หัวหน้าธปท. ในการทำงานของข้าพเจ้า
หลังจากสำเร็จการศึกษาปริญาตรีคณะวิทยาศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ ที่ ม. เกษตรศาสตร์ ก็ได้เข้าฝึกงานที่ ธปท. เป็นเวลา 3 เดือน ที่สำนักงานสุรวงศ์
ข้าพเจ้าเริ่มทำงานที่ธปท. ตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งเป็นยุคเปลี่ยนแปลงใหญ่ คือการลอยตัวค่าเงินบาท
ผู้ว่าถูกเปลี่ยนกลางอากาศ
วิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 (อังกฤษ : 1997 Asian financial crisis) หรือเรียกทั่วไปในประเทศไทยว่า “วิกฤตต้มยำกุ้ง” เป็นช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินซึ่งส่งผลกระทบถึงหลายประเทศในทวีปเอเชียเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2540 ก่อให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดการล่มสลายทางเศรษฐกิจทั่วโลกเนื่องจากการแพร่ระบาดทางการเงิน
ข้าพเจ้าเริ่มทำงานที่ธปท. ตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งเป็นยุคเปลี่ยนแปลงใหญ่ คือการลอยตัวค่าเงินบาท
ดำรงตำแหน่ง :
13 ก.ค. 2539 - 28 ก.ค. 2540
จำได้วันที่ประกาศลอยตัวค่าเงิน ข้าพเจ้ามาถึงที่ทำงาน 7 โมงเช้า ก็ว่าเช้ามากแล้ว ปรากฏว่ามีรถนักข่าวมากมาย มาจอดรอแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร เนื่องจากไม่ได้ติดตามข่าว มาทราบเอาตอนเย็น
13 ก.ค. 2539 - 28 ก.ค. 2540
จำได้วันที่ประกาศลอยตัวค่าเงิน ข้าพเจ้ามาถึงที่ทำงาน 7 โมงเช้า ก็ว่าเช้ามากแล้ว ปรากฏว่ามีรถนักข่าวมากมาย มาจอดรอแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร เนื่องจากไม่ได้ติดตามข่าว มาทราบเอาตอนเย็น
วิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 (อังกฤษ : 1997 Asian financial crisis) หรือเรียกทั่วไปในประเทศไทยว่า “วิกฤตต้มยำกุ้ง” เป็นช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินซึ่งส่งผลกระทบถึงหลายประเทศในทวีปเอเชียเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2540 ก่อให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดการล่มสลายทางเศรษฐกิจทั่วโลกเนื่องจากการแพร่ระบาดทางการเงิน
ดำรงตำแหน่ง :
31 ก.ค. 2540 - 4 พ.ค. 2541
ช่วงนี้ใช้ผู้ว่าเปลืองแต่ละท่านดำรงตำแหน่งได้ไม่นานมีเหตุให้ต้องไป
เขียน Winnie The Pooh หมีอันโด่งดัง
ท่านลาออกเอง
31 ก.ค. 2540 - 4 พ.ค. 2541
ช่วงนี้ใช้ผู้ว่าเปลืองแต่ละท่านดำรงตำแหน่งได้ไม่นานมีเหตุให้ต้องไป
เขียน Winnie The Pooh หมีอันโด่งดัง
ท่านลาออกเอง
ดำรงตำแหน่ง :
7 พ.ค. 2541 - 30 พ.ค. 2544
ท่านผู้ว่าการที่ได้ชื่อว่าฝีปากจัด ผู้บริหารถึงขั้นเกรงกลัวเวลาเข้าไปรับงาน ถ้าใครไม่แม่นจริงงานมีมีหนาว เกิดการเปลี่ยนแปลงใน IT และสายงานต่างๆ มากมาย
ท่านไม่สามารถสู้การเมืองได้ จึงต้องออกก่อนหมดวาระ
7 พ.ค. 2541 - 30 พ.ค. 2544
ท่านผู้ว่าการที่ได้ชื่อว่าฝีปากจัด ผู้บริหารถึงขั้นเกรงกลัวเวลาเข้าไปรับงาน ถ้าใครไม่แม่นจริงงานมีมีหนาว เกิดการเปลี่ยนแปลงใน IT และสายงานต่างๆ มากมาย
ท่านไม่สามารถสู้การเมืองได้ จึงต้องออกก่อนหมดวาระ
ดำรงตำแหน่ง :
31 พ.ค. 2544 - 6 ต.ค. 2549
ท่านดูเป็นคุณชายมากที่นิยมจัดงานเต้นรำ และมีฝีปากที่ไม่แพ้ใครทำให้ ธปท. เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ
จัดทำองค์กรกะทัดรัด มีพนักงาน Early Retired จำนวนมาก
31 พ.ค. 2544 - 6 ต.ค. 2549
ท่านดูเป็นคุณชายมากที่นิยมจัดงานเต้นรำ และมีฝีปากที่ไม่แพ้ใครทำให้ ธปท. เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ
จัดทำองค์กรกะทัดรัด มีพนักงาน Early Retired จำนวนมาก
ดำรงตำแหน่ง :
8 พ.ย. 2549 - 30 ก.ย. 2553
ท่านผุ้ว่าหญิงเก่งคนเดียวของธปท. ที่สามารถดำรงตำแหน่งจนครบวาระได้
ทุกคนใน ธปท รอกฟังข่าวการเปลี่ยนแปลงในองค์กรแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มี อิๆ
มี พรบ. สถาบันการเงินเกิดขึ้น
วิกฤติการเงินครั้งใหญ่ของโลกในช่วงปี 2550-2551
หรือที่เรารู้จักกันในนาม ” วิกฤติการเงิน Hamburger crisis “
8 พ.ย. 2549 - 30 ก.ย. 2553
ท่านผุ้ว่าหญิงเก่งคนเดียวของธปท. ที่สามารถดำรงตำแหน่งจนครบวาระได้
ทุกคนใน ธปท รอกฟังข่าวการเปลี่ยนแปลงในองค์กรแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มี อิๆ
มี พรบ. สถาบันการเงินเกิดขึ้น
วิกฤติการเงินครั้งใหญ่ของโลกในช่วงปี 2550-2551
หรือที่เรารู้จักกันในนาม ” วิกฤติการเงิน Hamburger crisis “
ดำรงตำแหน่ง :
1 ต.ค. 2553 - 30 ก.ย. 2558
ท่านผู้ว่าการที่มาจากคนนอก สามารถเข้าชิงมาได้ด้วยคะแนนขาดลอย. และสามารถดำรงตำแหน่งจนครบวาระได้ ทั้งๆ ที่ไม่ถูกกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และ รมต. กระทรวงการคลัง แต่ท่านก็นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว
เกิดค่านิยมร่วม
1 ต.ค. 2553 - 30 ก.ย. 2558
ท่านผู้ว่าการที่มาจากคนนอก สามารถเข้าชิงมาได้ด้วยคะแนนขาดลอย. และสามารถดำรงตำแหน่งจนครบวาระได้ ทั้งๆ ที่ไม่ถูกกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และ รมต. กระทรวงการคลัง แต่ท่านก็นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว
เกิดค่านิยมร่วม
ยืนตรง | มองไกล | ยืนมือ | ติดดิน |
---|
ดำรงตำแหน่ง :
1 ต.ค. 2558 -
เป็นท่านผู้ว่าที่อายุน้อยสุดรองจาก ดร.ป๋วย ท่านได้รับคัดเลือกเข้ามาท่านกลางเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นฟู มีโจทย์ให้แก้ปัญหามากมาย พร้อมกับท่านชอบเล่นกับข้อมูล ทำให้ยุค Data Analytic และ IT เฟื่องฟู
เกิดพฤติกรรมหลัก 5 ประการ
ที่สำคัญท่านชอบประหยัดมากๆ และรับคนนอกมาเป็นผู้บริหารเยอะมากเช่นกัน
2563 เกิดไวรัสโควิดทั่วโลก + พรก. ช่วยลูกหนี้ ทำให้เราได้ Work From Home กันถึง 2 เดือนเต็ม ในการที่ทำงานที่บ้าน และทะยอยเริ่มเข้า office ช่วย มิย 50%และ 100% ตามลำดับ
1 ต.ค. 2558 -
เป็นท่านผู้ว่าที่อายุน้อยสุดรองจาก ดร.ป๋วย ท่านได้รับคัดเลือกเข้ามาท่านกลางเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นฟู มีโจทย์ให้แก้ปัญหามากมาย พร้อมกับท่านชอบเล่นกับข้อมูล ทำให้ยุค Data Analytic และ IT เฟื่องฟู
เกิดพฤติกรรมหลัก 5 ประการ
ที่สำคัญท่านชอบประหยัดมากๆ และรับคนนอกมาเป็นผู้บริหารเยอะมากเช่นกัน
2563 เกิดไวรัสโควิดทั่วโลก + พรก. ช่วยลูกหนี้ ทำให้เราได้ Work From Home กันถึง 2 เดือนเต็ม ในการที่ทำงานที่บ้าน และทะยอยเริ่มเข้า office ช่วย มิย 50%และ 100% ตามลำดับ
คนติดเชื้อทั่วโลก แม้แต่พม่า ก้อเอาไม่อยู่เริ่มมีคนติดเชื่อทางชายแดน
24 ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ
ช่วงที่ดำรงตำแหน่งสร้างชื่อเสียงให้กับ ธปท เป็นที่น่าเชื่อถือ แก่คนภายนอก ถึงแม้จะมีความเห็นไม่ตรงกับรัฐบาลเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ย
1ตค2563
ปีนี้เริ่มต้นปีด้วยโรคโควิดกลับมาระบาดใหญ่อีกรอบ ตอนแรกก้อยังไม่หนัก จนกระทั่งมาแตกเอาตรงบ่อนพนัน และแรงงานที่ลักลอบเข้าเมือง พร้อมกับแพร่เชื้อ ทำให้ต้องงดการเดินทางไปมา เราต้องอยู่กับบ้านในช่วงปีใหม่ จนกระทั่งถึง กพ
ที่ทำงานให้ WFH 100% อีกครั้ง รอบนี้มีการเตรียมการอย่างดี
กลางปี 2564 น่าจะมีการฉีดวัคซีนกัน
เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนของไทย
ข่าว ธปท. ฉบับที่ 20/2563
ประวัติ การทำงาน
2540 ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ
เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนของไทย
ข่าว ธปท. ฉบับที่ 20/2563
เรื่อง มาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือ SMEs และดูแลเสถียรภาพตลาดตราสารหนี้เอกชน
เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19
ธปท. เผย 4 มาตรการช่วยเหลือธุรกิจ SMEs และรักษาเสถียรภาพของตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. และกระทรวงการคลังได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อออกมาตรการช่วยบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โรคโควิด 19) ต่อประชาชนและภาคธุรกิจมาต่อเนื่อง แต่การแพร่ระบาดมีแนวโน้มรุนแรงและยาวนานกว่าคาด จึงมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยและเป็นแหล่งการจ้างงานหลักของประเทศ ให้มีเงินทุนและสภาพคล่องเพียงพอเพื่อดำเนินธุรกิจและรักษาการจ้างงานต่อไปได้ รวมทั้งต้องมีมาตรการเพื่อดูแลเสถียรภาพตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน เพื่อรักษาช่องทางการระดมทุนของภาคเอกชนและรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ โดยมาตรการในครั้งนี้จะประกอบด้วย 4 ส่วนที่สำคัญ
มาตรการที่ 1 : การเลื่อนกำหนดการชำระหนี้สำหรับธุรกิจ SMEs ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อช่วยให้ SMEs มีสภาพคล่อง
ธุรกิจ SMEs ที่มีวงเงินสินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (ธนาคาร) แต่ละแห่งไม่เกิน 100 ล้านบาท ได้รับสิทธิ์เป็นการทั่วไป ไม่ต้องชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 6 เดือน และในช่วงที่ผ่อนปรนนี้ไม่ถือว่าเสียประวัติข้อมูลเครดิต
ธปท. หวังว่ามาตรการนี้จะช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการ SMEs ทำให้ SMEs มีเงินสดในมือเพื่อรองรับรายจ่ายจำเป็น โดยเฉพาะค่าจ้างพนักงาน นอกจากนั้น ธปท. คาดหวังว่าในช่วง 6 เดือนนี้ ธนาคารจะต้องทำงานร่วมกับลูกหนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ปรับแผนการผ่อนชำระหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง และช่วยจัดโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสมกับธุรกิจของลูกหนี้
ส่วนธุรกิจ SMEs ที่ไม่ได้ประสบกับปัญหาสภาพคล่องในช่วงนี้ ธปท. แนะนำว่าควรชำระหนี้ตามปกติหรือตามความสามารถ เพราะมาตรการนี้เป็นเพียงการเลื่อนกำหนดวันชำระหนี้เท่านั้น ธนาคารยังคงคิดดอกเบี้ยอยู่ และที่สำคัญ การชำระหนี้ตามปกติจะช่วยให้ธนาคารมีสภาพคล่องที่จะไปดูแลธุรกิจ SMEs ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากวิกฤตการณ์โควิด 19 ได้มากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ เพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) เข้าไปช่วยเหลือสภาพคล่องให้ลูกหนี้ได้อย่างเต็มที่ ธปท. จึงได้ผ่อนปรนเกณฑ์การบริหารสภาพคล่องชั่วคราว
มาตรการที่ 2 : การสนับสนุนสินเชื่อใหม่ (soft loan) ให้แก่ธุรกิจ SMEs วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่อง อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษร้อยละ 2 ต่อปี โดยไม่คิดดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก
ธปท. จัดสรร soft loan อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปี ให้ธนาคารวงเงินรวม 5 แสนล้านบาท เป็นเวลา 2 ปี เพื่อให้ธนาคารนำไปให้สินเชื่อแก่ธุรกิจ SMEs ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศและ มีวงเงินสินเชื่อกับธนาคารแต่ละแห่งไม่เกิน 500 ล้านบาท และมีสถานะผ่อนชำระปกติ หรือ ค้างชำระไม่เกิน 90 วัน (ยังไม่เป็น NPL) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 มาตรการนี้ไม่ครอบคลุมถึงบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET และ MAI) โดยวงเงินที่ SMEs แต่ละรายสามารถขอกู้ได้จะไม่เกินร้อยละ 20 ของยอดหนี้คงค้างของลูกหนี้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562 สำหรับ SMEs ที่สนใจ สามารถขอสินเชื่อได้ที่ธนาคารที่ท่านเป็นลูกค้าและมีวงเงินสินเชื่ออยู่
ในช่วง 2 ปีแรก ธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษร้อยละ 2 ต่อปี โดยในช่วง 6 เดือนแรกรัฐบาลจะรับภาระดอกเบี้ยแทนลูกหนี้ ส่งผลให้ลูกหนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ย และเพื่อสนับสนุนให้ธนาคารเร่งปล่อยสินเชื่อใหม่ในภาวะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ยังมีความไม่แน่นอนสูง รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังจะชดเชยความเสียหายบางส่วนให้แก่ธนาคารในส่วนที่ปล่อยกู้เพิ่มเติมด้วย กรณีที่หนี้กลายเป็นหนี้เสียเมื่อสิ้นสุดระยะเวลา 2 ปี โดยรัฐบาลจะชดเชยความเสียหายให้ไม่เกินร้อยละ 70 ของสินเชื่อที่ปล่อยเพิ่มสำหรับลูกหนี้ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 50 ล้านบาท และชดเชยให้ไม่เกินร้อยละ 60 ของสินเชื่อที่ปล่อยเพิ่มสำหรับลูกหนี้ที่มีวงเงินสินเชื่อ 50-500 ล้านบาท
มาตรการที่ 3 : มาตรการเสริมสภาพคล่องเพื่อดูแลเสถียรภาพตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน
การหยุดชะงักของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และความผันผวนที่สูงขึ้นมากในตลาดการเงินโลก ส่งผลต่อเนื่องมายังตลาดการเงินไทย ในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนบางส่วนได้เทขายตราสารหนี้ประเภทต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนซึ่งเป็นช่องทางการออมที่สำคัญของประชาชนและการระดมทุนของภาคธุรกิจ ปัจจุบันตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนของไทย มียอดคงค้างประมาณ 3.6 ล้านล้านบาท หรือกว่าร้อยละ 20 ของ GDP ทั้งนี้ หากกลไกตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนไม่สามารถทำงานได้ปกติ หรือผู้ลงทุนขาดความเชื่อมั่นในการลงทุน การระดมทุนหรือต่ออายุหนี้ (rollover) ของธุรกิจจะทำได้ยาก แม้ธุรกิจที่มั่นคงก็อาจจะไม่สามารถระดมทุนได้ หรือต้องระดมทุนด้วยต้นทุนที่สูงขึ้นมาก จึงมีความเสี่ยงที่ปัญหาการขาดสภาพคล่องจะลุกลามในวงกว้าง เป็นปัญหาเชิงระบบตามมา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ออมเงินผ่านตัวกลางต่าง ๆ ที่ลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน อาทิ กองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สหกรณ์ออมทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และกองทุนประกันสังคมด้วย
การหยุดชะงักของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และความผันผวนที่สูงขึ้นมากในตลาดการเงินโลก ส่งผลต่อเนื่องมายังตลาดการเงินไทย ในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนบางส่วนได้เทขายตราสารหนี้ประเภทต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนซึ่งเป็นช่องทางการออมที่สำคัญของประชาชนและการระดมทุนของภาคธุรกิจ ปัจจุบันตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนของไทย มียอดคงค้างประมาณ 3.6 ล้านล้านบาท หรือกว่าร้อยละ 20 ของ GDP ทั้งนี้ หากกลไกตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนไม่สามารถทำงานได้ปกติ หรือผู้ลงทุนขาดความเชื่อมั่นในการลงทุน การระดมทุนหรือต่ออายุหนี้ (rollover) ของธุรกิจจะทำได้ยาก แม้ธุรกิจที่มั่นคงก็อาจจะไม่สามารถระดมทุนได้ หรือต้องระดมทุนด้วยต้นทุนที่สูงขึ้นมาก จึงมีความเสี่ยงที่ปัญหาการขาดสภาพคล่องจะลุกลามในวงกว้าง เป็นปัญหาเชิงระบบตามมา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ออมเงินผ่านตัวกลางต่าง ๆ ที่ลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน อาทิ กองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สหกรณ์ออมทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และกองทุนประกันสังคมด้วย
เพื่อดูแลเสถียรภาพของตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนและกลไกของตลาดการเงินให้ทำหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่อง ธปท. และกระทรวงการคลังจึงเห็นควรจัดตั้งกองทุนเสริมสภาพคล่องตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน (Corporate Bond Stabilization Fund: BSF) เพื่อเป็นแหล่งเงินสำรองชั่วคราว (bridge financing) สำหรับเข้าไปซื้อตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทที่มีคุณภาพดีที่มีตราสารหนี้ครบกำหนดชำระในช่วงปี 2563-2564 ทั้งนี้ บริษัทที่ขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนฯ จะต้องชำระอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าอัตราตลาด ต้องระดมทุนส่วนใหญ่ได้จากแหล่งเงินทุนอื่น เช่น การกู้เงินธนาคารพาณิชย์หรือการเพิ่มทุน ต้องมีแผนการจัดหาทุนในระยะยาวที่ชัดเจน รวมทั้งต้องผ่านเกณฑ์และปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำกับกองทุนกำหนด ทั้งนี้ หากผู้ออกตราสารหนี้เสนอขายตราสารหนี้ต่อนักลงทุนทั่วไปและมีการให้หลักประกันแก่ผู้ถือ ตราสารหนี้ที่กองทุน BSF จะลงทุนในคราวเดียวกันต้องมีหลักประกันไม่ด้อยกว่าหลักประกันที่ให้แก่ผู้ถือตราสารหนี้อื่น
มาตรการที่ 4 : ลดเงินนำส่ง FIDF ของธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ (สถาบันการเงิน) เพื่อลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ของภาคธุรกิจและประชาชน
ธปท. ปรับลดอัตรานำส่งเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ (Financial Institutions Development Fund: FIDF) จากเดิมอัตราร้อยละ 0.46 เหลือร้อยละ 0.23 ของฐานเงินฝาก เป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อให้สถาบันการเงินไปปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มเติมให้กับประชาชนและภาคธุรกิจในทันที
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เพื่อให้ ธปท. สามารถดำเนินมาตรการช่วยเหลือ SMEs และดูแลเสถียรภาพของตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนข้างต้นได้ คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) สองฉบับ ได้แก่
1. ร่าง พ.ร.ก. การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา และ
2. ร่าง พ.ร.ก. การสนับสนุนสภาพคล่องเพื่อดูแลเสถียรภาพตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน
ธปท. ขอเรียนว่า พ.ร.ก. ทั้งสองฉบับนี้ให้อำนาจ ธปท. บริหารจัดการสภาพคล่องและปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และมีกลไกที่รัฐบาลจะช่วยรับภาระชดเชยความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นกลไกที่จำเป็นในภาวะที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ยังมีความไม่แน่นอนสูงและอาจจะยืดเยื้อ พ.ร.ก. ทั้งสองฉบับนี้ จะช่วยให้ ธปท. มีเครื่องมือเพิ่มขึ้นสำหรับช่วยเหลือธุรกิจ SMEs และมีเครื่องมือที่พร้อมใช้ดูแลเสถียรภาพของตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนได้อย่างทันการณ์
ธปท. เชื่อมั่นว่ามาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มาตรการสนับสนุนให้สถาบันการเงินเร่งปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกหนี้ มาตรการผ่อนปรนการชำระหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อย รวมถึงมาตรการเพิ่มเติมในครั้งนี้จะช่วยดูแลประชาชน ภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งช่วยรักษาเสถียรภาพของตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนและระบบการเงินของประเทศให้ทำงานได้ต่อเนื่อง ธปท. จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมจะมีมาตรการเพิ่มเติมหากจำเป็น
ธนาคารแห่งประเทศไทย
7 เมษายน 2563
7 เมษายน 2563
ประวัติ การทำงาน
2540 ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ
หัวหน้า: คนีงนิจ พฤษ
ศรัณย์ ธำรงรัตน์
จิราพรรณ ลิ่มศิลา
นรสี พุทธรักษา
อภินันทน์ วัชรางกูร
ได้ชั้น 5
ผู้วิเคราะห์อาวุโส
2550 ฝ่ายวางแผนและพัฒนา
2550 ฝ่ายวางแผนและพัฒนา
หัวหน้า: ชาตรี วรวณิชชานันท์
วิภา กังสดาร
2560 ฝ่ายประเมินความเสี่ยงและแบบจำลอง สง.
2560 ฝ่ายประเมินความเสี่ยงและแบบจำลอง สง.
ผู้วิเคราะห์อาวุโส(ควบ)
หัวหน้า: วันทนีย์ บุญบานเย็น
2562 ฝ่ายตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสี่ยง สง.
2562 ฝ่ายตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสี่ยง สง.
หัวหน้า: วันทนีย์ บุญบานเย็น
ผอ พลเดช ภูมิมาศ
2562 ฝ่ายบริหารข้อมูล
2562 ฝ่ายบริหารข้อมูล
หัวหน้า: อริศรา ธัญญธาดา
วีรยา วงศ์วัชรไพบูลย์
ผอ สุนันทา คงศรีเจริญ
2563 ฝ่ายบริหารข้อมูลและดาต้าอนาไลติกส์
หัวหน้า: ผบส.นุชนารถ ปานทอง
ผบส.ภัทราพรรณ วงศาโรจน์
ผบ.นัทธ์หทัย หวังเสริมวงศ์
ผอส.วันประชา เชาวลิตวงศ์
2578 เกษียณ
2578 เกษียณ
น้องๆ ที่เคยสอนงาน
ตอนอยู่ สกส
น้อง IT
ชนาพร พิกุลนาควงศ์
2565
T26
2566
1 วิภาวรรณ จารุกิจพิพัฒน์ น้องแอมป์
ผู้ชื่นชอบการ Query และรักการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา
มีน้ำใจ และรักการทานขนม
2 นัทธ์หทัย หวังเสริมวงศ์ น้องแบงก์ หัวหน้า BA FI ผู้โดนย้ายจากการดู payment มาเรียนรู้งานหนักด้าน FI และขอศึกษา LMS อย่างลึกซืึ้ง
3 ณัฐฐิรา ทองเหลี่ยม น้องตาล ที่ย้ายมาจาก IT เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยงาน FI หลายๆ เรื่องเลย
4 ใจใกล้ ชัยราช น้องจาก IT มาช่วยงาน FI น้องแนน ชนา ส่งมาให้เรียนรู้ การทำ Mapping ตัวต่างๆ
5 มนธิรา บุญยุภู น้องหญิง ผู้ทำ RDT เรียนรู้งาน DQ ขอ spec ไว้ด้วยได้ไหมค้า DQ1, DQ4
2567
1 น.ส. วีรดา สัตยาวุฒิพงศ์ น้องเพลง
พนักงานเข้าใหม่ที่มีประสบการณ์การทำงานมาแล้ว เริ่มจากการงานปรับ Data source CVA risk
ทำงานละเอียดรอบคอบ รวดเร็ว
2 น.ส.อรปภา กาญจนาคม น้องเพลง น้องจบใหม่ผู้ไม่มีประสบการณ์การทำงานมาก่อน จบป. ตรี วิศวะเคมี โท DA หัวหน้าหวังว่าจะมาทำงานแทนด้าน FI
3 ฉัตรตริน ติยะภูมิ น้อง outsource ที่ผันตัวเองมาเป็นพนักงานประจำ
ได้มาเรียนรู้การสร้าง Suptool จากการดึงข้อมูลที่ datasource
4 ชฎาทิพย์ ปรางกุลเจริญกิจ น้องบิว น้องจาก IT มาช่วยงาน FI น้องแนน ชนา ส่งมาให้เรียนรู้ ARS
ความคิดเห็น