เที่ยวเกาหลีใต้ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

ถ่ายคู่กับหมีสัญญลักษณ์เกาหลีค่ะ มีคนรอคิวถ่ายเต็มเลย

สวนสนเกาะนามิ สวยมากค่ะ น่าจะมีในเมืองไทยบ้าง

Everland ค่ะ เทศกาลดอกเบญจมาศ

เกาะนามิ เจอดอกไม้สวย


กำแพงสวยที่พระราชวังเคียงบ๊อก

กำหนดการเดินทาง 15-19 ตุลาคม 2551

Date Route Flight Departure Arrival

15 Oct 08 BKK-ICN KE654 0130 0850

19 Oct 08 ICN-BKK KE653 2025 2350

เคาน์เตอร์ M หมายเลข 6

วันแรก กรุงเทพฯ – กรุงโซล
22.30 คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ M (15-16) สายการบิน
KOREAN AIRLINE (KE) ประตูทางเข้าหมายเลข 6 โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ให้การต้อนรับ และอำนวยความ
สะดวกก่อนขึ้นเครื่อง แจกสเต็กปลา กับเค้กกล้วยหอม
วันที่สอง โซล - พระราชวังเคียงบ็อค - พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน - เกาะนามิ - อาบน้ำแร่ SORAK WATERPIA
01.40 บินลัดฟ้าสู่ สาธารณรัฐเกาหลีใต้ โดย สายการบิน KOREA AIRLINE เที่ยวบินที่ KE654 บริการอาหารและ
เครื่องดื่มบนเครื่อง
08.45 เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน สาธารณรัฐเกาหลีใต้ เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่งโมง
(เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่น)หลังจากผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว ขอต้อนรับทุกท่านสู่ประเทศเกาหลีใต้ โดยนำทุกท่าน ลงเรือเฟอร์รี่ขนาดใหญ่ ที่เกาะยองจองโด เพื่อให้ทุกท่านได้ชมความงดงามของทะเลตะวันออกแห่งเกาหลี และสัมผัสกับฝูงนกนางนวลนับพันตัว ท่านสามารถให้อาหารนกนางนวลบนเรือพร้อมเก็บภาพควาประทับใจในยามเช้า

ให้อาหารนกนางนวลด้วยข้าวเดียบกุ้งค่ะ นกแต่ละตัวรับเก่งมากไม่หล่นเลย

รถที่เกาหลีจะเป็นรถเก๋งส่วนใหญ่ น้ำมันแพงมาก มอเตอร์ไซด์จะใช้สำหรับส่งของเท่านั้น ส่วนรถบัสจะเป็นรถชั้นเดียวออกแบบให้แข็งแรง เนื่องจากมีลมแรงมาก รถใช้ยี่ห้อ Kia Dawoo

โดยใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที เรือนำท่านถึงท่าเรือยอมีโด ซึ่งเป็นเส้นทางมุ่งสู่เมืองหลวง “กรุงโซล” โซล หรือ ซออูล แปลว่า เมืองหลวงป็นราชธานีที่เก่าแก่กว่า 600 ปี ถือเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของประเทศเกาหลีใต้ เป็นศูนย์รวมทั้งทางด้าน การค้าพาณิชย์ การศึกษา การเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมปัจจุบันมีประชากรอาศัยอยู่ราว 11 ล้านคน คิดเป็นหนึ่งในสี่ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ กรุงโซลจึงผสมผสานไปด้วยอารยธรรมอันเก่าแก่ และเทคโนโลยีอันทันสมัย ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เสียงอึกทึกและยวดยานในกรุงโซลเป็นสิ่งยืนยันถึงความสำเร็จทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันความสงบสง่าของสถาปัตยกรรมยังแสดงถึงความเข้มแข็งวัฒนธรรมแห่งเกาหลี เมื่อเดินทางเข้าสู่ “กรุงโซล” นำท่านผ่านชม ชองวาแด หรือ บลูเฮาส์ ทำเนียบของประธานาธิบดีคนปัจจุบันลี เมียง บัค ประธานาธิบดี ลำดับที่ 8 ของเกาหลีใต้ (ระหว่างรถแล่นผ่านไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพหรือวีดีโอใดๆทั้งสิ้น)

และแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกที่ อนุสาวรีย์รูปนกฟีนิกซ์ สัญลักษณ์ความเป็นอมตะพร้อมชมทัศนียภาพอันสวยงามของภูเขารูปหัวมังกร และวงเวียนน้ำพุซึ่งถือว่าเป็นจุดที่มีฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดของกรุงโซล จากนั้นนำท่านสู่ พิพิธภัณฑ์คติชนพื้นเมือง

ในพิพิธภัณฑ์ แอบถ่าย

เพื่อให้ท่านได้ย้อนเรื่องราวและสัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นมาของชาวเกาหลีตั้งแต่ยุคโบราณโดยผ่านห้องแสดงหุ่นจำลอง นอกจากนั้นยังได้จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน พร้อมภาพสามมิติ ที่ประตูด้านหน้ามีรูปสลักหินตัว แฮแท ตั้งขนาบอยู่สองข้างจากนั้นนำท่านย้อนรอยละคร“PRINCESS HOURS” หรือเจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชาที่ พระราชวังเคียงบ็อค พระราชวังเก่าแก่ที่สุดของราชวงศ์โชซอน สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1394 โดยใช้เป็นศูนย์กลางการปกครองในสมัยโบราณ โดยเป็นทั้งที่ประทับและฐานอำนาจของพระเจ้าแทโจ และต่อเนื่องมาถึงกษัตริย์ในราชวงศ์โชซอล พระที่นั่งคึนชองจอน ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่ว่าราชการต่อมาคณะปกครองเกาหลีของญี่ปุ่นได้สร้างอาคารรัฐสภาขนาดยักษ์ขึ้นคั่น เพื่อต้องการแสดงนัยเด่นชัดว่าต้องการตัดความผูกพันระหว่างพระราชวงศ์กับราษฎร อาคารหลังนี้ได้ถูกรื้อถอนไปในโอกาสครบรอล 50 ปี การปลดแอกจากญี่ปุ่น ในเขตพระราชวัง ยังมีพระตำหนักเคียวฮเวรู ลักษณะเป็นอาคารสองชั้น ตัวพระตำหนักถูกสร้างให้ยื่นออกไปกลางสระน้ำที่เต็มไปด้วยฝูงหงส์ สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดงานเลี้ยงพระราชทานจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองชุนชอน เมืองแห่งทะเลสาบ เป็นอำเภอเมืองของจังหวัดคังวันโด
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บริการ ซัมเคทัง หรือ ไก่ตุ๋นโสม อาหารตำหรับชาววังบำรุงสุขภาพ บริการท่านละ 1 ตัว บรรจุอยู่ในหม้อเหล็กร้อนๆ ภายในตัวไก่จะยัดไส้ด้วยข้าว และของบำรุงต่างๆ อาทิ เม็ดพุทราแห้ง รากโสม เก๋ากี้ ปรุงรสด้วยพริกไทยดำ และเกลือ รับประทานพร้อมเครื่องเคียงที่เรียกว่า กักตุกี (ทำจากหัวไชเท้าดอง) และเส้นขนมจีนหนานุ่มแบบเกาหลี พร้อมทั้งเสิร์ฟ อินซัมจู หรือเหล้าดองโสมจากนั้น ต้องอาศัยน้ำปลาจากเมืองไทยช่วยให้อรอยขึ้น

ถึงท่าเรือไปเกาะนามิ ได้เวลากลางวันพอดี

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารบริการท่านด้วย อาหารพื้นเมืองแบบชาวเกาหลี“ชุนชอนดักคาลบี” ไก่ผัดซอสรสชาติจัดจ้าน คิดว่าวันแรกน่าจะได้ทานกลางวันก่อนไปเกาะนามินะคะ ไก่ผัดซอสอร่อยค่ะ ทานกับผักเยอะแยะ ถ้าได้ไกด์ดีจะเอาน้ำจิ้มสุกี้จากเมืองไทยไปให้ด้วยค่ะ

นำท่านตาม รอยโรแมนติก เกาะนามิ สถานที่ถ่ายทำละครทีวี “WINTER SONATA” อันโด่งดังไปทั่วทั้งเกาหลีและเอเชีย เกาะนามิ เป็นเกาะที่สร้างขึ้นจากการสร้างเขื่อนชองเปียงกั้นแม่น้ำบูฮันชื่อของเกาะนามินั้นถูกตั้งตามชื่อของนายพลนามิซึ่งเป็นนายทหารที่มีชื่อเสียงมากในสมัยราชวงศ์โชซอน ให้ท่านได้เก็บภาพประทับใจบนเกาะนามิซอมกับวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติสองข้างทางที่แวดล้อมและอบอวนไปด้วยกลิ่นสน ลูกเกาลัด และเสียงร้องของนกดุเหว่า ท่านสามารถเลือกขี่จักรยานชมวิวตามอัธยาศัย นอกจากนั้นท่านยังสามรถชมฟาร์มเลี้ยงนกกระจอกเทศซึ่งตั้งอยู่บนเกาะ และชื่นชมงานศิลป ภาพถ่ายที่จัดตั้งโดยองค์การยูเนสโก จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติ โซรัคซาน หรือสวิสเซอร์แลนด์เกาหลี ระหว่างทางท่านสามารถสัมผัสสีสันของใบไม้ ธรรมชาติที่สวยงาม

เกาะนามิจะเดินประมาณ 500 เมตรค่ะ
ไปกลับก็คูณ 2 แต่อากาศมันเย็นเลยเดินไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไรค่ะ จะบอกว่า มีเวลาถ่ายรูปน้อยมาก
เพราะว่าขาเดินต้องฟังไกด์เล่าประวัติไปด้วย
แล้วพอไปถึงตรงกลางเค้าจะปล่อยให้ถ่ายรูป ครึ่ง ชม. แต่ก็ไม่ถึงกับต้องรีบอะไรกันมากนะคะ เพียงแต่ว่าพวกนิทรรศการที่เค้าจัดจะไม่ค่อยได้ดู แนะนำให้ซื้อไอศกรีมยี่ห้อ Prefer ค่ะ มีหลายรสเค้าว่าอร่อย
อ้อ ลืมบอกอีกเรื่องจะมีไกล์เกาหลีที่โน่นไปกับทัวร์ด้วยเค้าจะคอยช่วยเสริฟ อาหารและถ่ายรูป ที่สำคัญเค้าจะถ่ายรูปพวกเราแล้วมาขายวันกลับค่ะ แพงเหมือนกันให้ช่วยซื้อเป้นท่าทิปค่ะ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร บริการ โอซัม พุลโกกิ ประกอบด้วยปลาหมึกสด และหมูสไลด์ที่ผ่านการหมักด้วยเครื่องปรุงจนได้ที่ นำมาผัดรวมกับผักสดนานาชนิดบนกะทะร้อนๆ รับประทานพร้อมเครื่องเคียง และข้าวสวยร้อนๆ มีกลิ่นหอมน่าลิ้มลอง หน้าร้านมีพวกท๊อปฟี่ขายถ้าถูกใจซื้อเลยค่ะ เพราะไปต่อไม่มีขายแล้ว ไม่แพง

นำท่านเข้าสู่ที่พัก SORAK HANWA RESORT หรือเทียบเท่า ท่านสามารถใช้บริการอาบน้ำแร่เพื่อสุขภาพ (อาบน้ำแร่ฟรี!) กรุณาสอบถามรายละเอียด และขอคำแนะนำได้ที่หัวหน้าทัวร์ นอกจากนั้นเชิญชวนทุกท่านสนุกสนานกับ SORAK WATERPIA สวนน้ำ Theme Park ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ท่านได้สัมผัสกับสวนน้ำในรูปแบบต่าง (กรุณาเตรียมชุดว่ายน้ำ และหมวกว่ายน้ำไปด้วย) ชอบมากๆสวนน้ำอุ่น เปลี่ยนอุณหภูมิตามฤดูกาล เล่นอย่างเพลิดเพลิน

อันนี้ต้องลงให้ได้นะคะเป็นสวนน้ำอุ่น มีแบบน้ำวน ทะเลเทียม ชอบมากๆ ถ้าไม่เอาไปไปเช่าชุดที่โน้นมีแต่แพง
ไม่ต้องอายนะเค้าใส่ชุดว่ายน้ำกันหมด ขอบอกว่า ญ เกาหลีเค้าแก้ผ้าเปลี่ยนชุดด้วยล่ะ ได้เห็นกันจะจะเลยอุๆๆ
อ้อ เผื่อมองไม่เห็นอุปกรณ์อาบน้ำเอาผ้าขนหนูไปเองด้วยค่ะ เพราะที่โรงแรมจะเป็นผืนเล็กถ้าใครชอบผืนใหญ่นะ แล้วขึ้นจากสระชุดเปียกไม่ต้องกลัวเค้าจะมีที่อบผ้าให้ค่ะ เอาชุดว่ายน้ำใส่ลงไปแล้วเอามือกดฝาเครื่องจะทำงานเอง แอบมองเด็กๆ เค้าทำ อิๆๆ

อ่านดูข้างบนเหมือนไม่ได้ขึ้น Cable car นะ จะเห็นวิวสูง ดูจากเวลาที่โซรัคจะถึงเย็นมากๆ ไม่รู้จะมีแดดให้ถ่ายรูปหรือเปล่า เพราะจากนามิมาโซรัคนั่งรถไกลเหมือนกัน ที่พักจะเป็นคอนโดครอบครัวมี 2 ห้องนอน พักห้องละ 2 คน ที่นอนมีทั้งแบบนอนพื้นและเตียง ลองนอนดูแบบพื้นก็แปลกดีค่ะ ใต้ถุนตึกจะมีร้าน super market ขายผลไม้ ลองซื้อองุ่นมาทานหวานมากค่ะ และมีรองเท้าเดินเขาขายด้วย ถ้าชอบก็ซื้อได้เลย ผ่านแล้วผ่านเลยค่ะ

Taxi ที่เกาหลีจะมีการแบ่งระดับด้วย ถ้าคนไหนขับรถดีไม่ผิดกฎจะได้ป้าย Best Driver รถ Taxi คันนั้นจะมีสัญลักษณ์เป็นมงกุฏด้านบน จะไม่ค่อยเจอตำรวจจราจรเพราะว่าเค้าใช้ระบบถ่ายรูปแล้วปรับทีหลัง ส่วนรถตำรวจจะมีกรงขัง เหล็กดัดล้อมรอบคัน เพราะว่าคนที่นี่ประท้วงกันบ่อย ชอบทำร้ายร่างกาย อ้อ คนเกาหลีสนใจเมืองไทยมาก มีช่องทีวีรายงานข่าวจากเมืองไทยเลย เห็นว่ารู้แม้กระทั่งราชวงศ์แต่ละคนนิสัยยังไง

ถนนในกรุงโซลสวยงามมากอย่างหน้าโรงแรมที่พักจะเป็นต้นแป๊ะก๊วยเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองสวยเชียว ถนนเค้าก็ไม่ขลุกขลัก สายไฟฟ้าอยู่ใต้ดิน มีคอนโดมากมาย ราคาแพงมาก เห็นว่าห้องละเกือบ 5 ล้านบาท ห้องเล็กๆ ธรรมดาๆนะ ถ้าใครมีบ้านอยู่ในเมืองถือเป็นคนรวยเลยล่ะ ค่าครองชีพแพงมากๆ เงินเดือน 5 หมื่นบาทต้องกินอยุ่แบบประหยัดเลย ถนนเค้าไม่มีป้ายจราจรให้ดูเกะกะ จะกลับรถยังเขียนเส้นกลับรถบนถนนบอกไว้เลย



วันที่สาม อุทยานแห่งชาติโซรัคซาน - วัดชินฮึงซา(ขึ้น Cable Car) – SEOUL TOWER – ช้อปปิ้งทงแทมุน –
HI JUMP SHOW หน้าอาคารที่พัก มีหลายตึก เราพักอยุ่ตึกที่ 7 ห้องพักเป็นแบบคอนโด มีห้องครัวและที่นอนแบบนอนพื้นให้ด้วย เหมาะกับการมาพักแบบครอบครัว มี 2 ห้องนอนค่ะ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติโซรัคซาน แดนมหัศจรรย์แห่งขุนเขา โซรัคซานไม่ใช่เขายอดเดี่ยว แต่เป็นหมู่เขาอันสลับซับซ้อน ฤดูใบไม้ร่วงสีของใบไม้จะเปลี่ยนสีเจิดจ้า ใบเมเบิลเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิง ในขณะที่ใบแปะก๋วยเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง ท่านสามารถดื่มด่ำกับความงามในแดนมหัศจรรย์แห่งขุนเขาได้โดยกระเช้าไฟฟ้า CABLECAR พาท่านขึ้นสู่ยอดเขา จากนั้นนำท่านเข้าสู่เขต วัดชินฮึงซา วัดเก่าแก่ในนิกายเซน สร้างขึ้นในปีค.ศ. 652 ในระแวกใกล้เคียงกับที่ตั้งของวัดในปัจจุบัน ต่อมาได้ถูกไฟป่าเผาทำลายวัดลงถึงสองครั้ง จึงต้องสร้างใหม่ในครั้งที่สามในปี 1645 ตัววัดจริงตั้งอยู่บนผาชัน มองลงมาเห็นทัศนียภาพอันงดงามของทิวเขาที่แวดล้อมอยู่โดยข้าง เชิญท่านนมัสการพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางสมาธิขนาดใหญ่กลางหุบเขาก่อนเข้าสู่เขตวิหารเพื่อสักการะว่ากันว่าที่หน้าผากพระเป็นเพชร ชาวเกาหลีใต้ขอพรให้ส่องไปยังเกาหลีเหนือด้วย

นมัสการขอพรแก่พระพุทธรูปอมิตาภะขนาบด้วยพระโพธิสัตว์กวนอิมกับไดเซจิด้านใน นอกจากนี้วัดชินฮึงซา ยังมีภาพวาดที่เกี่ยวเนื่องกับลัทธิเต๋า และพุทธศาสนาที่น่าสนใจอีกมากมาย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บริการ DUKKALBI ไก่ผัดเผ็ดบาร์บีคิวเป็นเนื้อไก่ที่หั่นออกเป็นชิ้นพอคำ คลุกเคล้าด้วยซีอิ๊วเครื่องปรุง และหมักทิ้งไว้จนได้ที่ จึงนำเนื้อไก่และผักมาผัดบนกะทะยักษ์ รับประทานพร้อม กิมจิ ซุปสาหร่าย และข้าวสวย เดินทางกลับศูนย์กลาง “กรุงโซล” ย้อนรอยละครซีรีย์ชื่อดัง "MY NAME IS KIM SAM SOON" เขานัมซัน ภูเขาแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโซล สูง 274 เมตร บนยอดเขามีหอ SEOUL TOWER 1 ใน 18 หอคอยเมืองที่สูงที่สุดในโลกมีความสูงถึง 480 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ท่านสามารถชมทัศนียภาพของกรุงโซลได้รอบทิศ 360 องศาโดยสามารถมองได้ถึงเขาพูกักซัน และถ้าหันไปยังทิศตรงข้าม ก็จะเห็นไกลไปถึงแม่น้ำฮันกัง

เดินขึ้นเขาตอนกลางคืน สวยงามมากบรรยากาศดีจัง มีแต่คู่รักมากันเป็นคู่ๆ บ้างก็ใส่เสื้อเหมือนกัน มีการเอากุญแจมาผูกไว้ด้วยที่ระเบียง สงสัยจะให้อยู่คู่กัน

จากนั้นนำท่านสู่แหล่งช้อปปิ้งที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในเอเชีย ตลาดทงแดมุน (ตลาดประตูเมืองทิศตะวันออก) ซึ่งท่านสามารถสรรหาสินค้าหลากหลายประเภทตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าสินค้าแนะนำอาทิ เสื้อผ้าบุรุษ-สตรี รองเท้าบุรุษ-สตรี รองเท้าผ้าใบ เข็มขัด ของที่ระลึกชุดเครื่องครัวถุงเท้า ผ้าพันคอ โดยท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศการช้อปปิ้งสินค้าในราคาเกาหลีอย่างแท้จริง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร บริการ บริการ ชาบู ชาบู สุกี้สไตล์เกาหลี บนหม้อไฟร้อนๆประกอบด้วย ผักสดชนิดต่างๆ และเนื้อหมูสไลด์น้ำซุปร้อนๆ และเส้นอูด้งซึ่งขาดไม่ได้ในการทานชาบู ชาบู พร้อมข้าวสวย

กินร้านนี้เจอคู่แต่งงาน กับจัดงานวันเกิดให้เด็กมีเด็กมาร่วมงานเต็ม

นำท่านสู่ IBK JUMP THEATRE เพื่อชม HI JUMP SHOW (www.hijump.co.kr) เป็นโชว์การแสดงอันดับหนึ่งของเกาหลี เป็นการใช้ศิลปการแสดงประยุคของชาวเกาหลีในหลายๆแขนง มีทั้งการโดยนำเอาศิลปะการต่อสู้ เทควันโค คาราเต้ และยิมนาสติก ประกอบการแสดงละครตลกร่วมสมัย เพื่อสร้างเสียงหัวเราะ และความสนุกสนานแก่ทุกท่าน

แสดง พ่อ แม่ ลูกชาย ลูกสาว ปู่ กับขโมย ใส่ชุดกังฟู

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม The Ritz Carlton Hotel http://www.ritzcarlton.com/
โรงแรมสุดหรู 5 ดาว ห้องน้ำมีสุขภัณฑ์แบบกดปุ่มด้วย อาหารเช้ามี 2 แบบให้เลือกคือแบบบุพเฟ่กับญี่ปุ่น ที่นอนนุ่มมากๆ

เค้าว่าคนเกาหลีรักสวยรักงาม รักสุขภาพ อายุยืนยาว กม. เกาหลีแรงมาก สามีภรรยาจะมีเมียน้อยไม่ได้ ถ้าฟ้องต้องติดคุก

วันที่สี่ กิมจิแลนด์ - เก็บผลไม้สดๆ จากไร่ - เอเวอร์แลนด์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ กิมจิแลนด์ เล่ากันว่ากิมจิเกิดขึ้นสมัยโชซอน โดยชาวบ้านเก็บผักสดมาหมักไว้ในไห กิมจิทำเก็บไว้กินได้ทุกฤดูกาลชาวเกาหลีใส่กิมจิในอาหารแทบทุกชนิด ตั้งแต่ข้าวต้ม ข้าวสวย ซุป ข้าวผัด สตู บะหมี่จนถึงพิซซ่า และเบอร์เกอร์
กิมจิฝีมือหนูคลุกเองค่ะ แล้วห่อผัก

ชาวเกาหลีนิยมทำกิมจิกินเองที่บ้าน ตำหรับกิมจิแต่ละบ้านจึงไม่เหมือนกัน และตกทอดเป็นเหมือนมรดกปลายจวักของสตรีเกาหลีอีกด้วย ขอเชิญท่านร่วมประสบการณ์ทำกิมจิ อาหารประจำชาติเกาหลี ที่ไม่ว่ามื้อไหนก็จะต้องมีกิมจิอยู่ในอาหารมื้อนั้นๆ ด้วยทุกครั้งไป กิมจิมีมากกว่า 100 ชนิดให้เลือกรับประทาน ท่านจะได้ฝึกลองทำกิมจิและได้ชิมกิมจิด้วยฝีมือของท่านเอง โดยทางร้านได้บริการหากท่านอยากซื้อกลับ โดยบรรจุใส่ถุงสูญญากาศเพื่อความสะดวกในการนำกลับประเทศไทยจากนั้น เก็บภาพความประทับในกับชุดประจำชาติ ฮันบก พิเศษ!! เก็บความประทับใจกับชุดประจำชาติเกาหลีฟรี !! มีชุดให้เลือกมากมาย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ไร่ผลไม้ เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงเกษตร เก็บผลไม้สดสดจากสวน ที่มีในแต่ละช่วงของฤดูกาลของประเทศโดย ช่วง กลางเดือน กันยายน – ต้นพฤศจิกายน สามารถเก็บ ลูกแพร์ และ ลูกแอ๊ปเปิ้ล , ช่วงปลายพฤศจิกายน – ปลายพฤษภาคม เก็บลูกสตรอเบอร์รี่ สัมผัสวิถีชีวิตชาวไร่ของคนเกาหลี เทคนิค ขั้นตอนการปลูกและดูแลผลผลิตทางการเกษตร ที่สามารถผลิตผลไม้ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษและหวานหอมชวนน่ารับประทาน ทำให้เป็นที่ชื่นชอบแก่ผู้ได้มาลิ้มลอง เก็บแอ๊ปเปิ้ลคนละ 2 ลูก หวานกรอบอร่อยมากๆ

คนเกาหลีจะไม่ทำงานที่ใช้แรงงาน จึงไม่มีเด็กเสริฟ พวกไกด์จึงต้องช่วยกันเสริฟลูกทัวร์ เค้าจะให้เกียรติคนขับรถให้ทานก่อน แน่นอนก้ไกด์มัวแต่บริการลูกทัวร์อยู่นี่นา ดีที่มีน้ำจิ้มแจ่วกับไดโดมอนมาเสริม
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บริการ คาลบี้ หมูย่างเกาหลี เป็นอาหารพื้นเมืองเกาหลีเลื่องชื่อและเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก มีรสชาติออกหวานกลมกล่อม โดยนำหมูส่วนที่ติดกับกระดูก นำไปย่างบนเตาถ่านแบบดั้งเดิม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และเครื่องเคียงต่างๆ น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวและน้ำซุปสาหร่ายจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เอเวอร์แลนด์ (www.everland.com) สวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา พบกับ “FESTIVAL WORLD” การแสดงขบวนพาเหรดอันตระกานตา สนุกกับเครื่องเล่นนานาชนิดที่ถูกออกแบบให้ผู้ใหญ่สามารถเล่นร่วมกับเด็กได้ สนุกสุดมันกับบัตร FREE PASS โดยท่านสามารถเลือก เล่นเครื่องเล่นได้ทุกชนิดไม่จำกัดจำนวนครั้ง เลือกสรรของที่ระลึกจากสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ พร้อมเก็บภาพความประทับใจกับสวนดอกไม้ซึ่งเต็มสะพรั้งกลางลาน โดยถูกจัดไว้เป็น THEME ตามฤดูกาล / เดือนมีนาคม-เดือนเมษายน ชมสวนดอกทิวลิป / เดือนพฤษภาคม-เดือนมิถุนายน ชมสวนดอกกุหลาบ / เดือนสิงหาคม-เดือนกันยายน ชมสวนดอกลิลลี่ / เดือนตุลาคม-เดือนพฤศจิกายน ชมสวนดอกเบญจมาศ นอกจากนี้ท่านยังสามารถท่องไปกับโลกของสัตว์ป่าซาฟารี ท่านจะได้พบกับ ไลเกอร์ ซึ่งเป็นลูกแฝดผสมขึ้นจาก สิงโตผู้เป็นพ่อและเสือผู้เป็นแม่ นับเป็นแฝดผสมเสือ-สิงโตคู่แรกในโลก ที่มีอายุกว่า15 ปีและสนุกเพลิดเพลินกับการทักทายจาก หมี นานาพันธ์ เจ้าหน้าที่ในส่วนซาฟารีจะเล่นและทักทายกับพวกเขาเหล่านั้น ชอบที่นี่มากๆ เลยคนไม่ค่อยเยอะ เครื่องเล่นแต่ละอย่างรอคิวไม่นาน เริ่มด้วยนั่งเรือล่องแก่ง ดูการ์ตูน 3 มิติ มีการเคลื่อนไหว มีลมเป่าด้วย ดูขบวนพาดเหรดเทศกาลฮาโลวีน แล้วก็ดูโชว์กายกรรมรัสเซีย ถ่ายรูปสวนดอกไม้ นั่งกระเช้าไปและกลับ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารบุฟเฟ่ต์ พร้อมขาปูยักษ์อลาสก้า และอาหารทะเลสดๆ หลากหลายชนิดให้ท่านได้เลือก รับประทานได้มากมาย และเครื่องดื่ม จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก Rizt Carton 5 ดาว

คืนนี้กลับดึกอีกเช่นเคย เตรียม pack กระเป๋าจ้า ชอบสุขภัณฑ์โรงแรมนี้จังเป็นแบบกดปุ่มหมด

วันที่ห้า ศูนย์โสม - หมู่บ้านนัมซานฮันอก - คลองชองเกชอน- ช้อปปิ้งเมียงดง - กรุงเทพฯ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม เราเลือกทานที่ห้องอาหารญี่ปุ่น หลังอาหารนำท่านสู่ ศูนย์โสม ในบรรดาสมุนไพรทั้งหมดในเกาหลี โสม จัดเป็นสมุนไพรที่คนนิยมใช้กันมากที่สุด เพราะเชื่อว่าโสมสามารถรักษาโรคได้สารพัดโรค วงจรการเก็บเกี่ยวโสมใช้เวลาตั้งแต่ 1-6 ปีโสมอายุ 6 ปี ถือได้ว่าเป็นโสมที่มีคุณภาพดีที่สุด ในสมัยโบราณโสมถือเป็นของล้ำค้ายิ่งกว่าทอง โสมเกาหลีจึงจัดว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล ชมวงจรชีวิตของโสม พร้อมเลือกซื้อโสมคุณภาพดีซึ่งรัฐบาลรับรองใช้บำรุงร่างกายทั้งยังเป็นของฝาก ซึ่งโสมที่นี้มีราคาถูกกว่าเมืองไทย 2 เท่า


จากนั้นนำท่านสู่ หมู่บ้านนัมซานฮันอก เป็นหมู่บ้านที่ถูกสร้างขึ้นโดยรัฐบาลเกาหลี โดยนำเอาตัวบ้านจากจุดต่างๆของประเทศมาไว้รวมกันที่นี้ แล้วสร้างบรรยากาศให้เหมือนหกร้อยปีก่อน คนเกาหลีจะเรียกบ้านว่า ฮันอก ซึ่งเฟอร์นิเจอที่นำมาตกแต่งเป็นของจากโปราณทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ ตู้หนังสือห้องที่จัดให้ดูในบ้านมีทั้งห้องครัว ห้องนอน ห้องทำงาน นอกจากนั้นแล้วยังมีการจัดร้านอาหารเกาหลีซึ่งในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่จัดขายของที่ระลึก และ ยังมีกิจกรรม การแสดงดนตรีให้แก่นักท่องเที่ยวด้วยจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ คลองชองเกชอน ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสพลังแห่งเกาหลีได้ในสองข้างทาง อนุเสาวรีย์แม่ทับอีซุนซิน วีรบุรุษในศตวรรษที่ 16 ตั้งเด่นเป็นสง่า วงเวียนน้ำพุซิตี้ ฮอลล์ พลาซ่า ศาลาว่าการกรุงโซล คลองชองเกชอน เป็นคลองที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองของกรุงโซล ในอดีตเคยถูกถมทำเป็นถนน ต่อมาเมื่อครั้นที่ประธานาธิปดี ลี เมียง บัค ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าการกรุงโซล ได้ลื้อถอนทำเป็นคลองที่เห็นกันในปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นสถานที่ให้ชาวเกาหลีมาผ่อนคลาย โดยทำสองฝั่งคลองเป็นสวนสาธารณะ ปัจจุบันบริเวณคลองชองเกชองมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ งานแสดงศิลปะต่างๆ งานดนตรีนิทรรศการดอกไม้ ฯลฯ ที่ท่านสามารถพบเห็นได้ นอกจากนั้นร้านขายของอีกมากมายที่เปิดทอดยาวเพื่อให้ท่านได้เลือกซื้อ ในยามค่ำคืนท่านจะได้พบกับแสงสีอันตระกานตาจากทางน้ำพุ และไฟที่ถูกประดับไว้อย่างสวยงาม รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บริการ พิบิมพัพ พุลโกกิ ทำจากข้าวสวยผสมกับเนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ผักปรุงรสและไข่ จะคลุกกับโคชูจัง (ซอสพริกรสเผ็ด) ก็ได้ถ้าต้องการ เสิร์ฟพร้อมหมูผัดวุ้นเส้น และหอมใหญ่ มีน้ำขลุกขลิกออกรสหวานเล็กน้อยจากนั้นนำท่านช้อปปิ้ง ย่าน เมียงดง หรือสยามสแควร์เกาหลี หากท่านต้องการทราบว่าแฟชั่นของเกาหลีเป็นอย่างไร ก้าวล้ำนำสมัยเพียงใดท่านจะต้องมาที่เมียงดงแห่งนี้พบกับสินค้าวัยรุ่น อาทิ เสื้อผ้าบุรุษ-สตรี เครื่องสำอางดังๆของเกาหลี พบกับความแปลกใหม่ในการช้อปปิ้งอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเมียงดงแห่งนี้จะมีวัยรุ่นหนุ่มสาวชาวโสมไปรวมตัวกันที่นี่กว่าล้านคนในแต่ละวันเชิญท่านเลือกซื้อหาสินค้าตามอัธยาศัย หรือจะเลือกลองนั่งดื่มกาแฟในคอฟฟี่ช้อปสไตล์เกาหลีได้ที่นี่เช่นกัน

ย่านเมียงดง แนะนำให้เดินดูแบบคร่าวๆ แล้วไปเดินตลาดผู้ใหญ่อีกด้านดีกว่าค่ะ มีของเอามาลดราคา พวกเสื้อผ้า กางเกงเอามาใช้ในเมืองไทยได้ ส่วนที่เมียงดงเห็นเค้าซื้อโดนัทชื่อ Krispy cream ไปกันคนละกล่องค่ะ น้องน้ำว่าไม่เห็นอร่อยเลย ลองซื้อทานดูก่อนก็ได้ค่ะ น่าจะ Shop ได้ถึง 4 โมงเย็นนะคะ เพราะว่าต้องเผื่อเวลาเดินทางไปสนามบิน
พวกของฝาก ของที่ระลึก ปกติไกด์จะเป็นพาไปซื้อค่ะ จะเป็นร้านอยู่ข้างถนน แบบแผงลอย คือไม่แน่ใจว่าวันที่ไปเอเวอร์แลนด์เค้าจะให้ทานกลางวันเป็นหมูย่างหรือเปล่า เพราะหน้าร้านนั้นจะมีขายของที่ระลึกเช่นเดียวกัน ราคาต่อรองได้ ขึ้นกับความสามาถ

จนได้เวลาสมควรนำท่านสู่สนามบินอินชอน ระหว่างทางพาท่านแวะละลายเงินวอนที่ร้านค้าสนามบิน ซึ่งท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองอีกรอบหนึ่งเป็นการส่งท้ายก่อนอำลาเกาหลี อาทิ บะหมี่ซินราเมียน (มาม่าสไตล์เกาหลี) อูด้ง กิมจิ ขนมช๊อคโก้พายลูกอมแปลกๆที่ประเทศไทยอาจไม่มี ช้อกโกแลตสโตน น้ำจิ้มปรุงรสหมูย่างเกาหลี ไก่ตุ๋นโสมสำเร็จรูป ผลไม้สาลี่ ในราคาพิเศษก่อนกลับเมืองไทย
20.10 เหินฟ้ากลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน KOREA AIRLINE เที่ยวบินที่ KE653
00.10 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ