลา 1 เดือน ตอนต้น ส.ค. 60
พอกลาง ก.ย. จึงไปรับวิซ่าที่สถานทูตที่อยู่ในซอยทองหล่ออันลึกลับ ต้องเดินทางโดยใช้รถมอเตอร์ไซด์ ครั้งละ 30 บาท ชีวิตดิชั้นเริ่มผจญภัยนับตั้งแต่นั้น แต่การทำ Visa ง่ายดายกว่าที่คิดมากมาย
การแต่งกาย
สุภาพสุดๆ ชุดหลวมๆ ปกปิดมิดชิด แขนยาว ขายาว
Paveenut and Friends’ Iran
Trip
Oct 2017
|
|||||
Date
|
Cites
|
Hotel
|
Distance
|
Activities
|
|
Oct 19th
|
Tehran
|
Parsian Enghelab hotel
Reservation code:
356752
(one triple room)
|
40 km from Airport to Tehran
(almost one hour from airport to your
hotel)
|
Pick up at 22:40, three people
arriving.
Directly to your hotel
|
|
Oct 20th
|
Tehran
|
Enghelab hotel
(one triple room)
|
City tour with a
guide driver
|
Starting at 9:00 am.
Visiting Darband,
Niavaran palace,
Tajrish Bazar
|
|
Kashan
|
Ehsan traditional hotel
(one triple room)
|
220 km
2 hours from airport to your hotel in
Kashan
|
|||
Pick up the second
group, (three people) to Kashan
|
|||||
Oct 21st
|
KAshan
|
Ehsan traditional hotel
(three twin rooms)
|
Transfer the first group from Tehran to Kashan
(250 km)
|
City tour in Kashan
Visiting Tabatabaee house, Sultan Amir
Ahmad bath house, Borujerdi house, Bazar
|
|
Oct 22nd
|
Isfahan
|
Khaju hotel
|
230 km
|
Visiting fin Garden
in the morning, leaving for Isfahan, visiting Abyaneh historical village en
route
|
|
Oct 23rd
|
Isfahan
|
Khaju hotel
|
-----
|
City tour with your guide, visiting
the royal sq, royal mosque, Sheikh lotfolah mosque, historical bridges, Vank
cathedral,music museum, Chehel Sotun Palace
|
|
Oct 24th
|
Isfahan-Yazd
|
Labe Khandagh
traditional hotel
|
350 km
|
Free time in the
morning, leaving for Yazd after lunch
|
|
Oct 25th
|
Yazd
|
Labe Khandagh traditional hotel
|
-------
|
City tour in Yazd, with your guide,
you will visit the towers of silence, Amir Chakhmaq sq, Jame Mosque ,
Zoroastrain fire temple, Old neighborhood of Yazd
|
|
Oct 26th
|
Shiraz
|
Setaregan hotel
|
450 km
|
Leaving for Shiraz,
visiting Persepolis and Necropolis en route, you will meet your guide in
Persepolis
|
|
Oct 27th
|
Shiraz
|
Setaregan hotel
|
-----
|
Whole day city tour in Shiraz with
your guide, visiting the Pink mosque, Karimkhan Citadel, vakil Bazar,
Orangery, Eram Garden
|
|
Oct 28th
|
Tehran
|
PAsian enghelab Hotel
Reservation code:
356756
|
930 km
(one hour and a half
by flight)
|
Pick up from domestic
airport, visiting Azadi tower, Jewelry
museum, Carpet museum, Nature bridge
|
|
Oct 29th
|
Tehran
|
-----
|
----
|
With your guide, you will visit Bazar,
Golestan palace.
Leaving for the airport at around 4
p.m.
|
The tour
includes:
10 nights
traditional and modern 3-4 Star hotels with breakfast
Private car
and driver everywhere with you
Local guide,
one day in each city
Domestic
flight from Shiraz to Tehran
All the pick
ups from the national and international airport,
All the
transfers to the airports
One local
dinner with an Iranian family
Iranian
Simcard with Internet date (three)
Visa code
The tour
excludes:
Meals
Entrance
fees
It costs 790 Euros per person.
Emergency
phone no:
Fatima:
(+98) 913 129 71 96 What’s app: (+98)
937 183 54 66
Mostafa:
(+98) 913 039 9198 What’s app: (+98)
935 390 3313
Some points:
We really do
our best to make a memorable trip for you, so we have changed some of the
hotels for better, and be sure that if we change something during the trip (of
course we will let you know before), it is a change for better.
You will
have your local dinner with an Iranian family in Kashan.
The tours
start at 9:00 am, because the sites usually open at 9:00. If you want to start
earlier, you can tell us the night before to arrange the time with your guide.
In Iran, it
is normal for domestic flights to be delayed or cancelled. We hope it doesn’t
happen to you. Totally we choose good airlines.
I will deliver
the flight tickets via what’s app.
The other
point is that your credit card does not work in Iran, so you need to bring cash
with you.
Each meal is
about 5-7 Euros per person in a good restaurant.
Each site is
between 3-5 Euros per person.
For
shopping, you can decide if you want to buy some souvenir or not.
You can pay
us when we meet in Kashan.
ค่าใช้จ่ายทัวร์อิหร่าน 12 วัน 10 คืน | 12 วัน 5 เมือง สมาชิก 6 คน Car - Flight | |
1 | ค่าตั๋วเครื่องบิน AIRASIA | 12,201.00 |
2 | program ทัวร์ 11 วัน 11 คืน ถ้า 6 คน ที่พักแบบ Deluxe รวมอาหารเช้า 770 EUR ต่อคน | 30,299.50 |
3 | ค่าวีซ่า | 2,325.00 |
4 | ค่าวีซ่า Code 20 EUR | 770.00 |
5 | ค่าอาหารกลางวัน/เย็น 10 วัน 20 มื้อ | 4,000.00 |
6 | ค่าทิปคนขับรถ 10 วัน | 1,000.00 |
7 | ค่าเข้าสถานที่ 15 แห่ง | 3,000.00 |
8 | ค่ารถ | |
9 | ค่า Shopping | 2,000.00 |
ค่าประกันท่องเที่ยว 12 วัน | 450 | |
ค่า Taxi ไปกลับสนามบิน | ||
รวม | 56,045.50 |
ITENERNARY IRAN 19-30 OCT 2017 | โรงแรม | ||
19-Oct | 09.00 น.
ถึงท่าอากาศยานดอนเมือง 13.10-16.25 DMK to มาเลเซีย by AIRASIA 19.05-22.40 มาเลเซีย to Tehran by AIRASIA 24.00 น. go to Hotel in Tehran |
TEHRAN | Parsian Enghelab hotel |
20-Oct | น้ำ -เที่ยวในเตหะราน
09.00 พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับพระราชวัง (SA’AD ABAD PALACE ) พระราชวังเขียว ( GREEN PALACE) WHITE PALACE / 12.00 กินกลางวันพื้นเมืองที่ Darband ทานข้าวที่ร้าน Darband Mountains Retreat ทางเข้าอาจดูเล็กๆแคบๆ แต่พอเราเดินเข้าไปเท่านั้นแหละ สวยมาก / 13.00 จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม พระราชวังเนียวาราน (Naivaran Palace)ซึ่งเป็นพระราชวังแห่งที่สองของ กษัตริย์ในราชวงศ์ปาห์เลวีและกษัตริย์ชาห์องค์ที่สอง คือ ชาห์มูฮัมหมัด เรซ่า ปาห์เลวี กับการนำของอ ยาตุลเลาะห์โคมัยนีเมือเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ.1979 สิ่งของเครื่องใช้ที่จัดแสดงในห้องต่างๆจึงเป็ น ของใช้ส่วนพระองค์แทบทั้งสิ้น 15.00 Tajrish Bazaar + Emamzadeh Saleh Mausoleum 17.00 go to Hotel ********************************** |
TEHRAN | Parsian Enghelab hotel |
12.30 น.
คณะเดินทางพร้อมกัน ณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอาคารผู้โดยสารขาออกประตูที่
3-4 เคาน์เตอร์ D เคาน์เตอร์เช็คอินท์สายการบินไทย 15.30 น. Qเหินฟ้าสู่กรุงเตหะราน เมืองหลวงของประเทศอิหร่าน โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG527 19.30 น. ถึงกรุงเตหะราน 20.00 น. เดินทางไปที่คาซาน นำท่านเข้าสู่ที่พัก จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยังเมืองคาชาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ ห่างประมาณ 200 กม. เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเมืองหนึ่งของจังหวัดอีสฟาฮาน เมืองคาชาน (Kashan) ตั้งอยู่เหนือความสูงของระดับน้ำทะเลประมาณ 1600 ม. มีพื้นที่ประมาณ 12600 ตร.กม. และประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 400000 คน ภายในตัวเมืองจะเห็นอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่สร้างโดยใช้ผนังอิฐซึ่งเป็นอิฐตากแดด |
|||
21-Oct | Day
one TEHRAN – KASHAN (244 KM.) นำท่านไปชม โบรูเจอร์ดี เฮาส์ (Borujerdi Historical House) บ้านหรือคฤหาสน์หลังนี้ได้ถูกสร้างขึ้นโดยพ่อค้าที่มีชื่อเสียงของเมืองคาชาน ชื่อว่า ฮัจ เซเยส จาฟาร์ นาทานซี เพราะว่าได้ทำการส่งสินค้าออกไปยังเมืองบรูเจอร์ดี บ้านหลังนี้ได้ถูกสร้างเมื่อปี ค.ศ.1875 ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 18 ปี ภายในประกอบไปด้วยสนามหญ้าที่ถูกตกแต่งด้วยต้นไม้ และตัวบ้านมีลักษณะเป็นช่องลมเพื่อให้อากาศได้ถ่ายเทและหมุนเวียน อีกทั้งยังทำการตบแต่งลวดลายฝาผนังด้วยการแกะสลักปูนปั้นและทาสีให้มีความสวยงามตามแบบลักษณะของอิหร่านอีกด้วย นำท่านเที่ยวชมสวนฟิน (Fin Garden) ซึ่งเป็นสวนที่อยู่ติดกับที่ราบเชิงเขาซาโกรซ ถูกสร้างขึ้นในราชวงศ์ซาฟาวิดโดยชาห์ อับบาสที่ 1 ออกแบบให้เป็นสวนแบบเปอร์เซีย ภายในสวนได้ถูกตกแต่งด้วยน้ำพุ ที่เกิดจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งมีความดันจากน้ำใต้ดินสามารถทำให้กำลังน้ำที่ไหลไปตามท่อต่างๆ และไหลไปหล่อเลี้ยงต้นไม้ต่างๆ ภายในสวนด้วย และยังมีวังอันสวยงามที่ถูกสร้างเป็น 2 ชั้นสำหรับเป็นที่ประทับ พร้อมกันนั้นก็มีห้องอาบน้ำและอบไอน้ำด้วย นำท่านชม คาชาน บาซาร์ (Kashan Bazaar) เป็นบาซาร์ที่ตั้งอยู่ในกลางเมืองที่เก่าแก่ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสมัยของพวกเซลจุกและก็ได้ถูกปรับปรุงให้สวยงามดีขึ้นในสมัยของราชวงศ์ซาฟาวิด ซึ่งภายในได้ถูกตกแต่งให้สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงและยังถูกใช้งานมาจนถึงปัจจุบันนี้ ภายในยังถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วน ซึ่งมีทั้งสุเหร่า ที่ฝังศพ ที่เก็บน้ำ ที่อาบน้ำ ที่พักของกองคาราวาน โดยแต่ละส่วนได้ถูกสร้างในระยะเวลาที่ต่างกัน |
KASHAN | TEHRAN –
KASHAN Ehsan Traditional Guesthouse (most recommended) |
local dinner with an IRanian family in KASHAN | |||
22-Oct | Day two KASHAN – ABYANEH – ISFAHAN (270 KM.) | ISFAHAN | Khaju hotel |
ระหว่างทางให้ท่านได้ชมความสวยงามของหมู่บ้านแอบยาเนห์ (Abyaneh Village) ที่มีความสุงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,400 เมตร ซึ่งถูกสร้างอยู่บนเนินเขาคาร์คาส ชมความเป็นอยู่ของชุมชนหมู่บ้านเก่าแก่ ที่ใช้อิฐดินดิบเป็นวัสดุในการสร้างบ้าน และยังคงสภาพเดิมที่เคยเป็นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16-18 เมื่อสมัยก่อนนี้ชาวเมืองนับถือศาสนาโซโรแอสเตอร์ที่เคยเป็นศาสนาโบราณของโลก และต่อมาได้รับเอาศาสนาอิสลามเข้ามาและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2007 นำท่านออกเดินทางไปยังเมืองคาชาน ซึ่งเป็นเมืองที่มีความสวยงามในทะเลทรายหรือที่เรียกว่าโอเอซิสที่อุดมสมบูรณ์ และเต็มไปด้วยต้นไม้ พันธุ์ดอกไม้ต่างๆ | |||
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร | |||
นำท่านออกเดินทางไปยังเมืองอีสฟาฮาน ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดอีสฟาฮาน
ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านใต้ห่างประมาณ 200 กม. เมืองอีสฟาฮาน (Isfahan)
เป็นเมืองที่มั่งคั่งศูนย์กลางการค้าขาย อุตสาหกรรม ศูนย์กลางของวัฒนธรรม
สถาปัตยกรรม ศิลปกรรมวรรณกรรมและวิทยาการ จนถึงขั้นเจริญสูงสุด ในเกือบทุกด้าน
โดยเฉพาะการทอพรมเปอร์เซีย
การประดิษฐ์อักษรภาพอิสลามอันแสนวิจิตรสวยงามแบบเปอร์เซีย
ตั้งอยู่เหนือความสูงขอระดับน้ำทะเลประมาณ 1,600 ม. มีพื้นที่ประมาณ 490
ตร.กม.และประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 3,000,000 คน นำท่านชมสะพานคาจู (Khaju Bridge) ซึ่งถูกสร้างได้สวยงามตามแบบที่ไม่เคยพบเห็นในที่ใดมาก่อน ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1650 โดยกษัตริย์ชาห์ อับบาสที่ 2 ที่มีความกว้าง 12 เมตรและยาวถึง 132 เมตร เพื่อสำหรับข้ามแม่น้ำซายันเดห์ ในขณะเดียวกันก็ใช้เป็นเขื่อนด้วย จากนั้นนำท่านไปชม สะพานอัลลาห์เวอร์ดี ข่าน (Allah-verdi Khan Bridge) หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ซีโอ เซโปล (Sio Sepol) เป็นสะพานที่ถูกสร้างในสมัยกษัตริย์ชาห์ อับบาสที่ 1 ในปี ค.ศ. 1599 และเสร็จเรียบร้อยในปี ค.ศ.1602 ซึ่งถูกสร้างให้เป็นสะพานที่มีความสวยงามสำหรับข้ามแม่น้ำซายันเดห์ มีกว้าง14 เมตร และความยาวถึง 360 เมตร ตลอดสองข้างทางของสะพานจะมีการตบแต่งเป็นทางเดินที่สวยงามและฐานด้านล่างจะถูกสร้างให้เป็นส่วนโค้งถึง 33 โค้ง |
|||
23-Oct | Day
three Esfahan Naghshe Jahan Sq., Emam Mosque, Sheikh Lotfollah Mosque,
Bridges นำท่านชมโมนาร์โจนบาน (Monar Jonban) ซึ่งเป็นที่ถูกสร้างขึ้นคลุมที่ฝังศพของอามู อับโดลลาห์ โซคล่า ถูกสร้างขึ้นในภายหลังในสมัยของราชวงศ์ซาฟาวิด ซึ่งเสาร์ทั้ง 2 ต้นนี้มีความสูงประมาณ 7 เมตรและประมาณอีก 4 เมตร สูงขึ้นไปจากหลังคา และมีชื่อเสียงสามารถทำให้สั่นได้เพราะเกิดจากสัดส่วนของการก่อสร้าง ถ้าเสาต้นหนึ่งสั่นก็จะทำให้เสาอีกต้นหนึ่งสั่นไปด้วย นำท่านชมความสวยงามของพระราชวังฮัสท์ เบเฮสท์ (Hasht Behesht Palace) ซึ่งหมายถึงวังที่เป็นเหมือนสวรรค์ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1660 ในยุคของกษัตริย์ชาห์ สุไลมาน วังนี้ได้ถูกสร้างขึ้นตามแบบเทคโนโลยีที่เหนือกว่าชั้นที่ 2 ของห้องต่างๆ ได้ถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสีของปูนปาสเตอร์พร้อมกับแกะภาพลวดลายซึ่งต่อมาในยุคของราชวงศ์กอจาร์ ฟาทห์ อาลี ชาห์ ได้ใช้เป็นที่พักสำหรับนางสนมที่โปรดปรานมากที่สุด 8 คน ก็เลยได้ชื่อใหม่ว่า พระราชวังแห่งสวรรค์ชั้นแปด (Eight Paradises Palace) จากนั้นนำท่านไปยังชุมชนของชาวอาร์เมเนียน ชมความสวยงามของวิหารแวงค์ (Vank Church) ซึ่งเป็นโบสถ์ของชาวอาร์เมเนียนที่นับถือศาสนาคริสต์ ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1655 ในรูปแบบผสมผสานศิลปะของยุโรปและของชาวเปอร์เซียพร้อมกับชมพิพิธภัณฑ์ของโบสถ์ ซึ่งจะแสดงเกี่ยวกับหนังสือฯ เครื่องแต่งกายประวัติศาสตร์ความเป็นมาและที่สำคัญที่สุดการแกะสลักตัวอักษรบนเส้นผม |
ISFAHAN | ISFAHAN |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร | Khaju hotel | ||
จากนั้นนำท่านไปชมจัตุรัสอิหม่าม (Imam Square)
ซึ่งมีพื้นที่กว้างใหญ่ประมาณแปดหมื่นกว่าตารางเมตร ที่มีความกว้างประมาณ 165
เมตร และมีความยาวประมาณ 510 เมตร ซึ่งมีสถาปนิก อาลี อัคบาร์
เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างจัตุรัสแห่งนี้ เพื่อให้เป็นสถานที่สำคัญในด้านกิจการทหารและเล่นกีฬาโปโล
นอกจากนั้นบริเวณรอบๆ ยังมีการตบแต่งเป็นรูปโดมที่สวยงาม
และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979 ชม พระราชวังอาลี คาปู ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ ชาห์ อับบาสที่ 1 โดยมีการสร้างเพิ่มเติมจนมีทั้งหมด 6 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นได้ถูกตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมหลากหลาย โดยฝีมือจิตรกรชั้นครูในสมัยนั้น พระราชวังฯแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับและรับรองฯ พร้อมกันนี้ชั้นบนสุดยังได้ตบแต่งเป็นห้องสำหรับฟังเพลงและเล่นดนตรี จากนั้นชม มัสยิดชีคห์ ลอทฟอลลาห์ (Sheikh Loftollah Mosque) ซึ่งสร้างโดยชาห์ อับบาสที่ 1 เช่นเดียวกันซึ่งจะใช้เป็นมัสยิดส่วนพระองค์และราชวงศ์เท่านั้น โดยเฉพาะตัวโดมซึ่งถือได้ว่างดงามที่สุดในประเทศ นำท่านชม มัสยิดอิหม่าม (Imam Mosque) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1612 และสำเร็จเรียบร้อยในปี ค.ศ.1638 โดยมียอดโดมสูงประมาณ 30 เมตร และมีเสามินาเรท์ที่มีความสูงประมาณ 40 เมตร อิสระให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย เลือกซื้อของฝากต่างๆ ที่บริเวณจัตุรัสแห่งนี้ |
http://hostelsiniran.com/isfahan/hostels-and-hotels/ibne-sina-hotel-in-isfahan | ||
24-Oct | Day
four ISFAHAN – YAZD
(323 KM.) since Chak Chak, Meybod and Kharanagh is one the way from Isfahan to Yazd, not Yazd to Shiraz, you have to leave to Yazd in the morning and visit Chak, Chak, Meybod and Kharanagh on the way to Yazd and stay overnight in Yazd นำท่านออกเดินไปยังเมืองยาซ์ด (Yazd)ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ มีระยะทางประมาณ 240 กม.ซึ่งเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดยาซ์ด ที่ตั้งอยู่ทางใต้ในเขตทะเลทรายคาวีร์และได้ชื่อว่าเป็น ไข่มุกแห่งทะเลทราย (The Pearl of Desert) |
YAZD | Labe Khandagh traditional hotel |
25-Oct | Day
five นำท่านไปเที่ยวชมความสวยงามของเมืองยาซด์ (Yazd)ในสมัยดั้งเดิมประมาณ 3,000 ปี เคยเป็นส่วนหนึ่งของมีดีสด้วย จนกระทั่งในสมัยของอะคาเมนิดส์ จากประวัติศาสตร์การปกครองที่ผ่านมา มีการส่งกองกำลังเข้ายึดและทำลายบ้านเมืองให้เสียหาย แต่เนื่องจากเมืองยาซ์ดได้ตั้งอยู่ไกลและมีสิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ จึงทำให้รอดพ้นจากความเสียหายและไม่มีอันตรายจากการโจมตีของข้าศึก จึงทำให้เมืองยาซ์ดยังคงไว้ซึ่งสิ่งที่เป็นศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมมาจนถึงทุกวันนี้ในสมัยของอเล็กซานเดอร์มหาราช ได้เคยสร้างเป็นคุกสำหรับขังนักโทษ (Alexander’s Prison)คนสำคัญของพวกเปอร์เซียไว้ที่นี่ และต่อมาภายหลังได้กลายเป็นเมืองที่มีคนอยู่อาศัยอย่างถาวร ตัวเมืองและสิ่งก่อสร้างที่เหมาะสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยในทะเลทราย โดยมีการสร้างห้องใต้ดินเพื่อหลบลมร้อนซึ่งได้ผลดีและเหมาะสมกว่าใช้เครื่องปรับอากาศ |
YAZD | Labe Khandagh traditional hotel |
นำท่านไปชมหอคอยแห่งความเงียบ (Silent Tower)ที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเลทรายและภูเขาทางด้านใต้ของเมืองยาซ์ด
ซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเปอร์เซียโบราณนับถือพระเจ้าอะฮูรา
มาสดาในศาสนาโซโรแอสเตียน เพราะมีความเชื่อว่าคนที่ตายไปแล้วไม่ควรที่จะนำไปฝัง
แต่ต้องนำศพมายังสถานที่แห่งนี้ เพื่อให้พระทำพิธีและนำศพนั้นไปยังหอคอยเพื่อให้นกแร้งได้จิกกินเนื้อจนเหลือแต่กระดูกที่สะอาด
แล้วจึงนำไปฝังหรือเก็บใส่ในสุสานที่ได้จัดเตรียมไว้ นำท่านไปชมอนุสรณ์สถานอาเมียร์เช็คห์แมก(AmirChakhmaq Monument)ซึ่งถูกสร้างขึ้นในบริเวณที่เป็นจัตุรัสอยู่กลางเมือง ถูกสร้างขึ้นโดยจาดิน อัล อาเมียร์เช็คห์แมก ในขณะที่ท่านเป็นผู้ว่าการของยาซ์ดในสมัยของราชวงศ์ตีมูร์ สถานที่แห่งนี้มีรูปแบบและการออกแบบที่เข้ากับความสวยงามซึ่งมีน้ำพุอยู่ตรงกลาง และยังมีมัสยิดที่มีชื่อเดียวกันถูกสร้างอย่างสวยงาม นอกจากนั้นยังมีที่พักของคนเดินทางคาราวานซาราย มีที่อาบน้ำและมีน้ำเย็นสำหรับดื่ม เมื่อเวลาพลบค่ำก็จะมีแสงสีส้มที่สวยงามที่ออกมาจากส่วนโค้งข้างในมัสยิดซึ่งทำให้เป็นภาพที่น่าตื่นเต้น |
|||
นำท่านไปชมมัสยิด จาเม (Jame’s Mosque)ซึ่งถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยกษัตริย์ของราชวงศ์ อัล อี บูเยห์ และได้ถูกขยายได้ใหญ่ขึ้นในปี ค.ศ.1324-1365 และยังมีเสามินาเรท์คู่ของสุเหร่าที่สูงที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นในอิหร่าน ภายในยังถูกตกแต่งให้สวยงามในสถาปัตยกรรมของเปอร์เซียและสถานที่แห่งนี้ยังคงถูกใช้ประกอบพิธีมาจนทุกวันนี้ นำท่านไปชมวิหารของลัทธิบูชาไฟ(Fire Temple)ของศาสนาโซโรแอสเตอร์ ซึ่งในอดีตได้เคยเป็นศาสนาประจำชาติ ก่อนที่ศาสนาอิสลามจะเข้ามา ในวิหารจะมีกระถางไฟที่ติดลุกโชนอยู่ตลอดเวลาโดยจะมีพระคอยดูแลฯ และทุกๆ ปีจะมีการเฉลิมฉลองกันที่ในวิหารแห่งนี้ | |||
26-Oct | Day
six YAZD – SHIRAZ leaving Yazd towards shiraz at 8:00, so you will have enough time to visit Persepolis and Necropolis on the way to Shiraz. นำท่านออกเดินไปยังเมืองมาร์พดาสท์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองชีราซไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 60 กม. เป็นที่ตั้งของนครเปอร์เซโพลิส (Persepolis)ในอดีตสถานที่นี้ได้เป็นเมืองหลวง และศูนย์กลางที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเปอร์เซีย และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีค.ศ.1979 ให้ท่านได้ชมโบราณสถานที่สร้างโดยกษัตริย์ดาริอุสมหาราชก่อนคริสตกาลประมาณ 520 ปี จนถึงรัชสมัยของดาริอุสที่ 3 ซึ่งได้ถูกก่อสร้างปรับปรุงต่อเติมมาตลอดระยะเวลา 200 ปี นครแห่งนี้เป็นป้อมปราการและนครศูนย์กลางที่ประกอบด้วยราชวังต่างๆ ห้องโถงใหญ่ ที่เก็บทรัพย์สมบัติ ที่เก็บสิ่งของมีค่าต่างๆ ที่มีความสำคัญที่สุด แต่ในปี ค.ศ. 330 ก่อนคริสตกาล ได้ถูกกองทัพของอเล็กซานเดอร์มหาราช บุกเข้าทำลายเผาผลาญจนพินาศไป เหลือแต่ซากปรักหักพังไว้ให้ชม |
SHIRAZ | Setaregan hotel |
จากนั้นนำท่านไปเที่ยวชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสุสานที่ฝังศพของกษัตริย์ 4 องค์ เนโครโพลิส(Necropolis)ให้ท่านได้ชมสถาปัตยกรรมที่เด่นในการแกะสลักบนผาหินและที่สำคัญเป็นสุสานของษัตริย์ ดาริอุสที่ 1 และกษัตริย์องค์ต่อๆมาอีก 3 พระองค์ซึ่งเคยปกครองนครเปอร์เซโพลิสมาก่อน | |||
27-Oct | Day seven SHIRAZ After breakfast, will start your full day tour of Shiraz. At first, you will visit Eram Garden with its aromatic myrtles, beautiful flowers, fruit trees, and towering cypress (one of which is said to be 3,000 years old). You will also visit Karim Khan Citadel. Built during the Zand Dynasty. | SHIRAZ | Setaregan hotel |
นำท่านไปชมสุเหร่าสีชมพู
(Pink Mosque)หรือมีชื่อว่าNasir al MolkMosque
ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสุเหร่าที่มีความสวยงามและสำคัญที่สุดของอิหร่านตอนใต้
เอกลักษณ์ของสุเหร่านี้ คือ ส่วนต่างๆจะถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องสีชมพู
ถูกสร้างขึ้นโดยมีร์ซา ฮาซาน อลี นาซีร์อัลมอล์ค ในปี ค.ศ.1876
และสำเร็จเรียบร้อยในปี ค.ศ.1887 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านไปชมที่ฝังศพของฮาเฟซ (Hafez Tomb) ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานที่ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1936 ให้กับฮ่าเฟซซึ่งเป็นกวีเอกที่มีชื่อเสียงเกิดที่เมืองชีราซในปีค.ศ.1324 ทีความสามารถแต่งบทกวีที่ได้ความไพเราะที่ใช้คำง่ายๆและมีความเข้าในวิถีชีวิตของผู้คน ซึ่งบทกวีเป็นคติสอนคนให้เป็นคนดี นำท่านไปชมสวนอีแรม (Eram Garden/ Garden of Paradise)สวนที่สวยงามราวกับสวนสวรรค์ เป็นสวนที่ตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับและไม้ยืนต้นหลากหลายชนิด เป็นการจัดสวนแบบเปอร์เซียที่งดงามยิ่ง ภายในสวนยังมีตำหนักเก่าของผู้ปกครองเมืองชีราซราชวงศ์กอจาร์(Qajars) สร้างโดยข่านโมฮัมมัดอาลี เมื่อต้นศตวรรษที่ 18 ซึ่งทิ้งร่องรอยแห่งความสวยงามไว้จนกระทั่งปัจจุบัน นำท่านไปชมป้อมคาริม ข่าน (Karim Khan Fort)ที่คาริม ข่านได้สั่งให้สร้างที่พักอาศัยและเป็นศูนย์กลางการบริหารงานขึ้นที่ใจกลางเมือง ที่พักอาศัยนี้ถูกออกแบบมีลักษณะเหมือนป้อม มีพื้นที่ประมาณ 12,800 ตรม. มีกำแพงล้อมรอบทั้ง 4 ด้านภายในยังตกแต่งด้วยต้นไม้เพื่อให้มีความร่มรื่น ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย เลือกซื้อของฝากที่ตลาดวากิลบาซาร์ (Vakil Bazaar)เป็นตลาดบาซาร์ที่ตั้งอยู่ในบริเวณดาร์บ อี ชาห์ซาเดห์ ซึ่งอยู่ใกล้กับมัสยิดวาคิล ภายในจะมีสินค้าหลายอย่างรวมทั้งเครื่องเทศต่างๆ มากมาย ฯ |
|||
28-Oct | Day 8 SHIRAZ - TEHRAN This morning we take you to the airport in Shiraz for your included flight to Tehran | TEHRAN | SHIRAZ - TEHRAN |
วันเสาร์ ออกจากโรงแรมไปสนามบินเวลา 8.30 น. ที่นั่นก้อยังมีที่ Shopping กันอีก ถึงสนามบิน Mehrabad (THR) เป็นสนามบินสำหรับเที่ยวบินในประเทศและอยู่ในเมืองเตหะราน มีไกด์มารอรับแล้วพาไปขึ้นรถตู้ พาเที่ยว มาถึงก้อเที่ยงแล้ว ข้ามมื้อเที่ยงไม่กินกันไป 12.00 - 13.00 - แวะถ่ายรูป Azadi tower อยู่หน้าสนามบินเลยทางผ่าน 14.00 - 15.00 - พิพิธภัณฑ์เครื่องเพชรพลอย (National Jewels Museum) สถานที่แห่งนี้ถูกดูแลรักษาและการบริหารงานอย่างเข้มงวดโดยธนาคารชาติของอิหร่าน ภายในเต็มไปด้วยเครื่องเงินทองและเครื่องประดับอัญมณีเพชรพลอยไข่มุกอันล้ำค่ามากมายเกินกว่าจะประมาณราคา ซึ่งมีของที่สำคัญต่างๆ หลายอย่าง เช่น เพชรสีชมพู (Darya e Noor/Sea of Light) เป็นเพชรสีชมพูที่เม็ดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็น 1 ใน 5 ของโลก มีน้ำหนักถึง 182 การัต ลูกโลก (Global of Jewel) ที่ประดับด้วยอัญมณีเพชรนิลจินดา 51,366 ชิ้น ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 18,200 การัต พระราชบัลลังก์ฯ (Naderi Shah Throne) เป็นของกษัตริย์นาเดรี ซาห์ ที่ทรงสั่งให้สร้างมีความสูง 2.25 เมตร ประดับด้วยเพชรนิลจินดามากกว่า 26,000 ชิ้น มงกุฎเกียนี (Kiani Crown) ซึ่งทำขึ้นในราชวงศ์ของฟาทห์ อาลี ซาฮ์ ที่ขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ.1797-1834 ทำด้วยไข่มุกและอัญมณีที่มีค่าอีกมากมายรวมแล้วมีน้ำหนัก 4.5 กก. และมงกุฎปาห์ ลาวี (Pahlavi Crown) ถูกทำขึ้นในปี ค.ศ.1925 ตอนที่ขึ้นครองราชย์และนอกจากนั้นยังมี เครื่องประดับต่างๆ อีกมากมายที่สุดจะประเมินค่าฯ 16.00 - 18.00 - Tehran Nature Bridge มันก้อไม่มีอะไรมาก พึ่งสร้างมาได้ 4 ปี แล้วก้อหาข้าวกินที่นั่นสั่งพิซซ่ามาทานกะไก่ทอด 19.00 เข้าโรงแรมที่พัก PAsian enghelab Hotel ได้นอนห้องใหญ่ ห้องละ 2 คน จัดให้คนละชั้นเลยห้องพักแบบเดียวกัน |
Parsian Enghelab hotel | ||
Tonight’s dinner in a local restaurant offers a chance to experience daily Iranian life in Tehran. At night we go to Tehran Nature Bridge where Tehran young couples spend time together. | |||
29-Oct | Day 9 TEHRAN 09.00 ชมพิพิธภัณฑ์พรม ค่าเข้า 150 บาท ที่นี่มีพรมเก่าสวยๆ ให้ดูมากมาย พิพิธภัณฑ์พรม (Carpet Museum) ซึ่งตั้งอยู่กลางกรุงเตหะราน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีการก่อสร้างรูปทรงทันสมัยและมีชื่อเสียง ภายในอาคารได้ถูกตกแต่งแบบสมัยใหม่และเป็นระเบียบ ที่แห่งนี้ได้ถูกเก็บสะสมพรมจากที่ต่างๆ ในอิหร่านนำมารวมกันไว้ที่นี่ ซึ่งมีทั้งพรมผืนเล็กและใหญ่สุดต่างๆกันไป และที่น่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุดก็คือลวดลายและเลียนแบบพรมผืนแรกของโลกที่ขุดค้นพบโดยนักโบราณคดีชาวรัสเซียที่เมืองพาซิลิก (Pazyryk) ซึ่งพรมนี้ได้ใช้ห่อศพอยู่ และต่อมาจึงได้ตั้งชื่อว่า พรมพาซิลิก จากการตรวจสอบอายุโดยใช้รังสี พบว่าพรมผืนนี้มีอายุเก่าแก่และมากกว่า 2,000 ปีมาแล้ว และเป็นการถักทอจากลวดลายของชาวเปอร์เซีย จากหลักฐานดังกล่าวได้บ่งให้เห็นว่ามีการทอพรมในอิหร่านไม่ต่ำกว่า 2500 ปีมาแล้ว 10.30 พระราชวังโกเลสตาน (Golestan Palace) หรือพระราชวังสวนกุหลาบ เป็นพระราชวังที่สร้างอยู่กลางเมือง เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าประมาณ 400 กว่าปี ประกอบไปด้วยอาคารต่างๆ 12 อาคาร ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ราชวงศ์ซาฟาวิดโดยกษัตริย์ทาห์มาส์พ ต่อมาได้ถูกปรับปรุงโดยกษัตริย์คาริม ข่าน ซานด์ และกษัตริย์อะกา โมฮัมต์ข่าน กอจาร์ ซึ่งได้เลือกเตหะรานเป็นเมืองหลวง จึงได้สร้างต่อเติมให้เป็นพระราชวังที่มีความสวยงามมาจนถึงทุกวันนี้ ค่าเข้าวัง 380 บาท 12.00 Lunch at ร้านอาหารเคบับสั่งไก่ แกะ และปลาตามเดิม 13.00 Walk into Tehran Bazaar ส่วนใหญ่จะขายสินค้าจากเมืองจีน เราแวะชมสินค้าพื้นเมือง ได้ซื้อผ้าปูโต๊ะแบบพิมพ์ลายมาในราคา 100 บาท คนอื่นมีซื้อถั่ว อินทผาลัม ซึ่งแอบชิมไปหลายเม็ดระหว่างรอ 15.00 เยี่ยมบ้านเศรษฐีที่สวยงามในเมือง หน้าบ้านเป็นตึกแถว ข้างในสวยงามมาก เจ้าของบ้านเป็นสถาปนิกตกแต่งบ้านเอง แล้วมีห้องแสดงโชว์สิ่งของ ค่าเข้า 100 บาท อันนี้ถูกสุด 16.00 Go to Imam Khomeini International Airport (IKA) AirAsia - 00.05 น. Tehran to BKK by AirAsia ************************************* TG - 20.45 น. Tehran to BKK by TG |
TEHRAN | นั่งรถส่วนตัว |
30-Oct | AirAsia 12.05 Transit at KL - DMK 17.05 Arrival to BKK ************************* TG 06.40 Arrival to BKK เที่ยวที่เตหะรานเสร็จก่อนกำหนดเลยต้องมาถึงสนามบินตั้งแต่ 5 โมงเย็น สนามบินไม่ใหญ่มาก รอขึ้นเครื่องเกือบเที่ยงคืน ดูจอไม่มีชื่อ Airasia ซักทีชักกังวล อุตส่าห์มาถึงไวแต่ไม่รู้ว่ามันจะแถวไหน เข้ามาขึ้นเครื่องอย่างสบายๆ เป็นการเดินทาง ที่ราบรื่นมาก ที่นั่งว่างมากๆ คนไม่เยอะ เลยนอนกันคนละ 3 ที่ นอนยาวเลยชั้น อย่างกะเสียตั๋วแพงมาเที่ยว Transit ที่ KLIA2 ที่มาเลย์ คราวนี้เดินไม่เยอะมาก แวะทานน้ำกันพักเหนื่อย ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วไปรอที่ Gate Q15 เดินไกลพอควร ที่นี่ให้ใช้ WIFI ฟรี 24 ชม. เสร็จเราความแรงดีทีเดียว Bye Bye มาเลย์มาถึงเมืองไทย 5 โมงเย็น ต้องนั่งรถบัสเข้ามาที่ ตม. รับกระเป๋าไวมากเลย พ่อมารอรับแม่ที่สนามบินแล้ว เราเรียก Grab รวดเร็วมาก |
on the fly | BKK |
ความคิดเห็น