Microsoft Envision Summit 2019
Microsoft Envision Summit 2019
วันที่ : 12 พฤศจิกายน 2019
เวลา : 8.00 – 16.00 น.
สถานที่ : Bangkok Convention Hall, Central World ชั้น 22
เราทราบกันดีว่า AI เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ซึ่งในงานนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่ผู้เข้าร่วมจะได้สัมผัสถึงเรื่องราวของ AI ว่าจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและธุรกิจได้อย่างไร รวมถึงกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นจริงในประเทศไทยจากองค์กรที่ผ่านประสบการณ์การทำ Digital Transformation และ AI Adoption อย่างไรก็ตามงานครั้งนี้จะเป็นโอกาสอันดีอย่างยิ่งที่ท่านจะได้พบกับผู้ให้บริการหรือผู้เชี่ยวชาญในโซลูชันต่างๆ ที่สามารถให้คำแนะนำในปัญหาของท่านได้
นอกจากจะได้ฟังเรื่องราว AI กันอย่างจุใจในช่วงเช้าแล้ว ในช่วงหัวข้อย่อยยามบ่าย ท่านยังจะสามารถเลือกเข้าฟังหัวข้อกันได้ตามความสนใจ อาทิเช่น ประโยชน์ของการประยุกต์ใช้ AI กับธุรกิจ แนวทางการปรับตัวของธุรกิจ SME ให้ก้าวทันเทคโนโลยี อัปเดตเทคโนโลยีใหม่และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วย Office 365 รวมถึงเรื่องความมั่นคงปลอดภัยและ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 2562 ไม่เพียงเท่านั้นสำหรับชาวนักพัฒนาตัวจริงยังสามารถสนุกไปกับเรื่องราวของเทคโนโลยีเชิงลึกของ Microsoft ได้เช่นกัน
กำหนดการ
ช่วงเช้า
08.00 น. ลงทะเบียน
08.45 น. วิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยด้วยดิจิทัล
จากปัญญาประดิษฐ์ สู่การประดิษฐ์ปัญญา
09.30 น. Keynote: AI is a Game Changer
คุณธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด
10.30 น. CEO Talk: “Past, Present, Future” การเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลขององค์กรไทย
โดย CEO องค์กรชั้นนำ
11.30 น. เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงโลก
คุณอราคิน รักษ์จิตตาโภค
หัวหน้าฝ่ายขับเคลื่อนนวัตกรรม
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (จำกัด)
12.10 น. รับประทานอาหารกลางวัน พร้อมชมบูธเทคโนโลยี
ช่วงบ่าย (6 ห้องย่อย)
Track 1 : Modernize Your Business with AI Track
Track 2 : Data and AI
Track 3 : Business for Better
Track 4 : Office 365 Fan Meet
Track 5 : เตรียมองค์กรให้พร้อม กับ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 2562 และ พรบ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
Track 6 : Developer Meetup
พบกับงานยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีของ Microsoft ที่จะพาท่านไปพบกับเทรนด์ทางด้านธุรกิจ โซลูชันสุดไฮเทค และเทคโนลียีล้ำสมัยต่างๆ มากมาย พร้อมรับฟังวิสัยทัศน์จากผู้บริหารระดับสูงขององค์กรชั้นนำ พาร์ทเนอร์ธุรกิจ รวมถึงกูรูในสายงานต่าง ที่จะมาแชร์ประสบการณ์การทำงานในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพในงาน Microsoft Envision Summit 2019
จากปัญญาประดิษฐ์ สู่การประดิษฐ์ปัญญา
คุณธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด
โดย CEO องค์กรชั้นนำ
คุณอราคิน รักษ์จิตตาโภค
หัวหน้าฝ่ายขับเคลื่อนนวัตกรรม
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (จำกัด)
พบกับงานยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีของ Microsoft ที่จะพาท่านไปพบกับเทรนด์ทางด้านธุรกิจ โซลูชันสุดไฮเทค และเทคโนลียีล้ำสมัยต่างๆ มากมาย พร้อมรับฟังวิสัยทัศน์จากผู้บริหารระดับสูงขององค์กรชั้นนำ พาร์ทเนอร์ธุรกิจ รวมถึงกูรูในสายงานต่าง ที่จะมาแชร์ประสบการณ์การทำงานในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพในงาน Microsoft Envision Summit 2019
จะทำอย่างไรให้ธุรกิจของคุณเดินหน้าต่ออย่างมีประสิทธิภาพ?
ในงานนี้ Microsoft ได้จัด Track เสวนากลุ่มย่อยในช่วงบ่าย 6 Tracks รวมถึง Track ภายใต้หัวข้อ Business for Better ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ รวมถึงผู้บริหารระดับสูงขององค์กรชั้นนำต่างๆ จะมาแชร์ประสบการณ์ในการแก้ Pain Points ต่างๆ ของธุรกิจ เพื่อนำธุรกิจของคุณไปสู่แนวหน้า โดย Microsoft อ้างอิงจากงานวิจัยพบว่าธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางมี pain points 3 เรื่องหลักๆ ที่ต้องการหา Solutions คือ
- การลดต้นทุนในการดำเนินงาน
- การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน
- การเพิ่มการเติบโตและผลกำไร
ซึ่งรวมถึง Pain Points ที่เกี่ยวข้องกับไอที คือ Cloud , Mobility ,Collaboration และ Security ซึ่งเทคโนโลยีจะสามารถเข้ามาช่วยแก้ไข Pain Points เหล่านี้ เพื่อพัฒนาให้ธุรกิจดีขึ้นได้ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ด้านคือ
- การทำให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น (Better productivity)
- การทำให้ระบบของธุรกิจดีขึ้น (Better processes)
- การเพิ่มขีดความสามารถของโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้แบบก้าวกระโดด (Better scalability)
- ความปลอดภัยที่ดีขึ้น (Better security)
ในงาน จึงมีการแบ่ง Session ที่จะให้ผู้ร่วมงาน ได้เรียนรู้ในทุกองค์ประกอบสำคัญของธุรกิจ โดยมีรายละเอียดของ Session ภายใต้ Business for Better track ต่างๆ ดังนี้
การทรานส์ฟอร์มองค์กรด้วย Data & Analytics
โดย คุณอธิคม กาญจนวิภู รองประธานฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท เฌอร่า จำกัด (มหาชน)
พบกับกรณีศึกษาการ Transform workplace ที่เปลี่ยนการทำงานแบบเดิมๆ มาเป็นการทำงานในยุคดิจิทัล รวมถึงการนำข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลมาใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่องค์กรต้องให้ความสำคัญอย่างมาก
มาฟังเรื่อง Shera มีการจัดการหลายเรื่อง ด้าน customers พยายามเข้าใจลูกค้าให้มากขึ้น
มีการใช้ office365 มาสร้าง productivity ทำบน cloud base share ข้อมูลระหว่างกัน
พนักงานสามารถทำงานที่ไหนก้อได้ เนื่องจากบริษัทมีสาขาหลายปท
ไม่ต้องบินไปประชุมใช้ ์Microsoft Team ในการประชุม
แล้วเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลละคะ ป้องกันข้อมูลรั่วไหล
จะมีการ authen ก่อน control สิทธิ share ด้วย onedrive
มีใส่ password มีการส่งเสริมให้ใช้ Digital workforce ใช้ BOT บอท ในการรับ claim
Sale ทำงานได้สะดวกมากขึ้นตลอดเวลา
ย้าย infra มาที่ cloud หมดเลย ช่วยเรื่อง agility ในองค์กร
Deploy window hello ซึ่งดูง่ายแบบลดเวลาทำงาน
เดินมาถึงนั่ง login ปั๊บไม่ต้องกรอก password
เรื่อง data ทำไงให้มีข้อมูล insight
Data analytics from board room To workers
เอา power bi มาทำ data analytic
ส่วนของ system ไม่ยากความช้าไม่ใช่ประเด็นสามารถเพิ่ม resource ได้ แต่เรื่อง people ยากกว่า
Data เป็น agenda ขององค์กร
เวลา management ถาม sale สามารถตอบได้ทันทีเดี๋ยวนั้นโดยการบิดข้อมูลจาก dashboard เลย
สามารถ monitor dashboard ตอบคำถามได้เลย user เก่งขึ้น
Business outcome ยกตย ระยะเวลา claim ลูกค้าลดไป 27% ต่อไปจะเอาเครื่องมือ Rpa มาใช้เป็น power API
ลูกค้าสนใจช่องทาง digital มากขึ้น ติดต่อมามากขึ้น surprise มากขึ้น
ไฟล์ของพนักงานมีเก็บข้อมูลใน cloud เยอะมาก ถ้าย้ายเครื่องไม่ต้องเสียเวลาย้ายข้อมูล
ลดเวลาในการย้ายเครื่อง มีความคล่องตัวมากขึ้น
เปิดสูตรลับ ปรับองค์กรให้โตแบบก้าวกระโดด
โดยคุณมารุต CEO จาก Class Café
พบกับคุณมารุต เจ้าของธุรกิจ Start up ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะมาเล่าแนวคิดและสูตรลับในการทำให้ธุรกิจไม่เพียงแค่อยู่รอด แต่เติบโตแบบก้าวกระโดด
ทางร้านใช้กาแฟบลาซิลนำเข้า สามารถขายได้ในราคาแก้วละ 70 บาท
การใช้ sharepoint collaborate สูงขึ้นมากๆ
การใช้ sharepoint collaborate สูงขึ้นมากๆ
Windows hello ใช้เทคโน detect หน้าตาในการเข้าใช้งาน pc
Office365 สามารถทำ 3d ได้เลย ผ่าน ppt
ทำงานแบบ realtime ได้เลย ใช้ ms whiteboard กับ ms pen
Surface pen เขียนเป็น eng ไทย เลือก sticker มาแปะเพิ่มลูกเล่น เสมือนการทำงานบนกระดาษ แล้ว post ลงที่ ms team ได้เลย
เตรียมความพร้อมรับมือกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับธุรกิจ
คุณรู้หรือไม่ว่า ในเดือนพฤษภาคม ปี 2563 กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะมีผลบังคับใช้กับธุรกิจทุกขนาดที่ต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า พบกับ อาจารย์ ปริญญา หอมเอนก ประธานกรรมการบริหาร ACIS Professional Center เพื่อรับฟังเรื่องราวการเตรียมพร้อมรับมือ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ธุรกิจของท่านวางแผนได้อย่างถูกต้อง
การเอา AI มาใช้ทำประโยชน์ อะไรได้บ้าง ช่วยการแพทย์ ลดการโกง เพิ่มงาน
ช่วยขายทางการเกษตร
การผลิตข้าวเพื่อการส่งออก ต้องควบคุมคุณภาพ
ต้นทุนสูง การจ้างจนท ใช้เวลานานในการตรวจ
ตัวอย่างการตรวจสอบเมล็ดข้าว จากวิดิโอ โครงการ easy
rice
แหล่งกำเนิดฝุ่นใน กทม มีหลายแหล่ง
มลพิษที่เกิดขึ้น โครงดารวิจัยฝุ่น Ai
for earth
ได้ model ให้ภาครัฐเอาไปใช้ประกอบการตัดสินใจ
แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
คนพิการ เป็นครูสอนบช คอมพิวเตอร์ด้าน บช
เรียนจบโครงการจาก MS ได้ไปทำงาน
สร้างคน ให้คนอื่นได้รับโอกาสเช่นเดียวกัน
การนำเสนอใช้รูปแบบวิดิโอ แล้วสรุปด้วยคนประมาณ
2 นาที
Pharmasafe เป็น Ai ที่บอกว่ายาที่เราทานคืออะไร
โดยการถ่ายรูป
Ai is a game changer
นำเสนอ 4 เรื่องเกี่ยวกับ AI ให้เราเข้าใจ
กล่าวเปืดงานโดยปลัด DE เป็นผญ
อ่ะ วิสัยทัศน์ของภาครัฐในการขับเคลื่อน คนไทยเป็นสังคนดิจิตัล รัฐผลักดันเต็มที่
ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
เรื่องของ security กับ confident
เป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้คนจะมาใช้ digital ทุกภาคส่วน
ภูมิทัศน์ดิจิทัลของไทยในระยะเวลา 20 ปี
โครงการเน็ตประชารัฐ ทุกหมู่บ้าน
Tele health care สร้างผู้นำชุมชน ขายของผ่าน internet
สุขภาพ
International gateway
กม ที่เกี่ยวข้องได้สำเร็จแล้ว พรบ การรองรับ digital
ID
พรบ ภัย cyber กับ พรบ
คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
จะเริ่มใช้ พค 63 ทุกคนจะผวามาก
บังคับใช้กับทุกคน
พัฒนาเมิองอัจจฉริยะ smart cities เมิองเดิมที่ต้องการปรับปรุง การสร้างเมืองใหม่ ตย ปท จีน
Digital valley landscape เอาโจทย์ของ ปท มาเป็น
case lab อยุ่ที่ศรีราชา
5G เลือกทำ EEC test base จากทั่วโลก robotic
drone การผลิต health care
การทำ Tc scan/ mri บนรถพยาบาลเลย
ปัญหา online เพิ่มมากขึ้นมาก
การฉ้อฉล e commerce การขายยาปลอม
Coding .org พัฒนาเด็กเพิ่ม skill ตั้งแต่ประถม ใช้ drone ในการพ่นยา iot ไม่ต้องรอ 5g
Iot ปท ควรใช้ ปย ให้มากกว่านี้
ข้อมูลภาครัฐต้องใช้ ปย มากกว่านี้แล้ว open ข้อมูลให้เอกชน
โครงการ cloud ภาครัฐ เอา data analytic มาใช้
Big data institute ภาครัฐ เช่น ใช้บัตรประชาชน เข้า รพ. ได้เลย
Anti fake news center
Keynote: AI is a Game Changer
คุณธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด
ไมโครซอฟท์ได้แบ่งแนวทางการประยุกต์ใช้ AI เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจออกเป็น 4 ด้านสำคัญ ได้แก่
เราจะ engage กับ partner เรายังไง data is a new currency
- Engage – เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ทั้งภายในและภายนอกองค์กร
- Innovate – สร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการทำธุรกิจ
- Work – พลิกรูปแบบการทำงาน เพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่า
- Solve – เอาชนะอุปสรรค แก้ไขปัญหาในสังคม
“ในด้านของการ Engage หรือเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เทคโนโลยีไม่ได้เข้าไปมีบทบาทแต่ในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงการตลาดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของการสื่อสารและประสานงานในทุกระดับ” นายธนวัฒน์เสริม “เช่นในกรณีของ Microsoft Teams แอปพลิเคชันที่เป็นศูนย์กลางสำหรับการทำงานเป็นทีมในยุคดิจิทัล ซึ่งยังคงมีการเพิ่มคุณสมบัติด้าน AI ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่นล่าสุดกับ Content Camera ที่ช่วยให้การประชุมผ่านวิดีโอยิ่งสะดวกและเป็นธรรมชาติมากขึ้น สามารถแยกแยะลายเส้นและตัวอักษรที่เขียนบนกระดานไวท์บอร์ดด้านหลังผู้พรีเซนต์หรือเข้าร่วมประชุม เพื่อดึงออกมาเป็นภาพซ้อนบนหน้าจอให้อ่านง่าย ไม่ต้องกังวลว่าผู้เขียนกระดานจะขยับตัวมาบดบังเนื้อหาบนกระดาน หรือ Live Captions ซึ่งจะเปิดให้บริการในภาษาอังกฤษในช่วงสิ้นปีนี้ เพื่อถ่ายทอดเสียงพูดของผู้เข้าประชุมออกมาเป็นข้อความบรรยายบนหน้าจอแบบสดๆ”
ไมโครซอฟท์ได้เชิญพันธมิตรอย่าง เซอร์ทิส (Sertis) บริษัทให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลโซลูชั่นชั้นนำ ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบ AI และการจัดการข้อมูล มาร่วมแชร์ประสบการณ์และเรื่องราวการนำแพลตฟอร์ม AI ของไมโครซอฟท์มาตอบโจทย์ทางธุรกิจในด้าน Innovate และ Work ทั้งในอุตสาหกรรมอาหารและพลังงานนายธัชกรณ์ วชิรมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเซอร์ทิส กล่าวว่า “จุดมุ่งหมายสูงสุดของเซอร์ทิส คือการสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ชาญฉลาดอย่างแท้จริง เพื่อขับเคลื่อนและยกระดับการทำงานของลูกค้า และไมโครซอฟท์ก็นับเป็นพันธมิตรรายสำคัญของเรา ด้วยแพลตฟอร์มระดับโลกทั้งในด้าน AI คลาวด์ และข้อมูล ที่พร้อมรองรับการพัฒนาต่อยอดให้ตอบโจทย์ของภาคธุรกิจอย่างสมบูรณ์ ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างความสำเร็จในการพัฒนาโซลูชั่น AI ที่ช่วยให้ลูกค้าของเราอย่างซีพีเอฟและ PTT ExpresSo สามารถเติมเต็มความต้องการที่แตกต่างกันไปในอุตสาหกรรมของตนเอง เสริมศักยภาพการทำงานในปัจจุบัน และเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ในอนาคต”
ไมโครซอฟท์ได้เชิญพันธมิตรอย่าง เซอร์ทิส (Sertis) บริษัทให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลโซลูชั่นชั้นนำ ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบ AI และการจัดการข้อมูล มาร่วมแชร์ประสบการณ์และเรื่องราวการนำแพลตฟอร์ม AI ของไมโครซอฟท์มาตอบโจทย์ทางธุรกิจในด้าน Innovate และ Work ทั้งในอุตสาหกรรมอาหารและพลังงานนายธัชกรณ์ วชิรมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเซอร์ทิส กล่าวว่า “จุดมุ่งหมายสูงสุดของเซอร์ทิส คือการสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ชาญฉลาดอย่างแท้จริง เพื่อขับเคลื่อนและยกระดับการทำงานของลูกค้า และไมโครซอฟท์ก็นับเป็นพันธมิตรรายสำคัญของเรา ด้วยแพลตฟอร์มระดับโลกทั้งในด้าน AI คลาวด์ และข้อมูล ที่พร้อมรองรับการพัฒนาต่อยอดให้ตอบโจทย์ของภาคธุรกิจอย่างสมบูรณ์ ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างความสำเร็จในการพัฒนาโซลูชั่น AI ที่ช่วยให้ลูกค้าของเราอย่างซีพีเอฟและ PTT ExpresSo สามารถเติมเต็มความต้องการที่แตกต่างกันไปในอุตสาหกรรมของตนเอง เสริมศักยภาพการทำงานในปัจจุบัน และเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ในอนาคต”
นายเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจอาหารสัตว์บก ซีพีเอฟ ได้กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างซีพีเอฟและเซอร์ทิสบนแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ว่า “ซีพีเอฟได้ร่วมมือกับเซอร์ทิสในการริเริ่มและพัฒนาโครงการ CPF AI FarmLab Powered by Sertis เพื่อนำนวัตกรรม AI และ Computer Vision (การแยกแยะและวิเคราะห์ข้อมูลจากภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว) มาพัฒนาระบบบริหารและจัดการฟาร์ม โดยเริ่มต้นจากระบบป้องกันโรคและติดตามการปฏิบัติงานของพนักงานในฟาร์มปศุสัตว์ ในรูปของการวิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อแจ้งเตือนกรณีมีพนักงานเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามที่ไม่ได้รับอนุญาต พร้อมเก็บสถิติย้อนหลังโดยละเอียด เปิดโอกาสให้ฝ่ายบริหารมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจเพิ่มขึ้น และตอบสนองต่อเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้ทันที เพื่อลดความเสี่ยงที่สัตว์ในฟาร์มจะได้รับเชื้อจากแหล่งภายนอก”
ส่วนนายธันว์ เหลียงไพบูลย์ Venture Lead จาก PTT ExpresSo ทีมนักพัฒนาเทคโนโลยีจาก ปตท. ที่มุ่งขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงเพื่อผู้คนและสังคม เสริมอีกว่า “โครงการ Smart Energy Platform by ExpresSo x Sertis ถือกำเนิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและ AI มาประยุกต์ใช้กับระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา เพื่อให้สามารถทราบถึงกำลังการผลิตและการใช้งานพลังงานไฟฟ้าในอาคารต่างๆ ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานเพื่อคาดการณ์แนวโน้มความต้องการในอนาคต นอกจากนี้ แพลตฟอร์มของเรายังใช้บล็อกเชนมาเป็นพื้นฐานของระบบการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าที่เหลือใช้จากระบบโซลาร์รูฟท็อป ให้อาคารอื่นๆ ได้นำไปใช้งานตามความต้องการอีกด้วย”
ส่วนนายธันว์ เหลียงไพบูลย์ Venture Lead จาก PTT ExpresSo ทีมนักพัฒนาเทคโนโลยีจาก ปตท. ที่มุ่งขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงเพื่อผู้คนและสังคม เสริมอีกว่า “โครงการ Smart Energy Platform by ExpresSo x Sertis ถือกำเนิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและ AI มาประยุกต์ใช้กับระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา เพื่อให้สามารถทราบถึงกำลังการผลิตและการใช้งานพลังงานไฟฟ้าในอาคารต่างๆ ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานเพื่อคาดการณ์แนวโน้มความต้องการในอนาคต นอกจากนี้ แพลตฟอร์มของเรายังใช้บล็อกเชนมาเป็นพื้นฐานของระบบการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าที่เหลือใช้จากระบบโซลาร์รูฟท็อป ให้อาคารอื่นๆ ได้นำไปใช้งานตามความต้องการอีกด้วย”
AI หนุนนักคิดไทย จากพื้นฐานของปัญญาประดิษฐ์ สู่ยุคแห่งการ “ประดิษฐ์ปัญญา”
นอกจากการขับเคลื่อนประสิทธิภาพและความสำเร็จในกลุ่มองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่แล้ว แพลตฟอร์ม AI และคลาวด์ยังมีบทบาทสำคัญในการสานฝันของสตาร์ทอัพและนักพัฒนาอิสระให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์และบริการที่ใช้งานได้จริง เติมเต็มมิติของการ Solve สร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้และสังคมในภาพรวมอย่างเป็นรูปธรรม
แอปพลิเคชันฝีมือสตาร์ทอัพไทยอย่าง PharmaSafe ที่พัฒนาขึ้นให้เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวสำหรับผู้ป่วยที่ต้องรับประทานยาเป็นประจำ ได้ใช้แพลตฟอร์ม AI ของไมโครซอฟท์ในการสร้างระบบ AI ที่สามารถระบุชนิดและคุณสมบัติของยาได้จากภาพถ่าย เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการรับประทานยาผิดประเภท ส่วน Easy Rice ก็ได้พัฒนาเครื่องตรวจวัดคุณภาพข้าวด้วย AI โดยใช้กล้องบันทึกภาพเมล็ดข้าวที่ผ่านเข้าสู่ตัวเครื่อง สามารถตรวจสอบและให้คะแนนคุณภาพเมล็ดข้าวได้ถึง 1,200 เมล็ดในเวลาเพียง 10 นาที แทนที่จะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงหากตรวจสอบด้วยสายตามนุษย์ ขณะที่ Tiny Epic Brains เปิดมิติใหม่ของการใช้ QR code บนหน้าจอโทรทัศน์หรือในคอนเทนต์วิดีโอ ด้วย Video QR เทคโนโลยี deep learning ที่ฝัง QR code ไว้ในภาพวิดีโอได้โดยที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ไม่ขวางภาพบนหน้าจอ แต่ยังคงสแกนได้ผ่านสมาร์ทโฟน
แอปพลิเคชันฝีมือสตาร์ทอัพไทยอย่าง PharmaSafe ที่พัฒนาขึ้นให้เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวสำหรับผู้ป่วยที่ต้องรับประทานยาเป็นประจำ ได้ใช้แพลตฟอร์ม AI ของไมโครซอฟท์ในการสร้างระบบ AI ที่สามารถระบุชนิดและคุณสมบัติของยาได้จากภาพถ่าย เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการรับประทานยาผิดประเภท ส่วน Easy Rice ก็ได้พัฒนาเครื่องตรวจวัดคุณภาพข้าวด้วย AI โดยใช้กล้องบันทึกภาพเมล็ดข้าวที่ผ่านเข้าสู่ตัวเครื่อง สามารถตรวจสอบและให้คะแนนคุณภาพเมล็ดข้าวได้ถึง 1,200 เมล็ดในเวลาเพียง 10 นาที แทนที่จะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงหากตรวจสอบด้วยสายตามนุษย์ ขณะที่ Tiny Epic Brains เปิดมิติใหม่ของการใช้ QR code บนหน้าจอโทรทัศน์หรือในคอนเทนต์วิดีโอ ด้วย Video QR เทคโนโลยี deep learning ที่ฝัง QR code ไว้ในภาพวิดีโอได้โดยที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ไม่ขวางภาพบนหน้าจอ แต่ยังคงสแกนได้ผ่านสมาร์ทโฟน
“ตัวอย่างความสำเร็จของนักคิด นักพัฒนาทั้งหมดนี้ กับการใช้ AI ที่แพร่หลายมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของทักษะเชิงดิจิทัล ซึ่งยังคงต้องพัฒนาต่อไปอีกไม่น้อยในบ้านเรา เพราะในปัจจุบัน มีคนไทยเพียง 0.13% เท่านั้นที่ทำงานอยู่ในสายไอที ไมโครซอฟท์เองยังคงผลักดันให้เกิดการพัฒนาทักษะเชิงดิจิทัลในทุกระดับอย่างทั่วถึง นับตั้งแต่การเรียนรู้ทักษะด้านโค้ดดิ้งสำหรับเยาวชนผ่านกิจกรรมและโครงการมากมาย ไปจนถึงการสร้าง Power Platform ให้คนทำงานทั่วไปได้ลงมือพัฒนาแอปพลิเคชันและเครื่องมือสนับสนุนการทำงานด้วยตนเอง แม้จะไม่ได้มีประสบการณ์การเขียนโปรแกรมมาก่อน หรือล่าสุดกับความร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม พร้อมด้วยมหาวิทยาลัย 25 แห่งทั่วประเทศ เพื่อสร้างบุคลากรคุณภาพและยกระดับมาตรฐานงานวิจัยในประเทศไทย เพราะเราเชื่อมั่นว่าด้วยเทคโนโลยีและแนวคิดที่สอดคล้องกัน คนไทยอีก 99% ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นนักพัฒนาในแบบที่เราเรียกว่า ‘Citizen Developers’ พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเดินหน้าจากการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ สู่การเป็นผู้ ‘ประดิษฐ์ปัญญา’ ได้อีกด้วย” นายธนวัฒน์กล่าวทิ้งท้าย
change how we
engage เราจะ engage กับ partner เรายังไง data is a new currency
AI จะทำให้เรา predict ได้
Cerebri ใช้ข้อมูลการใช้บัตรเครดิตของลูกค้า ดูว่า ลูกค้า spending สูงสุด ผ่านกระบวนการ reinforcement learning
How we change work
พูดถึง culture Growth mind set ด้วย
Work force ต่อไปจะเป็น gen millennium
Unlock creativity /build team work เพิ่ม speed
Microsoft teams เป็น collaboration platform ที่ connect share-point ทุกจุดข้อมูล
ให้ data point
Free tools ที่อยู่ใน MS 365
อยู่แล้วจะ demo ให้ดู
เจ๋งกว่าคือ คนที่ลาออกไปแล้วจะเปิดไฟล์ไม่ได้
CPF all farm lab
ระบบการป้องกันโรคเป็นหัวใจสำคัญของฟาร์ม เอา AI มาเป็นระบบควบคุม ประเมินและเตือน จุดไหนผิดพลาด
ถ้าไม่มี AI คนจะหย่อนยาน
ถ้าไม่มี AI จะไม่กล้าเตือนคนทำผิด คนได้ ประโยชน์ คือผู้ประกอบการ
คนไทยจะได้ระบบการเลี้ยงปศุสัตว์ bio security
Ptt smart energy platform
Blockchain energy platform
Progect siliga
3 Change how we solve society problem
คนบางคนเกิดมาไม่เท่ากัน
แต่เทคโนจะช่วยเค้าให้สามารถเข้าถึงธุรกรรมทางการเงิน
ทุกคนมีโอกาศทำให้โลกนี้ดีขึ้น
Emma เด็กอายุ 30 เป็นโรคพาคินสัน เธอมีอาชีพเป็น designer
MS ได้ส่งคนเข้าไปแก้ปัญหาให้คนเป็นโรคนี้สามารถกลับมาใช้มือได้ปกติโดยใช้ AI
ประเทศไทยมีจำนวนแรงงานทำงาน 37.8 m ล้านคน มีแค่ 48k ที่เป็น Software developer
มีคนอีกมากมายที่ยังไม่มี digital skill ในไทยโดยใช้ power platform
ขอให้ท่าน drag&drop ได้
ใช้ Powerpoint ได้ ท่านก้อสามารถเขียนโปรแกรมได้เองจาก MS tool แล้ว
Power apps power bi power virture agent power automate/ms
flow
เพื่อให้ user ทำ IT เองได้ ไม่ต้อง้อ IT ทีม IT มีหน้าที่เตรียม data ให้เราเท่านั้น
IT business AI
AI Ethics ทำยังไงถึงต้องมี human
supervise ทำในสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ
CEO Talk: “Past, Present, Future” การเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลขององค์กรไทย
CEO Talk: “Past, Present, Future” การเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลขององค์กรไทย
Guest speaker นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส นั่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG ต่อจาก นายกานต์ ตระกูลฮุน / แพทย์หญิงนลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัทกิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด /นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานกรรมการบริหาร / กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เป็นหนึ่งใน disrupter ของเมืองไทย/ คุณศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร หรือคุณเล้ง บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC
เริ่มที่คุณชานนท์มองว่าสิ่งที่จะมา disrupt อสังหาฯคือ drone ราคาที่ดินติด bts อาจไม่จำเป็น ถ้ามีพาหนะที่สามารถพาคนไปถึงที่หมายได้ภายใน 45 นาที
อุปสรรคของ real เช่น location /finance ถูกแก้โดย disruption ในสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับอสังหาเลย
Data on mobile คนไทยมีการรับเทคโนมาก mobile
bank มีการเติบโตเดือนละ 30%ซึ่งน่าตกใจ speed move เงินสูงมากๆ
อย่างงานสัปดาห์หนังสือ ล่าสุดให้สั่งซื้อตอนที่คนเขียนมานั่งขายเลย
ขาย 1 ชม ได้ 5 แสนกว่า move product ได้เร็วในต้นทุนที่ถูกกว่า ในขณะที่ปีที่แล้วขายสัปดาห์หนึ่งจะได้เงินเท่ากัน
ยกตัวอย่าง งานนี้ใช้ 8 คน เงินเดือนทั้งหมด 8 แสนกับใช้งานเดียวกันใช้เด็ก 2
คนทำเงินเดือน 4 หมื่น ซึ่งได้ผลลัพธ์ออกมาเหมือนกันแต่ cost แตกต่างกันมากๆ
ถ้าคนไม่พร้อมอย่าลงทุนด้าน IT ต้องมีการ transform คนก่อน efficiency จะเกิดได้
Human transform ควาทแตกต่าวเป็นสิ่งสำคัญ
เน้นย้ำ business model
เราต้องถามตัวเองว่าสิ่งที่จะทำต่างกันหรือเปล่า
what next สิ่งที่เรามีคือ alert mindset ตลอดเวลา
คุณนลินีกล่าวว่าข้อเสียของเทคโนโลยี คนเริ่มทิ้งทีมงาน พูดไม่ค่อยเข้าหูคน หรือคนอาจไม่ต่อว่า แต่เลิกใช้เลย
การ Adopt tech คือการเข้าถึงเทคทำได้ง่านขึ้น
perspective ในแง่ลูกค้ามีมาก บริษัทที่ประสบความสำเร็จมากอาจทำให้คนของ บริษัท เองติดกับดัก การ adopt tech อาจเข้าถึงช้ามาก ทำไงให้ mindset
ของคนยอมรับเทคโนโลยีได้มากขึ้น สุดท้ายเราจะยอมรับได้มากขนาดไหน
มากไปก้อไม่ดี น้อยไปก้อไม่ดี คิดว่าเป็น challenge ของ SCG
คน และ process ในองค์กรต้องปรับ
ชานนท์กล่าว เปรียบเหมือนยานแม่ยานลูก core กับ edge คือ CEO ต้อง oversee ปล่อย culture ของตัวเองที่การเปลี่ยนแปลงยังไม่มีใคร forecast ได้ไกลๆ แค่ 12 เดือนก็เก่งแล้ว เช่น เศรษฐกิจจะ แย่ยังไงของ beauty ก้อจะพุ่ง คนก็ยังซื้อมาใช้ แปลกมากๆ
สื่อหลักบ่นว่าขายโฆษณายาก แต่ you-tuber บางคนขายได้ 10 ล้านต่อเดือน ทำไมเขาทำได้
AI มาแน่นอน เริ่มออกอิทธิฤทธิได้ โตแบบ exponential
Last mind ต้องมี AI
ทันทีที่จะ jump แบบก้าวกระโดด
ต้องมี AI มาช่วย AI ซื้อมาแล้วต้องมี data
ต้องมีคนที่มี mindset อย่ากลัวมันต้องลองผิดลองถูก
ให้คำแนะนำกับคนในห้องนี้ ต้อง realistic อย่าฝันว่า AI จะช่วยได้ทุกอย่าง ต้องมี road map เตรียม data
ให้พร้อม พอถึงจุดๆนั้นก็สามารถใช้ ประโยชน์ได้เต็มที่
Human trust เราต้องรู้จักทำให้คนอื่นรักและรักคนอื่นให้เป็น
ต้อง share ให้กับคนอื่นด้วยเรารู้ในสิ่งไหน
ต้องมีเมตตา และมีความเป็นคน
คนต่อให้ฟังเรา เค้าจะพูดต่อที่มี core
value เหมือนกัน
Focus ที่คนออกจาก comfort zone แล้วอยู่ใน survival mode
การนำเทคโนโลยีเข้ามาจึงจะประสบความสำเร็จ
Tech เราต้องมี ability ที่
anticipate ได้ดีขึ้น ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
มนุษย์ต้องเอามาใช้ในสิ่งที่ถูกต้อง
ที่น่าแปลกใจคือ AIS ลงมาเป็นผู้ขาย product เกี่ยวกับเทคโนโลยีด้วย งานนี้เน้นขาย product ที่เกี่ยวกับการประชุมทางไกล การเชื่อมต่อ รวมทั้ง feature เกี่ยวกับห้องประชุม เช่น กระดาน ผู้เข้าร่วมการประชุม การอัดเทป การบันทึกการประชุม
การขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยี
โดย คุณศักดิ์ณรงค์ แสงสง่าพงศ์ ประธานสถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่ออุตสาหกรรม (ICTI) และรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI)
ที่จะมาเล่ากรณีศึกษาตัวอย่างของธุรกิจภาคการผลิตในประเทศไทยที่นำเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ เช่น AI และ ERP มาใช้เพื่อยกระดับธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ และพร้อมสำหรับการแข่งขันในตลาดโลกมากขึ้น
กระทรวงตั้งงบ 10 ลบ เพื่อเอา IT มาช่วยเหลือกิจการให้มีผลประกอบการดีขึ้น โดยการคัดเลือกจาก 100 บริษัทมาทำก่อน 10 แห่งเส้นทางของ SME สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและ 5G
โดย คุณนวชัย เกียรติก่อเกื้อ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
ใน Session นี้ ผู้ร่วมงานจะได้รู้จักกับเทคโนโลยี End-to-End แบบครบวงจร สำหรับธุรกิจของคุณ
Sms สมัย 20 ปีที่แล้วมีคนใช้ส่งข้อความมากๆ มาย
2018 ใช้ไลน์ ถึง 60% เป็นการโตมาแบบใต้น้ำ
การเปิดตัวของ Apple Sim ให้ผู้ซื้อมือถือเลือกค่ายได้เลยเป็นการ attach ลูกค้าก่อน
Kindle จาก Amazon ก็มาแย่งส่วนแบ่งตลาดของ ais อีก
Oneweb spaceX launch ดาวเทียมอีก 60 ดวง ครอบคลุมทั่วโลกแล้ว
Google station ก็มีฐานทั่วโลกอีก
Ais พยายามเปลี่ยนแปลงตามแล้วเหนื่อย
มนุษย์มีความคิดแบบเป็นลิเนีย Linier แต่ปัจจุบันเราใช้ลิเนียแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว
ธุรกิจ media อย่าง Netflex กำลังจะเปลี่ยนไป ไทยเราอันดับ 1 mobile internet
เด็กไทย 1 วินาทีกว่าๆ ต้องดึง attention ให้ได้ไม่งั้นเปลี่ยนช่อง
Finance เมืองจีน Ecommerce มาแรงมาก
พร้อมเพย์เป็นจุดกำเนิดแข่งขัน mobile banking ที่รุนแรงมาก
พร้อมเพย์เป็นจุดกำเนิดแข่งขัน mobile banking ที่รุนแรงมาก
เด็กปัจจุบันไม่สนใจว่าสีอะไร แบงก์ไหนให้อะไรดีกว่าจะไปแบงก์นั้น ไม่มี royalty อีกต่อไป
แต่ละแบงก์ลงทุนเป็นหมื่นล้าน ดอกเบี้ยเงินฝากและกู้ ต่ำดิน อนาคตจะมี p2p lending เยอะขึ้น เช่น เก็บ ดบ 1% ต่อวัน อัตราการกู้ 32 วันคืน อย่างที่มาเลเซียโตมากๆ
โดยใช้ social credit rating เป็นตัวบอกว่าลูกค้าแต่ละคนมีพฤติกรรมอย่างไร
การมา 5G เกิด super app อันเดียวทำได้หมด จะมี platform ให้เลือกมากไปหมด อยากให้ถูกๆ iot innovation จะมีเต็มไปหมด
Smart logistic automatic guided vehicle ที่ตปท ไม่ใช้คนเลย
Smart farm แบบเบสิกแต่ productivity สูงมาก
AI กิน data เป็นอาหาร
Ais transform จาก tele มาสู่ digital service provider ขายประกัน payment service cloud iot การทำคู่ขนานคือ culture transformation
อันแรกที่ Ais ทำคือ ทำ cloud ก่อนเลย ใช้กับงานภายใน cloudification
Ais LearnDi มี platform ให้เรียนรู้ สร้างความเป็นเจ้าของกิจการ มี inno jump ถ้าชนะได้ทุนจากการประกวดเอาเงินไปลงทุน
ทำให้คนในองค์กรเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ประกอบการ learn from other
เชิญชวนคนที่จะทำ Iot มาทำด้วยกันเพื่อให้เกิด ecosystem
ร่วมพัฒนา innovation กับคนข้างนอก ธุรกิจไทยต้อง digital transformation
Growth Gdp มากกว่า 5%
Ais biz up for Smes มีความช่วยเหลือที่ Ais ทำได้
5G มุม impact ลบและบวก ปทไทยเปิด 4g 2015 ถือว่าเปิดช้ามาก internet user เพิ่ม 63% social media 44%
5g เชื่อมต่อได้ทากขึ้นรองรับอุปกรณ์ได้ล้านชิ้น
การรับส่งข้อมูลมีเวลาหน่วงน้อยลง
มี เซ็นเซอร์ดิน น้ำ อากาศ จราจรเต็มไปหมด
หุ่นยนต์ที่ผ่าตัดได้เอง รถไร้คนขับ
Network ปท ยังไม่เปิด
มือถืออย่างเร็ว 2021
แต่จะใช้อย่างกว้างขวางอีก 2 ปีข้างหน้า
ดูตารางเทียบระหว่าง 3g มา 5g
คนไทย 1 ใน 3 ปี 2023 จะมีคนใช้ 5g
อุปกรณที่ใช้ sim จะเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ใช้ 5g
มาดู Ar /Vr กัน ต้องรีบนำ 5g มาใช้
ธุรกิจเกมจะมีรายได้เพิ่มมากเลย
5g นำไปทดสอบในหลายพื้นที่ ได้แก่ เชียงใหม่ หาดใหญ่ ตอ EEC ขอนแก่น
ความพร้อมมีแล้ว 5g อยู่ไม่ไกล เปรียบเหมือนซึนามิ ใหญ่กว่าแรงกว่า ถ้าเตรียมความพร้อมทางธุรกิจไว้ดีโอกาสท่านมาแน่นอน
Optimize process ในองค์กรอย่างไรให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
โดย คุณภิญโญ พานิชเกษม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วาย.เอส.เอส. (ประเทศไทย) จำกัด
รับฟังแนวคิดและกลยุทธ์ในการพัฒนากระบวนการผลิต และวิธีการรับมือ Digital transformation เพื่อพลิกวิกฤตเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศให้เป็นโอกาส
YSS ผู้ผลิตและพัฒนาโช้คอัพรถมอเตร์ไซค์และรถยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพระดับโลก ด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง สร้างความคุ้มค่าสำหรับลูกค้า
เราต้องเลือกเทคโนที่เหมาะกับเรา YSS ทำโช๊กอั๊บขายทั่วโลก จะขอขึ้นเป็นที่ 1 ของโลก
เราต้องเลือกเทคโนที่เหมาะกับเรา YSS ทำโช๊กอั๊บขายทั่วโลก จะขอขึ้นเป็นที่ 1 ของโลก
การขายอะไหล่รถที่ตปท ไม่มีการเก็บสินค้า สั่งตัวไหนเราสามารถส่งสินค้าได้เลย
คนที่จะเชื่อมระบบงาน IT เข้าด้วยกันได้ต้องรู้งานนั้นดีที่สุด
YSS ผ่านมาหลายวิกฤตทั้ง น้ำท่วม ลดค่าเงิน โรงไฟฟ้า ทุกครั้งเราสู้มาโดยตลอดและชนะ
ยก ตย การเปลี่ยน process การทำงาน จากกระดาษแล้วเอามา Key in เก็บเปลี่ยนเป็นการใช้เทคโนโลยี scan bar code หยิบของ stock production line รวมถึงการลงเวลาจาก server จบได้ด้วยตัวเอง นอกจากได้ความถูกต้องของข้อมูลแล้ว ยังทำให้คนทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความคิดเห็น